นับเป็นการเยือนพม่าครั้งแรกของปธน.สหรัฐ โดยได้เข้าพบกับปธน. เต็ง
เส่ง และนางออง ซาน ซูจี ก่อนที่จะกล่าวปราศรัยที่มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง
ชี้การปฏิรูปในพม่าเป็นก้าวแรกของการเดินทางอีกยาวไกล
ขณะที่มีรายงานว่าวันนี้ทางการพม่าปล่อยตัวนักโทษการเมืองอีก 66 คน
19 พ.ย. 55 - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา บารัค โอบามา ได้เดินทางเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์วันนี้ โดยได้เข้าพบกับประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ของพม่า และผู้นำฝ่ายค้าน นางออง ซาน ซูจี และได้กล่าวปราศรัยที่มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังประเทศกัมพูชา โดยใช้เวลาเยือนพม่าทั้งหมดเป็นเวลา 6 ชั่วโมง ขณะที่มีรายงานว่าในวันเดียวกัน ทางการพม่าได้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองอีก 66 คน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา พม่าได้ปล่อยตัวนักโทษจำนวน 518 คน แต่ไม่มีใครเป็นนักโทษการเมือง
ออ ง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) กับบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ระหว่างแถลงข่าวหน้าบ้านพักริมทะเลสาบอินยา ของนางออง ซาน ซูจี วันนี้ (19 พ.ย.)
(ที่มา: The Myanmar Age)
19 พ.ย. 55 - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา บารัค โอบามา ได้เดินทางเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์วันนี้ โดยได้เข้าพบกับประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ของพม่า และผู้นำฝ่ายค้าน นางออง ซาน ซูจี และได้กล่าวปราศรัยที่มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังประเทศกัมพูชา โดยใช้เวลาเยือนพม่าทั้งหมดเป็นเวลา 6 ชั่วโมง ขณะที่มีรายงานว่าในวันเดียวกัน ทางการพม่าได้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองอีก 66 คน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา พม่าได้ปล่อยตัวนักโทษจำนวน 518 คน แต่ไม่มีใครเป็นนักโทษการเมือง
โอบามาชี้ การปฏิรูปในพม่าเป็นก้าวแรกของการเดินทางที่ยาวนาน
ในการแถลงข่าวร่วมระหว่างประธานาธิบดีโอบามาและเต็ง เส่ง
ที่อดีตรัฐสภาในเมืองย่างกุ้ง ปธน. สหรัฐกล่าวถึงการปฏิรูปในพม่าว่า
เป็นเพียงก้าวแรกของสิ่งที่จะเป็นการเดินทางที่ยาวนาน
แต่การปฏิรูปทางประชาธิปไตยและเศรษฐกิจที่ได้ริเริ่มขึ้น
จะสามารถนำไปสู่โอกาสด้านการพัฒนาอีกมากมาย ทั้งนี้
สำนักข่าวหลายแห่งได้ตั้งข้อสังเกตว่า โอบามาใช้คำเรียกประเทศพม่าว่า
"เมียนมาร์" ซึ่งเป็นชื่อที่ผู้นำประเทศพม่าและอดีตผู้นำทหารเลือกใช้
แทนที่จะใช้คำว่า "เบอร์ม่า" ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในสหรัฐอเมริกา
ด้านประธานาธิบดีเต็ง เส่ง กล่าวด้วยภาษาพม่าและแปลผ่านล่ามว่า
ทั้งสองประเทศจะทำงานร่วมกัน "ด้วยความไว้วางใจ ความเคารพและความเข้าใจ"
เขากล่าวต่อว่า "ในระหว่างการพูดคุย
เราได้บรรลุข้อตกลงสำหรับการพัฒนาประชาธิปไตยในพม่า
และการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล"
ออ ง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) กับบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ระหว่างแถลงข่าวหน้าบ้านพักริมทะเลสาบอินยา ของนางออง ซาน ซูจี วันนี้ (19 พ.ย.)
(ที่มา: The Myanmar Age)
หลังจากนั้น โอบามา ร่วมกับรมต. กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ฮิลลารี
คลินตัน ได้เดินทางเข้าพบนางออง ซาน ซูจีที่บ้านของเธอบริเวณริมทะเลสาบ
ซูจีได้กล่าวขอบคุณโอบามาสำหรับความสนับสนุนต่อกระบวนการปฏิรูปประชาธิปไตย
และกล่าวเตือนให้ระวังถึง "ภาพลวงตาของความสำเร็จ"
โดยย้ำว่าจำเป็นต้องทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์ที่แท้จริงกับประชาชน
ในขณะที่โอบามากล่าวว่า
นางอองซานซูจีเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตยในพม่า
ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก และชี้ว่า
การมาเยือนของทางการสหรัฐในครั้งนี้
นับเป็นก้าวต่อไปในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและพม่า โดยก่อนที่ปธน.
สหรัฐจะเดินทางต่อไปกล่าวปราศรัยที่มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง ทั้งสองได้กอดกัน
และโอบามาได้จุมพิตนางซูจีบริเวณแก้ม
ปล่อยตัวนักโทษการเมืองเพิ่มอีก 66 คน
ในขณะที่วันเดียวกัน เว็บไซต์อิระวดี รายงานว่า
ทางการพม่าได้ปล่อยตัวนักโทษการเมือง 66 คน
ในฐานะการนิรโทษกรรมที่จารึกการมาเยือนของปธน. สหรัฐ
นักโทษการเมืองดังกล่าวประกอบด้วยสมาชิกกลุ่มสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง
(เคเอ็นยู) กองทัพรัฐฉาน และแนวหน้านักศึกษาประชาธิปไตยพม่าทั้งมวล (ABFSD)
เป็นต้น โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา
มีรายงานว่าทางการพม่าได้ปล่อยตัวนักโทษ 452 คน
แต่ไม่มีใครเป็นนักโทษการเมือง
นักโทษการ
เมืองพม่าที่ได้รับการปล่อยตัววันนี้ (19 พ.ย.)
ซึ่งเป็นช่วงที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกาเดินทางเยือนพม่า
นับเป็นประธานาธิบดีพม่าคนแรกที่มาเยือนพม่า (ที่มา: The Myanmar Age)
เลทยาร์ ทูน อดีตนักเคลื่อนไหวนักศึกษา
หนึ่งในผู้ถูกปล่อยตัวจากเรือนจำวันนี้ ให้สัมภาษณ์กับอิระวดีว่า
เขารู้สึกว่ารัฐบาลพม่ากำลังใช้นักโทษการเมืองเป็นเบี้ยหมากทางการเมือง
เพื่อการต่อรอง ในขณะที่องค์กรสิทธิมนุษยชนอย่างฮิวแมนไรท์วอทช์
ตำหนิการกระทำดังกล่าว
และเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมดโดยทันที
การเดินทางมาเยือนพม่าของปธน. โอบามา
เกิดขึ้นท่ามกลางคำวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรสิทธิมนุษยชนหลายแห่ง
ซึ่งชี้ว่าเป็นการมาเยือนที่เร็วเกินไป
และเป็นการให้รางวัลแก่รัฐบาลพม่าที่ยังประสบปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนหลายด้าน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนักโทษการเมือง ความขัดแย้งทางชาติพันธ์ุ
โดยเฉพาะความรุนแรงในรัฐยะไข่
แต่ในระหว่างการแถลงข่าวร่วมระหว่างโอบามาและยิ่งลักษณ์
ชินวัตรเมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โอบามากล่าวว่า
การเดินทางเยือนพม่ามิได้เป็น "การรับรอง" รัฐบาลพม่า
หากแต่เป็นการให้ความสำคัญกับความคืบหน้าด้านการปฏิรูปที่ได้บรรลุ
และเพื่อย้ำถึงการปฏิรูปอีกมากที่จำเป็นต้องมีอีกในอนาคต
ที่มาภาพปก: The Myanmar Age
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น