1. ผมคิดว่าตัวสุนทรพจน์ของนาย
กยิ่งลักษณ์สื่อสารได้ดี สื่อสารสิ่งที่ควรสื่อ และผมยินดีดีเฟนด์ให้กับสุนทรพจน์นี้
2. แต่ผมยังไม่รู้สึกว่าตัวนาย
กยิ่งลักษณ์ ทักษิณ เพื่อไทย หรือใครก็ตาม ทำหน้าที่ได้ดีพอในฐานะรัฐบ
าล หรือกระทั่งในฐานะนักการเมื
องอาชีพที่เข้าสู่อำนาจด้วย
กระแสประชาธิปไตย เพราะลำพัง “การพูด” ไม่เพียงพอที่จะสอบผ่านในสายตา
ผม
3. ผมเสียดายที่คนไทยไม่ได้ฟัง
สุนทรพจน์ดีๆแบบนี้ในภาษาไท
ย ในประเทศไทย แม้ว่าคนไทยเกินครึ่งจะเทคะแนนให้นายกฯค
นนี้ขึ้นสู่อำนาจ แต่มวลชนอีกหลายคนยังต้องติดคุกอยู่ และอีกหลายคนที่ต่อสู้ยอมที่จะบาดเ
จ็บหรือแม้กระทั่งเสียชีวิต
4. ถ้าให้เดา ผมเชื่อว่าการพูดครั้งนี้ไ
ม่ได้เป็นไปเพื่อระบอบประชาธิปไตยหรือเพื่อผู้เดือด
ร้อนจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ผ่านมา เพราะมีอีกหลายสิ่งที่เธอสา
มารถทำได้หากตั้งใจจะทำจริง
ๆ ผมเชื่อว่านี่เป็นเพียงไพ่อีกหนึ่งใบที่เอาออกมาเล่นเดิมพันบน
โต๊ะแห่งอำนาจ
5. การวิพากษ์วิจารณ์สุนทรพจน์
เป็นคนละประเด็นกับการวิจาร
ณ์นายกรัฐมนตรี และด้วยเหตุผล 1-4 ทำให้ผมยินดีจะดีเฟนด์ให้กับตั
วสุนทรพจน์ แต่ไม่รู้สึกว่านายกฯทำคุณง
ามความดีขนาดต้องดีเฟนด์ให้
แก ใครอยากด่าเธออย่างไรเชิญตาม
สะดวก
6. นายกรัฐมนตรี ก็เหมือนคนทั่วไป ด่าได้ ติได้ เกลียดได้ ไม่ใช่เทวดาที่ไหน ไม่มีใครบังคับให้ต้องรักนา
ยก แต่ “ท่าทีการด่า” ใครหรืออะไรสักอย่างนั้น มันจะสะท้อนตัวผู้ด่า ผู้วิจารณ์เองในเวลาเดียวกั
น
7. จะเห็นว่ากลุ่มที่ด่าว่านาย
กฯพูดไม่หมด พูดความจริงครึ่งเดียว พูดโกหก คือกลุ่มที่ต้องการแย่งชิงก
ารเขียน ตีความ และพยายามสร้างความชอบธรรมต่อสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นอดีต เพียงเพราะตัวเองมีส่วนร่วมอยู่ใ
นเรื่องราวเหล่านั้นด้วย
8. ส่วนกลุ่มที่ด่าว่านายกฯขาย
ชาติ ก็คือกลุ่มคนที่มองความหมายของคำว่า"ชาติ"แบบตื้นเขิน ชาตินิยมหลงยุค มองต่างชาติดีกว่าตนเอง มองว่าต่างชาติไม่รู้ตื้นลึ
กหนาบางในประเทศตนเอง มองว่าความน่าอับอายอยู่ที่
การสื่อสารมากกว่าเรืองราวที่เกิดขึ้นจริง
9. เป็นที่น่าสนใจว่ากลุ่มที่ด่าหยาบๆคายๆแบบไม่มีเนื้อหา
ใดๆนั้น ลึกๆแล้วเขาคิด/
รู้สึกอย่างไร เป็นไปได้ไหมว่าเขารู้ดีแก่
ใจว่าสิ่งที่พูดมันหมายถึงอ
ะไร แต่มันเจ็บปวดเกินกว่าจะออก
มาแก้ต่างหรือยอมรับ
10. พูดตรงๆว่าผมไม่รู้ว่าคำว่า
“กะหรี่” เป็นคำด่า หรือคำดูถูกเลยจริงๆ อาจฟังดูโลกสวยหน่อมแน้ม แต่ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่ากะห
รี่เป็นของต่ำกว่ามนุษย์ปกติจนถึงต้องใช้คำว่า “กะหรี่ยัง ทำอย่างโน้น อย่างนี้”
ผมมองว่ากะหรี่ก็คืออาชีพขา
ยบริการอย่างหนึ่ง เหมือนพนักงานนวดเท้า รปภ.ห้าง แพทย์ ทนายความ หรือดาราภาพยนตร์ร้อยล้าน
ปัญหา
จึงอยู่ที่คนซึ่่งยก “กะหรี่” ขึ้นมาด่าผู้หญิงคนอื่น
เพราะการจะด่าคนอื่นได้ เท่ากับว่าเขา “เหยียดกะหรี่” ไปแล้วอย่างมาก
จึงสรุปต่อได้อีกทีในทำนองว่า “มึงเหี้ยกว่ากะหรี่อีก”
คนที่ด่าแบบนี้ จึงสะท้อนความ “ต่ำ” ของตัวเองถึงสองชั้น หนึ่งคือต่ำในการเหยียดอาชีพกะหรี่ และสองคือการยัดเยียดความต่ำ(ที่ตนเองยึดถือ) นั้นให้กับคนเพศแม่ที่ตนเองเกลียด
ถ้าสำเนียงส่อภาษา และกริยาส่อสกุลการด่า/วิพากษ์วิจารณ์ ก็ย่อมส่ออะไรบางอย่างในตัวผู้ด่าเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น