ที่มา ประชาไท
แต่งคนป่าล้อเลียน ศาล
รธน.ตัดสินทำประชาธิปไตยไทยล้าหลัง ชี้ผู้ตรวจการแผ่นดินชงเรื่องเลือกตั้ง
โมฆะกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จวกเป็นการรัฐประหารจากองค์กรอิสระ พร้อมยันการเลือกตั้ง 2 ก.พ.
2557 ไม่เป็นโมฆะ เหตุศาล รธน.วินิจฉัยแค่การกำหนดวันเลือกตั้ง จี้
กกต.เร่งจัดการเลือกตั้งใน 28 เขตที่เหลือ
24 มี.ค. 2557 เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ที่ศาลปกครองภาค 4
จังหวัดขอนแก่น กลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม (ดาวดิน)
และเครือข่ายนักกิจกรรมชมรมนักศึกษาเพื่อการพัฒนา (ชนพ.)
เกิดทางเข้ายื่นฟ้องผู้ตรวจการแผ่นดิน
เรียกค่าเสียหายจากการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
กรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาให้การเลือกตั้งวันที่
2 ก.พ.57 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขอให้เพิกถอนการเลือกตั้งดังกล่าว (คลิกอ่านข่าวเก่า)
ระบุผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีอำนาจหน้าที่ในการนำเรื่องเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญ
วินิจฉัย
และศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่มีอำนาจในการรับพิจารณาในเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2557
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 สรุปว่า
เมื่อได้ดำเนินการเลือกตั้งเป็นการทั่วไปในวันที่ 2 ก.พ. 2557 ไปแล้ว
ปรากฏยังไม่มีการจัดการเลือกตั้งสำหรับ 28 เขตเลือกตั้ง
ซึ่งยังไม่เคยมีการรับสมัครการเลือกตั้งมาก่อนเลย
จึงถือได้ว่าในวันดังกล่าวมิได้มีการเลือกตั้งวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร
ส่วนการที่จะดำเนินการจัดการเลือกตั้ง สำหรับ 28 เขตเลือกตั้ง หลังวันที่ 2
ก.พ.ก็ไม่สามารถกระทำได้
เพราะจะมีผลทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักรเช่นเดียว
กัน เป็นผลให้ พ.ร.ฎ.ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2556
เฉพาะในส่วนที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งเป็นการทั่วไปในวันที่ 2
ก.พ.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญตามมาตรา 108 วรรคสอง
จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา
ผู้ประสานงานกลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม (ดาวดิน) กล่าวว่า
ทางกลุ่มไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีเหตุผล คือ
1.ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจในการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยกรณี
ที่บทบัญญัติแห่งกฎหมายใดขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งการเลือกตั้งวันที่
2 ก.พ. 2557 ไม่ใช่บทบัญญัติแห่งกฎหมาย ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงไม่มีอำนาจใน
การยื่นคำร้อง
ส่งผลให้ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับพิจารณาคำร้องดังกล่าวด้วย
2.พ.ร.ฎ.ยุบสภาผู้แทนราษฎร
พ.ศ.2556 ไม่ได้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
เพราะกฎหมายดังกล่าวได้กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปภายใน 45 วัน แต่ไม่เกิน
60 วัน นั่นคือ วันที่
2 ก.พ. 2557 หลังจากการประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่วันที่ 9 ธ.ค.
2556 ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 108 กำหนดแล้ว
ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิจฉัยเฉพาะบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดที่ขัดต่อรัฐ
ธรรมนูญ ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 2557 นั่นหมายความว่าศาลรัฐ
ธรรมนูญรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยไม่มีอำนาจในการวินิจฉัย
3. เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายจากฝ่ายมวลชนอนุรักษ์นิยมไป
ขัดขวางหรือปิดคูหาการเลือกตั้ง
ทำให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่สามารถไปใช้สิทธิทางการเมืองตามที่
กฎหมายกำหนดได้ และ
กกต.ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองในการการจัดการเลือกตั้ง
แต่กลับมีความพยายามหาช่องทางที่จะไม่ให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือเลื่อน
การเลือกตั้งออกไป ปัญหาดังกล่าวจึงเป็นปัญหาเกี่ยวกับ
“การปฏิบัติตามกฎหมาย”
ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของบทบัญญัติกฎหมาย
“สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนการรัฐประหารจากองค์กรอิสระ
การตัดสินให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ. เป็นโมฆะ
จะนำไปสู่ทางตันของการเลือกตั้งครั้งหน้า
และจะสร้างบรรทัดฐานใหม่ที่เป็นปัญหาต่อไปในอนาคต” จตุภัทร์กล่าว
จตุภัทร์ กล่าวด้วยว่า
การฟ้องครั้งนี้ไม่ได้หวังผลทางกฎหมายเพราะหมดศรัทธากับกระบวนการยุติธรรม
แล้ว แต่ทางกลุ่มต้องการแสดงสิทธิการเมือง
ต้องการพื้นที่ในการแสดงออกเพื่อให้สังคมรู้ว่ามีคนที่ทนไม่ได้กับการใช้
กระบวนการยุติธรรมทำลายประชาธิปไตย จากสถานการณ์ทางการเมืองที่
กกต.หอบหีบเลือกตั้งหนีประชาชน
ส่วนองค์กรอิสระก็ชงเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
ซึงเขารู้สึกว่าเหมือนเป็นกระบวนการปฏิวัติเงียบที่ลิดรอนอำนาจของประชาชน
ส่วนกรณีที่ยื่นฟ้องผู้ตรวจการแผ่นดิน จตุภัทร์ กล่าวว่า
เพราะต้องการให้สังคมได้มองเห็นผู้เล่นหลักอีกตัวหนึ่ง
ซึ่งทำให้การเดินหน้าของกระบวนการประชาธิปไตยต้องหยุดชะงักลง
ทั้งนี้ ตามเอกสารคำฟ้อง ระบุชื่อ นางผาณิต
นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศาสตราจารย์ศรีราชา เจริญพานิช
ผู้ตรวจการแผ่นดิน และศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ผู้ตรวจการแผ่นดิน
เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3 ตามลำดับ พร้อมระบุว่า
หากผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามต้อง
การตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของการจัดการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์
2557 ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามก็ต้องยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเท่านั้น
ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 245 (2)
ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามจบการ
ศึกษาด้านนิติศาสตร์
และเคยเป็นอาจารย์สอนวิชานิติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ
ย่อมมีความรู้ความเข้าใจกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นอย่างดี
และย่อมเข้าใจอำนาจหน้าที่ของตนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 245 (1) และ (2)
อยู่แล้ว
การที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามยังคงยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบ
ด้วยรัฐธรรมนูญของการจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2557
จึงเป็นการการจงใจดำเนินการโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเองไม่มีอำนาจหน้าที่ตามรัฐ
ธรรมนูญ เป็นการดำเนินการนอกขอบอำนาจที่กฎหมายให้ไว้
และเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
แต่งคนป่าล้อเลียน คำตัดสินศาล รธน. ชี้ทำประชาธิปไตยไทยล้าหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว
กลุ่มดาวดินและนักศึกษากลุ่ม
ชนพ.ยังทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์คัดค้านคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ
ที่หน้าตึกที่ทำการศาลปกครอง เริ่มจากมีคน 6 คน
เขียนหน้าเป็นตัวตลกและแต่งตัวเป็นคนป่า
ล้อเลียนการทำงานของศาลที่มีความล้าหลังไม่เป็นประชาธิปไตยไม่ต่างกับยุคคน
ป่า และต่อมามีคนใบหน้าโศกเศร้า 4 คน
เข้ามาชูบัตรประชาชนขึ้นยืนนิ่งพร้อมถือป้ายที่มีข้อความว่า “เลือกตั้ง 2
กุมภาเป็นโมฆะ”
เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐหารได้เกิดขึ้นแล้วแม้ไม่ได้เกิดจากปลายกระบอกปืนแต่
เกิดจากองค์กรอิสระ
กิจกรรมสุดท้ายมีการล้อเลียนกระแสนายกคนกลาง
โดยมีชายใส่หน้ากากซุปเปอร์ฮีโร่ปิดใบหน้า
และถอดเสื้อโดยภายในเสื้อแสดงสัญญาลักษณ์ของซุปเปอร์แมนแต่เขียนคำว่า
“มาตรา 7” แต่ถูกชูป้ายข้อความว่า “ไม่เอานายกคนกลาง ประเทศไทยไม่ต้องการ
Hero”
เป็นการแสดงออกถึงความคิดที่ไม่ต้องการนายกคนกลางที่ไม่ได้มาจากกระบวน
ประชาธิปไตย
นางสาว จุฑามาส ศรีหัตถผดุงกิจ
หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม (ดาวดิน)
กล่าวว่ากิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในครั้งนี้
แสดงให้เห็นการต่อต้านความไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้นในสังคมในอีกรูปแบบหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นการแสดงเป็นคนป่า ในบทบาทของศาลรัฐธรรมนูญ
เป็นการแสดงที่บ่งบอกถึงความล้าหลังของคำวินิจฉัยที่ออกมา การแสดงละครใบ้
ที่แสดงถึงการถูกลิดรอนสิทธิโดยไม่รู้ตัว
แต่ก็พร้อมที่จะสู้ด้วยวิถีแห่งประชาธิปไตย
และสุดท้ายคือ การออกมาของ “ฮีโร่”
ที่จากข้อเท็จจริงที่ผ่านมานั้น ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า
ไม่ได้ช่วยให้ความเป็นประชาธิปไตยในประเทศไทยเจริญงอกงามขึ้นแต่อย่างใด
ซึ่งวิธีการเหล่านี้ล้วนเป็นวิธีการที่ สงบ สันติ อหิงสา อย่างแท้จริง
จากนั้น
กลุ่มผู้ทำกิจกรรมได้อ่านแถลงการณ์ประกาศจุดยืนของกลุ่ม โดยระบุว่า
การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2557 ไม่เป็นโมฆะ
ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งวินิจฉัยแต่เพียงว่าการกำหนดวันเลือก
ตั้งวันที่ 2 ก.พ. 2557 ตาม พ.ร.ฎ.ยุบสภาผู้แทนราษฎร
พ.ศ.2556 ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่เท่านั้น ส่วน
กกต.จะต้องดำเนินการจัดการเลือกตั้งใน 28 เขตที่เหลือซึ่งยังไม่สามารถ
จัดการเลือกตั้งได้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
พร้อมยื่นยัน
ต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบไม่ว่าโดยทหารหรือองค์กรอิสระ
หรืออำนาจนอกระบอบใดๆ และสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ไม่ต้องการนายกคนกลางหรือนายกพระราชทานซึ่งขัดกับหลักการประชาธิปไตยที่
อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
แถลงการณ์ กลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม (ดาวดิน)
จากสถานการณ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำร้องของผู้ตรวจการ
แผ่นดินว่าการจัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2557 ตามพระราช
กฤษฎีกา ยุบสภาผู้แทนราษฎร
พ.ศ.2556 เป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ และต่อมาตุลาการศาลรัฐ
ธรรมนูญได้มีมติ 6 ต่อ 3 เสียง ให้พระราชกฤษฎีกา ยุบสภาผู้แทนราษฎร
พ.ศ.2556 ในส่วนที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 ก.พ.2557 ไม่ชอบ
ด้วยรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 108 วรรค 2 นั้น พวกเรา (ดาวดิน)
ได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองที่แบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจนระหว่าง
ฝ่ายประชาธิปไตยและฝ่ายอนุรักษ์นิยม
พวกเราขอแสดงเจตนาทางการเมืองว่าไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ด้วยเหตุผลดังนี้
1. ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีอำนาจในการยื่นคำร้องให้ศาลรัฐ
ธรรมนูญวินิจฉัย เพราะ
ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจในการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
กรณีที่บทบัญญัติแห่งกฎหมายใดขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งการเลือกตั้งทั่ว
ไปเมื่อวันที่
2 ก.พ. 2557 ไม่ใช่บทบัญญัติแห่งกฎหมาย ส่งผลให้ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจใน
การรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาด้วย
2. พระราชกฤษฎีกา ยุบสภาผู้แทนราษฎร
พ.ศ.2556 ไม่ได้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
เพราะพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวได้กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปภายใน 45 วัน
แต่ไม่เกิน 60 วัน นั่นคือ วันที่
2 กุมภาพันธ์ 2557 หลังจากการประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่วัน
ที่ 9 ธันวาคม 2556 ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา
108 กำหนดแล้วซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิจฉัยเฉพาะบทบัญญัติแห่งกฎหมายใด
ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 2557 นั่นหมาย
ความว่าศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน
โดยไม่มีอำนาจในการวินิจฉัย
3. เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายจากฝ่ายมวลชนอนุรักษ์นิยมไป
ขัดขวางหรือปิดคูหาการเลือกตั้ง
ทำให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่สามารถไปใช้สิทธิทางการเมืองตามที่
กฎหมายกำหนดได้ และคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ
กกต.ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองคือการจัดการเลือกตั้ง แต่
กกต.กลับมีความพยายามหาช่องทางที่จะไม่ให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือเลื่อน
การเลือกตั้งออกไป ซึ่งเป็นการสิ้นเปลื้องงบประมาณแผ่นดิน 3,800 ล้านบาทโดย
เปล่าประโยชน์ และถือเป็นการลิดรอนสิทธิของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยอย่าง
ร้ายแรง
ดังนั้น พวกเราขอประกาศจุดยืนว่า
1. การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ไม่
เป็นโมฆะ
ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งวินิจฉัยแต่เพียงว่าการกำหนดวันเลือก
ตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์2557 ตามพระราชกฤษฎีกา ยุบสภาผู้แทนราษฎร
พ.ศ.2556 ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่เท่านั้น ไม่ใช่วินิจฉัยให้การเลือกตั้ง
เป็นโมฆะ
2.คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ
กกต. จะต้องดำเนินการจัดการเลือกตั้งใน 28 เขตเลือกตั้งที่เหลือ
ซึ่งไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
3.พวกเราขอต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบไม่ว่าโดยทหารหรือ
องค์กรอิสระ หรืออำนาจนอกระบอบใดๆ
อันเป็นการทำลายล้างระบอบประชาธิปไตยโดยฝ่ายที่ไม่ต้องการประชาธิปไตย
4.พวกเราสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ไม่ต้องการนายกคนกลางหรือนายกพระราชทานตามมาตรา7 แห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งขัดกับ
หลักการประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
“การเลือกตั้ง” ไม่ได้แสดงถึงความเป็นประชาธิปไตย
แต่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ “การเลือกตั้ง”
ซึ่งเป็นกลไกขั้นพื้นฐานที่แสดงถึงสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค ของประชาชน
และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกันตามหลักสิทธิมนุษยชน
ด้วยจิตคารวะ
กลุ่ม เผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม (ดาวดิน)
เครือข่ายนักกิจกรรมชมรมนักศึกษาเพื่อการพัฒนา ( ชนพ. )
24 มีนาคม 2557
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น