ที่มา go6tv
11 พฤษภาคม 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00น. ที่ผ่านมา พันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก https://www.facebook.com/thaksinofficial
บอกเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ Functional Medicine ซึ่ง
เป็นการรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบันที่ใช้นวัตกรรมในการดูแลรักษาให้มี
ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
พร้อมเปรียบเทียบมุมมองแนวคิดแบบองค์รวมที่มีการบริหารจัดการและการแก้ปัญหา
ที่ดีกว่าการมองแบบแยกส่วน โดยมีข้อความดังนี้
ท่าน
เคยได้ยินคำว่า Functional Medicine ไหมครับ
ตอนนี้ถือว่าเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของวงการแพทย์อเมริกาที่กำลังฮิต
ผมบังเอิญมาปักกิ่งได้พบกับแพทย์ชาวจีนที่เป็นลูกศิษย์ของหมออเมริกันที่
ดูแลสุขภาพให้ทั้งประธานาธิบดีโอบาม่า และประธานาธิบดีคลินตั้น
เขาใช้วิธีการ Functional Medicine นี้นั่นเอง
หลัก
การก็คือเขามีความเชื่อว่าอวัยวะทุกส่วน
ถ้าทำงานร่วมกันได้ดีไม่มากไปไม่น้อยไป
ก็จะทำให้ร่างกายกลับมามีความสมดุลและก็จะแข็งแรง
โรคเล็กโรคน้อยก็จะหายไปอย่างปลิดทิ้ง โดยอาศัยการค้นพบ DNA
ของมนุษย์แล้ววิเคราะห์ได้อย่างละเอียดถึงความบกพร่องในการทำงานของมันแล้ว
ให้ยาที่เหมาะสมเพื่อแก้ไข
หมอจีนคนนี้ก็เลยเจาะเลือดผมไปเป็นสิบหลอดพร้อมปัสสวะ ส่งไปตรวจ Lab
ที่สหรัฐอเมริกา จะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์
ก็จะวิเคราะห์กลับมาพร้อมบอกว่าจะต้องทานยาอะไร งด/เพิ่มอาหารหมวดไหน
ร่างกายเราก็จะทำงานได้เหมือนคนอายุน้อยกว่าอายุจริง
ที่เมืองไทยก็มีการทำเช่นนี้แล้ว แต่ก็ต้องส่งไปตรวจ Lab ที่อเมริกาเช่นกัน
ที่
ผมพูดให้ฟังก็อยากจะให้ทุกคนได้รู้จักรักษาร่างกายตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป
ให้ดีขึ้น
และมากกว่านั้นคือผมอยากจะพูดถึงวิชาการบริหารองค์กรและแนวคิดที่เปลี่ยน
แปลงไปของมนุษย์ (Paradigm Shift)
ที่เปลี่ยนจากวิธีคิดที่เป็นไปตามวิวัฒนาการตามที่ Alvin Toffler
เคยพูดไว้เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้วในหนังสือ The Third Wave คือยุคเกษตร
มาสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมและยุคสังคมข่าวสาร ซึ่งวิธีคิดก็จะเปลี่ยนตาม
ช้า/เร็วแล้วแต่สาขาวิชาและประเทศ
Functional
Medicine ก็เป็นการเปลี่ยนความคิดที่มองปัญหาเป็นจุดๆเหมือนยุคอุตสาหกรรม
มาเป็นยุคการมองแบบองค์รวมของการทำงานร่วมกันของอวัยวะภายในร่างกายหรือ
องค์กรเดียวกันนั่นเอง ไม่แยกส่วน
การแก้ปัญหาก็จะง่ายเพราะมองปัญหาได้ในภาพรวม วางยุทธศาสตร์
วิธีคิดและวิธีการศึกษา วิธีการบริหารองค์กร
โดย
เฉพาะรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ยังล้าหลังอยู่มาก ยังมองปัญหาแยกส่วน เช่น
ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น หรือองค์กรอิสระ
ศาล รัฐบาล สภาฯ ซึ่งประเทศต้นแบบที่เราไปเรียนมาเขาก็ไม่เป็นแบบเรา
ประเทศไทยจึงขาดการมียุทธศาสตร์ชาติที่เป็นการมองประเทศไทยอย่างเป็นองค์รวม
การแก้ปัญหาก็ยังไม่เข้าใจ คำว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
คือเราไม่จริงจังกับการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุนั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น