แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

"ทักษิณ" โพสต์ FB แนะแก้ปัญหาชาติเชิงโครงสร้าง มองปัญหาแบบองค์รวม

ที่มา go6tv



11 พฤษภาคม 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00น. ที่ผ่านมา พันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก https://www.facebook.com/thaksinofficial บอกเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ Functional Medicine ซึ่ง เป็นการรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบันที่ใช้นวัตกรรมในการดูแลรักษาให้มี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมเปรียบเทียบมุมมองแนวคิดแบบองค์รวมที่มีการบริหารจัดการและการแก้ปัญหา ที่ดีกว่าการมองแบบแยกส่วน โดยมีข้อความดังนี้

ท่าน เคยได้ยินคำว่า Functional Medicine ไหมครับ ตอนนี้ถือว่าเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของวงการแพทย์อเมริกาที่กำลังฮิต ผมบังเอิญมาปักกิ่งได้พบกับแพทย์ชาวจีนที่เป็นลูกศิษย์ของหมออเมริกันที่ ดูแลสุขภาพให้ทั้งประธานาธิบดีโอบาม่า และประธานาธิบดีคลินตั้น เขาใช้วิธีการ Functional Medicine นี้นั่นเอง

หลัก การก็คือเขามีความเชื่อว่าอวัยวะทุกส่วน ถ้าทำงานร่วมกันได้ดีไม่มากไปไม่น้อยไป ก็จะทำให้ร่างกายกลับมามีความสมดุลและก็จะแข็งแรง โรคเล็กโรคน้อยก็จะหายไปอย่างปลิดทิ้ง โดยอาศัยการค้นพบ DNA ของมนุษย์แล้ววิเคราะห์ได้อย่างละเอียดถึงความบกพร่องในการทำงานของมันแล้ว ให้ยาที่เหมาะสมเพื่อแก้ไข หมอจีนคนนี้ก็เลยเจาะเลือดผมไปเป็นสิบหลอดพร้อมปัสสวะ ส่งไปตรวจ Lab ที่สหรัฐอเมริกา จะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ ก็จะวิเคราะห์กลับมาพร้อมบอกว่าจะต้องทานยาอะไร งด/เพิ่มอาหารหมวดไหน ร่างกายเราก็จะทำงานได้เหมือนคนอายุน้อยกว่าอายุจริง ที่เมืองไทยก็มีการทำเช่นนี้แล้ว แต่ก็ต้องส่งไปตรวจ Lab ที่อเมริกาเช่นกัน

ที่ ผมพูดให้ฟังก็อยากจะให้ทุกคนได้รู้จักรักษาร่างกายตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ให้ดีขึ้น และมากกว่านั้นคือผมอยากจะพูดถึงวิชาการบริหารองค์กรและแนวคิดที่เปลี่ยน แปลงไปของมนุษย์ (Paradigm Shift) ที่เปลี่ยนจากวิธีคิดที่เป็นไปตามวิวัฒนาการตามที่ Alvin Toffler เคยพูดไว้เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้วในหนังสือ The Third Wave คือยุคเกษตร มาสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมและยุคสังคมข่าวสาร ซึ่งวิธีคิดก็จะเปลี่ยนตาม ช้า/เร็วแล้วแต่สาขาวิชาและประเทศ 

Functional Medicine ก็เป็นการเปลี่ยนความคิดที่มองปัญหาเป็นจุดๆเหมือนยุคอุตสาหกรรม มาเป็นยุคการมองแบบองค์รวมของการทำงานร่วมกันของอวัยวะภายในร่างกายหรือ องค์กรเดียวกันนั่นเอง ไม่แยกส่วน การแก้ปัญหาก็จะง่ายเพราะมองปัญหาได้ในภาพรวม วางยุทธศาสตร์ วิธีคิดและวิธีการศึกษา วิธีการบริหารองค์กร 

โดย เฉพาะรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ยังล้าหลังอยู่มาก ยังมองปัญหาแยกส่วน เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น หรือองค์กรอิสระ ศาล รัฐบาล สภาฯ ซึ่งประเทศต้นแบบที่เราไปเรียนมาเขาก็ไม่เป็นแบบเรา ประเทศไทยจึงขาดการมียุทธศาสตร์ชาติที่เป็นการมองประเทศไทยอย่างเป็นองค์รวม การแก้ปัญหาก็ยังไม่เข้าใจ คำว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค คือเราไม่จริงจังกับการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุนั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น