แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ชี้ขาดวันนี้ให้ICCสอบสวนคดีสังหารหมู่ชุมนุมปี53?!

ที่มา Thai E-News











ทุกอย่างพร้อม เหลือแค่รัฐบาลชุดนี้กล้าตัดสินใจชี้ขาดในวันนี้เท่านั้น...คำถามตัวโตๆต่อรัฐบาลชุดนี้ ซึ่ง ก้าวขึ้นมามีอำนาจบนซากศพ และความเสียสละอาจหาญ มีคนบาดเจ็บพิการสูญเสียอิสรภาพอีกไม่นับ และยังคอยตามสนับสนุนปกป้องรัฐบาลนี้ราวผนังทองแดงกำแพงเหล็กก็คือว่า เมื่อไหร่ฝ่ายถูกฆ่าจะได้ออกจากคุกสู่อิสรภาพ และเมื่อไหร่จะนำฝ่ายฆ่าและผู้บงการเข้าไปอยู่ในคุกแทน?

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
29 พฤศจิกายน 2555

เว็บไซต์ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม รายงานข่าวเรื่อง จดหมายเปิดผนึกเรื่องไอซีซีถึงรมว.ต่างประเทศจากนายอัมสเตอร์ดัมในนามคนเสื้อแดง ทั้งนี้เมื่อวัน ที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลไทยรับรองเขตอำนาจ ศาลอาญาระหว่างประเทศในการพิจารณาคดีสังหารประชาชนในปี 2553 โดยเร็ว โดยมีเนื้อความในจดหมายดังต่อไปนี้


ในขณะนี้ รัฐบาลกำลังพิจารณาว่าจะแถลงคำประกาศยอมรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ในกรณีอาชญากรรมมนุษยชาติที่เกิดในปี 2553 หรือไม่ 
มีความพยายามที่จะยับยั้งมิให้ รัฐบาลแถลงคำประกาศภายใต้มาตรา 12.3 ของรัฐธรรมนูญไอซีซี โดยนักกฎหมายไทยบางคนโต้แย้งว่าคำประกาศคือ “สนธิสัญญา” ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากพระมหากษัตริย์และรัฐสภาภายใต้มาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญปี 2550
ข้อโต้แย้งของพวกเขาเป็นเรื่องไร้ สาระ ซึ่งไม่รับการยอมรับจากอัยการไอซีซีฟาทู เบนซูดา เมื่อไม่นานมานี้อัยการได้เข้าพบกับรัฐบาลไทยในกรุงเทพฯ รัฐบาลถามว่าคำประกาศภายใต้มาตรา 12.3 ของรัฐธรรมนูญไอซีซีเป็นสนธิสัญญาหรือไม่ อัยการตอบชัดเจนว่าคำประกาศมาตรา 12.3 มิใช่สนธิสัญญา
คำตอบของอัยการถูกต้องชัดเจน ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ หลักการสำคัญของสนธิสัญญาคือข้อตกลงระหว่างบุคคลสองฝ่ายหรือหลายฝ่าย 
ในทางตรงข้าม คำประกาศมาตรา 12.3คือคำแถลงฝ่ายเดียวโดยรัฐบาล จึงไม่จำเป็นหรือต้องได้รับความเห็นพ้องจากไอซีซี แต่การแถลงคำประกาศคือการใช้อำนาจอธิปไตยของรัฐบาลทางความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศต่างหาก ภายใต้รัฐธรรมนูญไอซีซี คำประกาศมีผลทางกฎหมายเมื่อรัฐบาล ยื่นคำร้องต่อไอซีซี และไม่จำเป็นต้องได้รับการตอบรับจากไอซีซี โดยเพียงแค่รัฐบาลลงนามเท่านั้น โดยมีเอกสารเพียงอย่างเดียวคือคำประกาศของรัฐบาล และไม่จำเป็นต้องมีลายมือชื่อตอบกลับจากไอซีซี
ข้อโต้แย้งของอัยการเบนซูดายังได้ รับการยืนยันจากกรณีก่อนหน้านี้ เมื่อประเทศไอโวรีโคสต์แถลงคำประกาศมาตรา 12.3 โดยยอมรับอำนาจพิจาณาคดีของไอซีซีต่อกรณี 3 สถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่างวาระ โดยไม่จำเป็นต้องยึดถือตามกระบวนการทางรัฐธรรมนูญภายในประเทศว่าด้วยการยอม รับสนธิสัญญา การยื่นคำร้องเป็นการประกาศฝ่ายเดียวและลงนามโดยรัฐมนตรี คำประการศฝ่ายเดียวนี้ให้อำนาจพิจารณาคดีต่อไอซีซีในการพิจารณาสถานการณ์ เฉพาะในประเทศนั้น (ซึ่งตอนนี้อยู่ภายใต้การพิจารณาของไอซีซี)
สรุปคือ ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ คำประกาศฝ่ายเดียวไม่ถือเป็นสนธิสัญญา แต่นักกฎหมายไทยบางคนโต้แย้งว่า “สนธิสัญญา” มีคำนิยามที่ต่างออกไปภายใต้กฎหมายไทย นี่คือความดันทุรังอย่างเต็มที่ของพวกเขา สนธิ สัญญาวางระเบียบเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่สามารถที่จะมีคำนิยามอย่างหนึ่งในประเทศหนึ่ง และมีคำนิยามอีกอย่างในอีกประเทศอื่น ทั้งนี้เพราะทุกประเทศต้องพึ่งพาสนธิสัญญา จึงต้องมีคำนิยามเหมือนกันทุกที่ ดังนั้น “สนธิสัญญา” จึงถูกนิยามโดยกฎหมายระหว่างประเทศ
และภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ คำ นิยามของสนธิสัญญาคือข้อตกลงจากสองฝ่ายหรือหลายฝ่าย ไม่ใช่คำประกาศฝ่ายเดียวโดยคณะรัฐบาลหนึ่ง อย่างคำประกาศยอมรับอำนาจพิจาณาคดีของไอซีซีต่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติในปี    2553 ตามมาตรา 12.3

"สุรพงษ์"ยันลงนามไอซีซีไม่ใช่สนธิสัญญา

วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา 10:49 น.
เดลินิวส์รายงาน ว่า ที่รัฐสภา วานนี้( 28 พ.ย.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีข่าวว่าทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. แสดงความเป็นห่วงเรื่องที่รัฐบาลลงนามรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ว่า กระทรวงการต่างประเทศจะประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 29 พ.ย. ว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร ทั้งนี้ ผบ.ทบ.ก็อาจจะเป็นห่วง แต่ยืนยันว่าเราจะพิจารณาอย่างรอบคอบ 
เมื่อหารือในที่ประชุมเรียบร้อยแล้วก็จะต้องชี้แจงว่าการพิจารณาดังกล่าวไม่ ใช่สนธิสัญญาที่มีข้อผูกพันตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190  หากเห็นตรงกันว่าจะลงนามก็จะต้องมีการร่างเอกสารขึ้นมา โดยจะมีเนื้อรายละเอียดในประเด็นต่าง ๆ ตามที่เราเป็นผู้กำหนด เช่น จะให้ไอซีซีเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่ใดได้บ้าง และมีกำหนดระยะเวลานานเท่าไหร่ ยกตัวอย่างอาจจะให้ตรวจสอบเฉพาะแค่เหตุการณ์ช่วงสลายการชุมนุมเพียงเท่านั้น ก็ได้ ขึ้นอยู่กับเราจะกำหนด อย่างไรก็ตามถ้าลงนามแล้วทางไอซีซีก็สามารถที่จะเข้ามาดำเนินการได้
ศาลชี้ชัดทหารสังหารผู้ชุมนุมภายใต้คำสั่งศอฉ.
เมื่อวัน ที่ 26 พ.ย.ที่ศาลอาญา รัชดา เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 707 ศาลอาญา รัชดา ศาลนัดฟังคำสั่งคดีไต่สวน กรณีการเสียชีวิตของนายชาญณรงค์ พลศรีลา คนขับรถแท็กซี่เสื้อแดงที่ถูกยิงและเสียชีวิตบริเวณหน้าปั้มเชลล์ ถนนราชปรารภ เมื่อบ่ายวันที่ 15 พ.ค.53 ช่วงที่มีการกระชับวงล้อมผู้ชุมนุมเสื้อแดงโดย ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากการกระชับวงล้อมของเจ้าหน้าที่ทหาร
โดย ศาลได้ระบุว่าการเสียชีวิตเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารขณะ ควบคุมสถานการณ์การชุมนุม ตามคําสั่งของ ศอฉ. ที่บริเวณถนนราชปรารภ ด้วยกระสุนปืนเล็กกลขนาด. 223 แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นทหารคนใดหรือสังกัดใดที่ทำให้นายชาญณรงค์เสีย ชีวิต
เปิดคำฟ้องต่อICCชี้ชัดมาร์ฺครับผิดชอบสังหารหมู่
นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ได้เปิดเผยคำฟ้องต่อICCระบุถึงความผิดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างชัดแจ้ง ดังเอกสารนี้
ความรับผิดทางอาชญากรรมของนายอภิสิทธิ์

เรียน อัยการ ศาลอาญาระหว่างประเทศ..อดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ต้องรับผิดชอบในการก่อ อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ผู้เสียชีวิตซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือนมือเปล่า เกิดจากนโยบายที่อนุมัติโดยนายกรัฐมนตรีโดยตรง การคุมขังและริดรอนเสรีภาพอย่างร้ายแรงโดยการรับรู้แลัการอนุมัติผ่านทางศอ ฉ. ซึ่งโฆษกของศอฉ.ให้การว่าทุกสิ่งที่ศอฉ.ทำเป็นไปตามคำสั่งของรัฐบาล
*********
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:

10 ‘Smoking Guns’ that Tied Abhisit-Suthep to Crime/10หลักฐานมัดแน่นมาร์ค-เทือกชดใช้หนี้เลือด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น