ที่มา go6tv
สัมภาษณ์พิเศษโดย พนัสชัย คงศิริขันต์, เบญจวรรณ คงกิจเจริญกุล (ที่มา:มติชนรายวัน 27พ.ย.55)
หมายเหตุ - "พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน" หรือ
"บิ๊กบัง" ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ
ในฐานะอดีตหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นประมุข (คปค.) ซึ่งเคยรัฐประหารยึดอำนาจ "รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร" หยุดสงคราม "มวลชน" กลางเมือง มองเงื่อนไขในการปลุก "ทหาร"
ให้ออกมาหยุดความขัดแย้งการเมืองนอกสภา ภายหลังที่กลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม
(อพส.) ประกาศยุติการชุมนุมในครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 25
พฤศจิกายนที่ผ่านมา
"...การ
ปฏิวัติเองทหารก็ต้องคิดหนัก วันเวลามันเปลี่ยนไป ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
ฉะนั้นการที่จะทำอะไรสักอย่างก็ต้องคิดลึก คิดเยอะกว่าสมัยก่อน...
"องค์การพิทักษ์สยาม" (อพส.) ยกระดับการชุมนุมเพื่อ "แช่แข็งนักการเมือง" อย่างเข้มข้น ด้วยการกดดัน "รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"
มองการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามขณะนี้เข้าเงื่อนไขเดียวกับการนำไปสู่เหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 หรือไม่
คน
ละเรื่องกัน เพราะเงื่อนไข 19 กันยายน 2549 ประชาชนรับได้หมด
ประชาชนเห็นด้วยกับการกระทำทั้งหมด 90% ทั้งสวนดุสิตโพล และเอแบคโพลล์
ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย ฉะนั้นวันนั้นกับวันนี้อย่าเอามาเกี่ยวข้องกัน
มันคนละเรื่อง ณ วันนี้ต้องมาคิดถึงว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้าง มันคนละมิติกัน
องค์การพิทักษ์สยามก็มองเงื่อนไขที่ค่อนข้างชัดเจนอันหนึ่งคือ
เขา
ก็รักประเทศไทยเหมือนกัน ทั้งชาติ ศาสน์ พระมหากษัตริย์ รักเหมือนกัน
แต่วิธีการของเขาก็เหมือนเรา ต้องการปรองดอง ณ
วันนี้ทางฝ่ายนี้ก็เข้าไปทำในสภาไม่ได้ ก็เลยมาเล่นนอกสภา
องค์การพิทักษ์สยามก็หาเงื่อนไข อย่างการคอร์รัปชั่น จาบจ้วงสถาบัน
เว็บไซต์ก็หยิบเอามา
ในฐานะที่เป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ห่วงการนำสถาบันมาโจมตีทางการเมืองหรือไม่
ผม
ว่ามันเป็นสิ่งที่ ผบ.ทบ. (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เองก็พูดว่า
อย่าเอาสถาบันดึงลงมา ท่านก็อยู่เฉยๆ ของท่านดีๆ อยู่แล้ว
และท่านก็เป็นกลางในประชาชนทั้งชาติอยู่แล้ว
ทีนี้ต้องถามว่าทำไมถึงดึงลงมา
ผม
ตอบไม่ได้ ตอบแทนใครไม่ได้ มันก็เป็นสิ่งที่ต้องคุยกัน
ผมก็เห็นว่าไม่ควรจะดึงลงมา
เราต้องเข้าใจว่ามีกระบวนการในการที่จะทำลายสถาบันอยู่แล้ว เราก็รู้กันอยู่
แม้กระทั่งฝ่ายค้านก็ชี้แจงในสภาว่า มีกระบวนการล้มเจ้า หรือทำลายสถาบัน
ก็รู้อยู่ ถ้าเผื่อว่าเราทำอะไรเกินเลยไป มันก็เหมือนเป็นการซ้ำเติม
สนับสนุน ผู้ที่ต้องการจะทำลายสถาบันอยู่แล้ว
ฉะนั้นเรื่องบางเรื่องเราไม่ควรที่จะเอามาใช้ ผมเห็นด้วยว่า
เรื่องพวกนี้ไปกระทบพระองค์ท่าน โดยที่ไม่ได้มีส่วนร่วมรู้เห็น
แต่เรื่องสถาบันมักถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อนำไปสู่การปฏิวัติเสมอ
เรา
ต้องมองให้ดี การปฏิวัติ ทหารจะทำหรือไม่ทำก็ต้องประเมินสถานการณ์ต่างๆ
ไม่ใช่ว่าการหมิ่นเหม่ต่อการทำลายสถาบัน หรืออะไรพวกนี้ ไม่ใช่เพิ่งเกิด
ก็เกิดเป็นระยะต่อเนื่องมา ทหารลงมาก็ไม่สามารถเข้าไปทำกระบวนการแบบนี้ได้
และการปฏิวัติเองทหารก็ต้องคิดหนัก
วันเวลา มันเปลี่ยนไป ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ฉะนั้นการที่จะทำอะไรสักอย่างก็ต้องคิดลึก คิดเยอะกว่าสมัยก่อน
การที่องค์การพิทักษ์สยามเสนอให้แช่แข็งประเทศและนักการเมือง แล้วตั้งคนดีขึ้นมาบริหารประเทศจะตอบโจทย์ประชาธิปไตยได้หรือไม่
ต้อง
ยอมรับความจริงว่า เรื่องของการแช่แข็ง มันไม่มีที่ไหนในโลก
นอกจากเขาปิดประเทศ ความจริงพม่าเขาปิดประเทศ
แต่การขับเคลื่อนภายในเขาขับเคลื่อน ฉะนั้น สถานการณ์อย่างนี้ต้องยอมรับว่า
มันหมิ่นเหม่ ต้องดูตะวันออกกลางรบกันอยู่หลายประเทศ วันนี้คนไทยมี 2 ฝั่ง
แดงกับเหลือง แต่ความคิดของคนทั้งประเทศ ถูกแบ่งออกเป็น 2 ซีก
มันไม่ใช่นักการเมืองแบ่งเป็น 2 ซีก การที่จะมาปิดกั้นนักการเมือง
ถามว่าจะปิดกั้นความคิดของประชาชนที่ไม่เหมือนกันได้หรือไม่
ต้องมองไปที่ประชาชนอย่าไปมองที่นักการเมือง ถึงแม้เราจะแช่แข็งนักการเมือง
แต่เราแช่แข็งประชาธิปไตยไม่ได้
วันนี้ทราบข่าวถึงความเคลื่อนไหวของทหารที่คิดจะปฏิวัติหรือไม่
วันนี้
มีทหารแตงโมเต็มไปหมด อย่าไปคิด แค่คิดก็รู้แล้ว ตำรวจมะเขือเทศ
ผู้ว่าฯชาเย็น (หัวเราะ) ทำอะไรไม่ง่าย เขารู้ เพียงแต่ว่าจะไปฝืนหรือเปล่า
ดังนั้น
วันนี้จะเกิดความรุนแรงก็คือสร้างให้เกิดความรุนแรงเพื่อที่จะให้เกิดวิกฤต
ถ้ารัฐบาลฉลาดก็จะไม่สนใจ ทำไปแล้วประคองสถานการณ์ไป หาข้อมูล
ถ่ายวิดีโอไว้ ดูกันไว้ ใครเป็นยังไง
พวกนี้บางทีก็มาด้วยใจมาด้วยผลประโยชน์บ้าง ลูกน้องผมอยู่ใน กทม.
แดงมาฉันก็ไป เหลืองมาฉันก็ไป ไปทั้ง 2 ข้าง รับเงินดีกว่าอยู่บ้าน
บ้านเมืองเป็นอย่างนี้เพราะทหารปฏิวัติหรือเปล่า หรือเพราะนักการเมือง
ทุกครั้งที่จะปฏิวัติการเมืองมันทำทุกครั้ง คอร์รัปชั่น อยู่ดีๆ
ทหารจะออกมาปฏิวัติได้อย่างไร มูลเหตุปฏิวัติ
ทหารจะทำเมื่อการเมืองไปจุดชนวน
ถ้าทหารทำแล้วประชาชนไม่เห็นด้วยทหารก็ไม่ทำ
ปัญหาเรื่องปฏิวัติเพราะการเมืองเป็นมูลเหตุ
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นคิดว่าสังคมก้าวพ้นชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหรือยัง
ทุก
คนไปมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนสำคัญ มันก็เลยทำให้ติดอยู่ตรงจุดนี้ ฉะนั้น
ถ้าเผื่อทุกคนไม่มองไปที่ พ.ต.ท.ทักษิณ
ซึ่งเขาเป็นคนคนหนึ่งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสังคมไทย
แต่แน่นอนว่าอาจจะมีบทบาทกับทางพรรค ก็อย่าไปสนใจมัน
สนใจว่าจะทำให้สภาเดินไปของมัน พรรคฝ่ายค้านมีหน้าที่ก็ทำหน้าที่ไป
มันก็เดินได้ ไม่ต้องไปมอง
เอาว่ามองระบบของการปกครองระบอบประชาธิปไตยตามครรลองของรัฐสภาที่มีอยู่
มันสามารถจะไปได้ไหม ณ วันนี้เราไปติดอยู่ที่เรามองแค่คนคนหนึ่ง
มันเลยกลายเป็น พรรคบางพรรคอาจจะกลัวคนคนนี้ก็ได้
การเคลื่อนไหวของมวลชนนอกสภาเป็นการวางเกมของชนชั้นนำ
ผม
ไม่เชื่อว่ามีชนชั้นนำที่ไหนมาต่อสู้ เป็นการต่อสู้ของคน
ผมไม่อยากจะบอกว่าชนชั้นนำ
เราไปเรียกมันเพื่อให้ไปเป็นเครื่องมือของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
แต่เป็นการสู้กันระหว่างฝ่ายการเมือง รัฐบาล และฝ่ายค้าน
เพราะเขามีคนของเขา เราอย่าไปเรียกว่าชนชั้นนำ
เพราะชนชั้นนำไม่มีอะไรเลยตอนนี้ แต่เราไปเรียกอำมาตย์บ้าง
ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินมายังเวทีเสื้อแดงในทำนองอำมาตย์อยู่เบื้องหลังการโค่นล้มรัฐบาล
มัน
เป็นเครื่องมือในการปลุกระดมมากกว่า เป็นวาทกรรมในการหาเสียง ถามว่าอย่างผม
สมัยก่อนก็เป็นลูกชาวไร่ ชาวนา แต่พอมาเป็นผู้ใหญ่ในกองทัพ
ผมก็เป็นอำมาตย์ จะไปโทษเขาหรือจะโทษใคร ฉะนั้น
คำว่าอำมาตย์มันเป็นวาทกรรมอันหนึ่งในการที่จะทำให้เกิดประโยชน์ทางการเมือง
คนที่ไม่รู้ คนจนมากเรียนรู้น้อย
ก็คิดว่าอำมาตย์คือบุคคลที่พยายามเข้ามาแอบแฝงทำให้เกิดเงื่อนไข
มันก็เป็นเหยื่อของคนอีกกลุ่ม ก็จะมองอำมาตย์ไปอีกทางหนึ่ง
ไปสอดคล้องกับกระบวนการล้มเจ้าบ้างอะไรบ้าง
แต่เป็นวาทกรรมที่ใช้ประโยชน์ได้สูงมาก ใครก็อยากใช้
การเดินไปตามครรลองประชาธิปไตยน่าจะถูกต้องกว่าการใช้เงื่อนไขนอกระบบมาจัดการใช่หรือไม่
ถ้า
พูดถึงวันนี้ มันไม่เหมือนวันนั้นนะ วันนั้นมันไม่มีฝ่ายตรงข้ามของกองกำลัง
ถูกไหม เห็นไหมเราทำ 19 กันยายน 2549 เสร็จ ทุกคนแฮปปี้ มีดอกไม้
แต่วันนี้มันไม่ใช่
ถ้าเผื่อมีการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนองค์การพิทักษ์สยามเสร็จแล้ว
วิกฤตของความรุนแรงที่จะนำไปสู่เป้าหมายคือ ต้องใช้ความรุนแรง
เสร็จแล้วนำไปสู่การใช้กำลังของทหาร แต่ที่สำคัญคือ
นักการเมืองขณะนี้เขามีคนในมือมหาศาล 500 คน 350 คน มาจาก ส.ส.เขต
พวกนี้เขาอยู่กับประชาชนทั้งนั้น
ถามว่านักการเมืองผู้นี้เขาเห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงหรือไม่
เขาอาจจะไม่เห็นด้วย ซึ่งไม่เห็นด้วยถามว่า เขาคือผู้นำความคิดของคน
จะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นความรุนแรงจะตามมามันจะไม่จบ
ตกลงวงจรปฏิวัติยังมีโอกาสเกิดขึ้นอีกหรือไม่
ผมบอกแล้วไง การเกิด เกิดได้ เกิดแล้วจะเป็นยังไง ผมยังมีความเชื่อทางวิทยาศาสตร์ ถ้ามีการปฏิวัติแล้วประเทศไทยจะเปลี่ยนครั้งใหญ่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น