แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ข้อคิดต่อการ 'ล้ม' ศาลรัฐธรรมนูญ

ที่มา Thai E-News





ขอเปิดเบิ่งในเรื่องเกี่ยวเนื่องกับสิทธิทางการเมือง (อันเป็นสิทธิมนุษยชนแขนงหนึ่ง)  ว่าด้วย ตลก. ศาลรัฐธรรมนูญ ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนถึงขั้นมีประชาชน (เสื้อแดง) ไปชุมนุมเรียกร้องให้มีการปลดกัน และจดหมายเหตุของภาคีฉบับประจำเดือนพฤษภาคมนี้ได้นำเสนอ วิธี 'ล้ม' อย่างชอบธรรม เอาไว้อย่างแยบยล

ตลก. ศาลรัฐธรรมนูญทำอะไรถึงมีคนเรียกร้องให้ปลด และมีคนเห็นว่าต้อง ล้ม เพื่อให้ไม่เยิ่นเย้อตามโจทย์  ผมขอผลักภาระให้ไปถาม อจ. สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ ดู ท่านเขียนถึง ตลก. ไว้ละเอียดตั้งแต่เริ่มนิสัยเสียจนมาลงท้ายทำตัวเห้..ที่นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ซึ่ง ประชาไทออนไลน์ คัดมาช่วยแพร่กระจายอีกทอด
ผมขอแค่เอาไฮไล้ท์มาทำซ้ำย้ำหัวตะปูให้เห็นจะ จะกันเท่านั้นว่า ตลก. ท่าน “เอาถ้อยอ้าง เอาข้างแถ แท้สันดาน ล้วนเล่ห์เหลี่ยม วิชามาร ศาลธนญชัย”



ผลการชุมนุมไล่ ตลก. โดยกลุ่มวิทยุชุมชน หรือ กวป. ที่ทราบกันอย่างเป็นทางการว่า นปช. ไม่เอาด้วย รัฐบาลยิ่งลักษณ์เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ พรรคเพื่อไทยไม่รู้ไม่ชี้ ถึงจะมีคนในรัฐบาลหลายท่าน รวมทั้ง ผู้ใหญ่ในพรรคต่างเห็นว่าเป็นสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ
ท้ายที่สุดการชุมนุมก็ต้องถอยลงตามทำนอง เหลือไว้แต่กระแส และข้อเท็จจริงต่างๆ ที่ฟ้องประชาชน และฟ้องโลกว่า ตลก. มิได้ปฏิบัติหน้าที่ตามตัวบทกฏหมาย หากแต่วินิจฉัยความตามต้องการของ ตัวกู เป็นที่ตั้ง
เป็นเหตุให้ ส.ส. และ ส.ว. รวมกันกว่า ๓๐๐ คน จับมือกันซักค้านศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นการเล่นบทผู้ถืออาญาสิทธิ์สูงสุดแห่งชาติด้วยถ้อยอ้าง ค่างโหนพระปรมาภิไธย และพระบรมเดชานุภาพ อ้าแขนรับคำร้องของ ส.ว. สรรหา ที่นำโดยนายสมชาย แสวงการ ให้พิจารณาสั่งห้ามข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา ๖๘ ในสภา กลุ่มสมาชิกรัฐสภานำโดยนายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี และนายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล ที่รวมหัวกันซักค้านศาล รธน. ออกแถลงการณ์ให้เหตุผลชัดเจนตามครรลองแห่งกฏหมาย และรัฐธรรมนูญว่า
ศาล รธน. ไม่มีอำนาจตีความเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นอำนาจอธิปไตยของฝ่ายนิติบัญญัติ ดังที่รัฐธรรมนูญมาตรา ๖๘ นั้นเองระบุไว้ ศาลจะรับคำร้องได้ต่อเมื่อผ่านขั้นตอนการตรวจสอบของอัยการสูงสุดก่อนแล้วเท่านั้น
มิหนำซ้ำ ตลก. ศาลรัฐธรรมนูญสองในสามคนที่ลงมติรับคำร้องเรื่องนี้ คือนายจรัญ ภักดีธนากุล และนายสุพจน์ ไข่มุกต์ นั่นก็เป็นผู้มีส่วนได้เสียกับรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ ที่สภาจะทำการแก้ไข เนื่องเพราะเป็นอดีต ส.ส.ร. ผู้ร่วมร่าง รธน. ฉบับนี้ ตามหลักจริยธรรมของตุลาการแล้วต้องถือว่า ตลก. ทั้งสองกระทำความผิดถึงขั้นปลดออกได้
ในแง่ของตัวบทกฏหมายเป็นที่ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญ เอาข้างแถในเรื่องมาตรา ๖๘ นี้เป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกรับคำร้องของน้องรักในพรรคประชาธิปัตย์ข้ามหน้าอัยการสูงสุด แล้วตีความว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๙๑ ของรัฐสภาขัดต่อการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้ระงับยับยั้งการแปรญัตติวาระสามไว้ แถมมีคำแนะนำให้ทำการแก้ รธน. เป็นรายมาตราแทน
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง เมื่อรัฐสภาทำการแก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราใน ม. ๖๘ ศาล รธน. (ด้วยเสียง ๓ ใน ๕ ซึ่งซักค้านได้อีกว่าองค์ประชุมไม่เหมาะสม คือ ตลก. หายไปสี่) ก็รับคำร้องข้ามหัวอัยการสูงสุดแบบเดียวกันอีกว่าแก้ไม่ได้ 
ซึ่งทั้งมาตรา ๖๘ และมาตรา ๒๙๑ ถ้าให้นักกฏหมายมหาชนตีความกันละก็ ล้วนเห็นเป็นเสียงเดียวว่ามีทั้งเจตนา มีทั้งนัยยะแห่งระเบียบกฏหมาย (Rule of Law หรือนิติธรรม) ว่า อำนาจการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นของรัฐสภาเท่านั้น ถึงศาล รธน. จะมีอำนาจตีความรัฐธรรมนูญ แต่มิใช่ก้าวล้ำเข้าไปตีความเรื่องการแก้ไข รธน. ด้วย

รวม ความว่าตุลาการศาล รธน. ชุดนี้นี่แหละคือตัวปัญหา เพราะหลายครั้งหลายหนตีความให้เป็นคุณแก่พวกพ้องน้องรักในพรรคประชาธิปัตย์ และเครือข่ายพันธมิตรภาคีประชาชนเพื่อธรรมาธิปไตยกับกองทัพปลดแอก ประชาธิปไตย ที่ขณะนี้จับจองพื้นที่สนามหลวงปักหลักอยู่กินประดุจค่ายผู้ลี้ภัย โดยนายชัยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำบอกว่าจะไม่ถอยจนกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์จะออกไป
คงเตรียมการกันไว้ว่าจะอยู่นาน
แม้ว่าองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญรวมทั้งศาล รธน. มักมีปัญหาแบบเดียวกัน คือนอกจากมีที่มาเป็นเด็กสร้างสวมใส่โดยคณะรัฐประหาร คมช. แล้วยังมีบุคคลากรที่แสดงอาการเลือกข้าง ให้ท้ายพรรคการเมืองชื่อประชาธิปไตยแต่ใจราชานิยมที่ผันตัวเองไปเป็นขบวนการคัดง้างต่อต้านทักษิณ และชินวัตรเป็นสรณะ
ทว่าปัญหาในทางโครงสร้างนั้นแก้ไขได้ด้วยการใช้เวลา “เผาให้ร้อนแล้วตีให้เข้ากรอบ” แต่บุคคลากรอันเปรียบประดุจ สนิม ที่แม้จะเกิดแต่เนื้อใน ก็ยังขูดลอกออกให้เนื้อเหล็กสะอาดก่อนนำไปเผา และตีได้ ดังนี้ผมจึงเห็นดีกับบรรดา ส.ส.-ส.ว. ที่เข้าชื่อกันค้านศาล รธน. ที่จะยื่นถอดถอน ตลก. ทั้งคณะ
เพียงแต่มีข้อกังขาในการใช้มาตรา ๒๗๔ ของวุฒิสภาเพื่อดำเนินการถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้โดยอาศัยเนื้อความตามมาตรา ๒๗๐ และโดยการร้องเรียนของสมาชิกสภาผู้แทนฯ จำนวน ๑ ใน ๔ ตามมาตรา ๒๗๑ แต่การลงมติถอดถอนนั้นให้ถือคะแนน ๓ ใน ๕ เป็นเครื่องตัดสิน
ซึ่งในจำนวนสมาชิกวุฒิสภาทั้งสิ้น ๑๕๐ คน มาจากการเลือกตั้ง ๗๖ คน สรรหา (หรือแต่งตั้ง) อีก ๗๔ คน นับว่ายากที่จะเอาชนะได้ แม้การลงมติกำหนดให้ทำโดยคะแนนลับก็ตาม
ดังนั้นการถอดถอน ตลก. ศาลรัฐธรรมนูญจึงจำต้องใช้สามประสาน คือใช้มาตรา ๒๗๑ ให้สมาชิกสภาผู้แทนฯ จำนวน ๑ ใน ๔ วุฒิสภาอีกจำนวน ๑ ใน ๔ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า ๒ หมื่นคน เป็นผู้ร้องขอ เพื่อให้วุฒิสภาดำเนินการพิจารณาตัดสินตามมาตรา ๒๗๔
ทั้งนี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทยจักต้องออกมาทำการรณรงค์สนับสนุนสามประสานนี้ด้วยอย่างเต็มที่ เพื่อให้ปรากฏโจ่งแจ้งว่าเป็นความเห็นของเสียงส่วนใหญ่ในประเทศ การออกเสียงลงมติด้วยคะแนนลับของสมาชิกวุฒิสภาจึงจะเป็นที่หวังได้ว่าสะท้อนความต้องการของประชาชนทั้งมวล
ไหนๆ ก็ไหนๆ ในเมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์กล้าหาญถึงขนาดปล่อยให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยออกโรงซักค้านศาลรัฐธรรมนูญ และนายกรัฐมนตรีหญิงไปปาฐกถาที่อูลานบาตาร์ประจานการรัฐประหาร และการเข่นฆ่าประชาชนในประเทศไทยแล้วละก็ กล้าต่อไปอีกนิดผลักดันการถอดถอน ตลก. ศาลรัฐธรรมนูญทั้งชุดให้สำเร็จ อนาคตทางการเมืองจึงจะแจ่มใส
อย่ามัวกระมิดกระเมี้ยน ชักตื้นติดกึก ชักลึกติดกัก อยู่อีกเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น