แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

แถลงการณ์นายกรัฐมนตรี เรื่อง ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร

ที่มา go6tv




วันที่ 22 พฤศจิกายน 2555(go6TV) เวลา 20.45 น. นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ออกแถลงการณ์ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ชี้แจงเหตุผลในการใช้ พรบ.ความมั่นคง เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย ดังมีข้อความดังต่อไปนี้



“กราบเรียนพี่น้องประชาชนที่เคารพ
วันนี้ ดิฉันขอใช้เวลาของพี่น้องประชาชน  เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในประเด็นที่รัฐบาลได้ตัดสินใจประกาศใช้มาตรการ ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ในพื้นที่เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่ายและเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และจัดตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ในช่วงเวลาระหว่างวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
ดิฉัน ขอเริ่มด้วยการเน้นย้ำว่า รัฐบาลยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  เชื่อมั่นในเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและเชื่อมั่นว่าการใช้เวทีรัฐสภาที่ ประกอบด้วยตัวแทนที่มาจากประชาชนมีส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหา ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันและความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งเป็นวิถีทางที่ถูกต้องตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย  ทั้งนี้ รัฐสภายังมีหน้าที่ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล  ดังที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในอีกไม่กี่วันนี้ ซึ่งดิฉันก็พร้อมที่จะรับฟังและชี้แจงตามวิถีทางประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา
และด้วยการเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาโดยการเลือกตั้งจากประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ดิฉันยืนยันว่าทุกเรื่องที่ดิฉันและรัฐบาลได้ตัดสินใจ จะยึดถือผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้ง ทั้งจะพิทักษ์รักษาไว้ซึ่ง สถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของคนไทยทุกคน
อย่าง ไรก็ตาม ความเป็นประชาธิปไตยไม่ใช่การมีสิทธิเสรีภาพเพียงเท่านั้น แต่ต้องมีระบบระเบียบความเป็นนิติรัฐ นิติธรรม และการที่สังคมจะอยู่ร่วมกันได้  ย่อมมีกฎกติกาขอบเขตของสิทธิเสรีภาพโดยไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น  ทั้งยังมีหน้าที่จะต้องช่วยกันรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยไม่ให้ถูกคุกคาม
สำหรับการชุมนุม ประท้วง เรียกร้องใด ๆ ก็ตาม โดยเฉพาะที่มีพื้นฐานมาจากความเดือดร้อนของประชาชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดนั้น สามารถทำได้เป็นสิทธิเสรีภาพที่รับประกันไว้ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ โดยที่การชุมนุมต้องเป็นไปอย่างสงบสันติปราศจากอาวุธ และอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย  ซึ่งดิฉันก็พร้อมที่จะรับฟังข้อคิดเห็น ข้อเรียกร้อง และพร้อมที่จะร่วมแก้ปัญหาความเดือดร้อนนั้นๆ ให้หมดสิ้นไป
แต่ หากการรวมตัวชุมนุมกัน  ซึ่งจากรายงานของฝ่ายความมั่นคง เป็นการระดมผู้คนจำนวนมากภายใต้แกนนำที่มีท่าทีที่ต้องการจะล้มล้างรัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้ง ล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ทั้งพร้อมที่จะใช้ความรุนแรง มีแนวคิดที่จะบุกรุกสถานที่สำคัญ และสร้างความวุ่นวายกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ที่เป็นปกติของสาธารณชนเพื่อ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว ซึ่งเมื่อเป็นภัยต่อความมั่นคงและสันติสุขของประชาชน   ซึ่งดิฉันไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น แต่รัฐบาลย่อมต้องมีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นของบุคคลใด ทั้งผู้ที่มาชุมนุมและประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง และที่สำคัญรัฐบาลจะต้องรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว กลไกการรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตามปกติไม่สามารถรองรับได้  จึงเป็นที่มาของมติคณะรัฐมนตรีในวันนี้
มาตรการ ตามกฎหมายที่กำหนดนั้น ก็เพื่อให้สามารถป้องกันและระงับภัยที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีและมี ประสิทธิภาพ ซึ่งการมีหน่วยปฏิบัติงานหลักก็เพื่อรับผิดชอบบูรณาการและประสานการปฏิบัติ ร่วมกับทุกส่วนราชการในยามที่เกิดสถานการณ์อันเป็นภัยต่อประชาชนในพื้นที่ใด พื้นที่หนึ่ง  การปฏิบัติการต่างๆ จะเป็นไปอย่างรอบคอบ ปราศจากอาวุธและเป็นไปตามมาตรฐานสากล  ทั้งนี้ดิฉันต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางและ บริเวณการชุมนุม เพื่อความสงบเรียบร้อย ความสะดวกและความปลอดภัยของท่านเอง
มาตรการและกลไกต่างๆ จะเน้นการป้องกันและรักษาความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก และเมื่อเหตุการณ์พัฒนาการไปในทางที่ดีขึ้น ก็จะมีการยกเลิกการใช้มาตรการเหล่านั้นทันที
ดิฉัน ขอยืนยันว่า เมื่อได้รับการเลือกตั้งและเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปีที่แล้ว ดิฉันมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และพัฒนาประเทศ  อีกทั้งนำความสงบสันติคืนให้กับประเทศไทย  ดิฉันเชื่อว่าการลดความขัดแย้งทางการเมืองและการปรองดอง เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่ น้องประชาชนทุกคนโดยไม่คำนึงถึง เชื้อชาติ ศาสนา ชนชั้น หรือสีเสื้อใด ๆ
ขอขอบคุณสำหรับการให้โอกาสดิฉันทำงานตลอด 1 ปีที่ผ่านมา และขอขอบคุณผู้ที่สนับสนุนและให้กำลังใจมา ณ ที่นี้  ดิฉันขอให้คำมั่นว่าจะไม่ย่อท้อและจะทำงานอย่างสุดความสามารถดังที่ตั้งใจและสัญญากับพี่น้องประชาชน”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น