โดยส่วนตัว ผมเห็นว่าข้อมูลข่าวสารที่เรารับรู้รับทราบกันนั้น เอาเข้าจริงก็แตกต่างห่างไกลตามระดับความใส่ใจใคร่รู้ข้อเท็จจริงของแต่ละคน อย่างปฏิเสธไม่ได้
ยังไม่ต้องพูดถึงว่า ในหมู่ผู้ขัดแย้งทั้งหลาย ต่างก็นิยมใส่ร้ายป้ายสี หรือตีความเรื่องนั้นเรื่องนี้เพื่อชี้ชวนให้มวลชนเข้าร่วมสมทบส่วนความ เชื่อกับฝ่ายตนด้วยกันแทบทั้งนั้น
แถมถ้อยวาจาที่ต่างใช้สื่อสารก็ปนเปื้อนไปด้วยความโกรธความชังเป็นเจ้าเรือน
ผม ยังอยากอนุญาตให้ตนเองเชื่อว่า ผู้คนส่วนใหญ่ในบ้านเมืองของเรา ไม่วิกลจริตพอที่จะไม่รู้ร้อนรู้หนาว หรือสบายใจต่อเหตุการณ์ที่ดำเนินมาจนกระทั่งมีความตายเพิ่มขึ้นอีกบนถนนสีลม
อย่าง ไรก็ตาม ผมยังไม่พร้อมประณามฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ตราบเท่าที่ยังไม่พบความแน่ใจว่าใครเป็นผู้กระทำการสามานย์ดังกล่าว และถ้าจะพูดกันอย่างถึงที่สุด ก็มิใช่ต่อเฉพาะกรณีนี้เท่านั้น หากหมายรวมถึงทุกเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผู้กระทำแลเห็นชีวิตผู้ร่วมชุมนุม เป็นเครื่องเซ่นสังเวยบนจังหวะก้าวแห่งกลเกมส์
ผมไม่อายที่ จะเรียนให้ทราบ ว่าเพิ่งปาดน้ำตาเป็นรอบที่สองในเดือนเมษายนปีนี้ ความตายแห่งราชดำเนินและสีลมสำหรับผม แม้ดูเหมือนผู้จากไปจะสังกัดกันคนละฝ่าย หากท้ายที่สุดแล้ว ผมยังคงเห็นท่านผู้วายชนม์ทั้งหลายต่างเป็นพี่น้องร่วมสายพันธุ์เดียวกัน!
ถามว่า ผมปรารภเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม?
ตอบได้ว่า เพราะผม ยังคงเชื่อมั่นในสามัญสำนึกของเพื่อนพี่น้องทั้งหลายอยู่ครับ และเชื่อว่าเรามีศักยภาพมากพอที่จะช่วยกันคนละไม้ละมือ อย่างน้อยก็เพื่อฉุดรั้งมิให้สถานการณ์ก้าวรุดไปสู่จุดหายนะที่รออยู่ข้าง หน้าตามปรารถนาของอมนุษย์ทุกฝ่าย
แล้วเราจะทำอะไรกันได้บ้าง?
ผมใคร่เรียนเชิญทุกท่านให้เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป! ด้วยหลักคิดสองสามประการเท่านั้น กล่าวคือ เรา จะเตือนตนเองอยู่ทุกขณะจิตที่จะไม่ผลิตความชังลงสู่สังคมไทย ไม่ว่าด้วยรูปแบบใดหรือกรณีไหนทั้งสิ้น และจะไม่ด่วนพิพากษาตัดสินฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดโดยไม่มีประจักษ์พยานหลักฐานชี้ ชัดมากพอ รวมทั้งระมัดระวังอย่างยิ่งยวดที่จะไม่ยุงยงส่งเสริมให้ใครก้าวเดินไปบนถนน แห่งความมืดบอด
ต้องขออภัยท่านทั้งหลายด้วยครับที่อาจทำให้เครียดเพิ่มขึ้น.
23 เมษายน 2553
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น