พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ชี้
แจงข้อกล่าวหา ใช้อำนาจรัฐมนตรีแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล
ในตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม
โดยฝ่ายค้านเอาคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นเสียงการสนทนาระหว่างพล.อ.อ.สุกำพล
กับพล.อ.เสถียร ระหว่างการประชุมนายทหาร
เพื่อพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าวมาเปิดในที่ประชุมสภา
โดยนำมาเปิดหลายช่วง รวม 15 คลิป
เพื่อชี้ให้เห็นว่าพล.อ.อ.สุกำพลแทรกแซงการแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหมคน
ใหม่
พล.อ.อ.สุกำพล ชี้
แจงว่า คลิปเสียงดังกล่าวเป็นการประชุมในวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา
ยอมรับว่าเป็นเสียงตน ซึ่งเป็นคลิปที่ไม่สมบูรณ์ นำมาเปิดเผยไม่ครบ
และรู้ว่าใครอัดเสียงซึ่งไม่ถูกต้อง ผิดวินัยร้ายแรงที่สุด
และตนได้ตั้งกรรมการตรวจสอบแล้ว ส่วนที่โยกย้ายนายทหาร 3 นาย
เนื่องจากมีพฤติกรรมไปยื่นหนังสือต่อประธานองคมนตรี และไปพบองคมนตรีบางคน
ถือเป็นการดำเนินการผิดวินัยร้ายแรงที่นำความลับที่ยังไม่เสร็จสิ้นไปเผย
แพร่ต่อบุคคลภายนอก ตนจึงโยกย้ายไปช่วยราชการในสำนักรัฐมนตรีกลาโหม ยืน
ยันว่าตนมีอำนาจทำได้ และ 1 ใน 3 นาย
ได้ขอโทษตนในภายหลังและยอมรับว่าตัวเองทำถูกต้องแล้ว
ส่วน
ข้อกล่าวหาว่ามีการใช้อำนาจรัฐมนตรีเข้าแทรกแซงการแต่งตั้งดังกล่าวนั้น
ยืนยันว่าตนดำเนินการแต่งตั้งตามหลักการของพ.ร.บ.กลาโหมอย่างเคร่งครัด
ยึดหลักอาวุโส ประวัติการทำงาน และความรู้ความสามารถมาประกอบกัน
มิใช่นำเรื่องอาวุโสมาพิจารณาอย่างเดียว
กห.ยันถูกต้องตามทีโออาร์
พล.อ.อ.
สุกำพลชี้แจงข้อกล่าวหา
กรณีปล่อยปละละเลยให้ดำเนินการโครงการจัดหาเรือตรวจการณ์ลาดตระเวน 3
ลำของกองทัพเรือ ไม่โปร่งใส โครงการเกิดความล่าช้า
เอื้อประโยชน์เอกชนบางราย ยืนยันว่าการจัดซื้อเรื่องนี้
ทุกอย่างเป็นไปตามทีโออาร์ ทั้งเครื่องยนต์เรือ ระบบควบคุมเรือ
แม้จะเป็นคนละบริษัท แต่มีหนังสือรับรองการทำงานซึ่งใช้แทนกันได้
และเงื่อนไขนี้ไม่ใช่เงื่อนไขที่จะตัดสิทธิผู้ยื่นประมูล อีกทั้งบริษัท
ซีเครสท์ มารีน จำกัด
เป็นผู้ยื่นร้องเรียนก็ไม่ได้ยื่นข้อเสนอให้พิจารณาใหม่
เรื่องนี้กองทัพเรือชี้แจงสตง.ไปแล้ว 6 ครั้ง รวมถึงคณะกรรมาธิการการทหาร
วุฒิสภา ได้ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว
และมีข้อสรุปว่าการดำเนินงานถูกต้องตามกฎหมาย สอดคล้องกับหลักราชการ
ตนจึงดำเนินโครงการต่อ ซึ่งต้องใช้ความกล้าหาญในการเซ็นสัญญา
เพราะกองทัพเรือไม่มีเรือใช้มานานแล้ว
พร้อมกันนี้ได้ทำหนังสือยืนยันความถูกต้องไปถึงนายกฯ แล้ว
ตอกพวกไม่รู้จริง
พล.อ.อ.
สุกำพล กล่าวตอบโต้นายศิริโชค กล่าวหาว่ามีไอ้โม่ง-งาบพันล.
การอนุมัติซื้ออุปกรณ์ผิดจากหลักเกณฑ์ทีโออาร์เดิม
ให้เปลี่ยนสเป๊กที่ต่างจากทีโออาร์และเป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัย
พล.อ.อ.
สุกำพล ยืนยันว่าการจัดซื้อเรือลาดตระเวนเป็นไปตามทีโออาร์
ทั้งเครื่องยนต์เรือ ระบบควบคุมเรือ แม้จะเป็นคนละบริษัท
แต่มีหนังสือรับรองการทำงาน ซึ่งใช้แทนกันได้
ไม่ใช่เงื่อนไขที่จะตัดสิทธิผู้ยื่นประมูล เรื่องนี้กองทัพเรือชี้แจง
สตง.ไปแล้ว 6 ครั้ง รวมถึงกรรมาธิการทหาร
วุฒิสภาตรวจสอบเรื่องนี้แล้วมีข้อสรุปว่า การดำเนินงานถูกต้องตามกฎหมาย
ตนจึงดำเนินโครงการต่อ ซึ่งต้องใช้ความกล้าหาญในการเซ็นสัญญา
เพราะกองทัพเรือไม่มีเรือใช้มานานแล้ว
พร้อมกันนี้ได้ทำหนังสือยืนยันความถูกต้องไปถึงนายกฯแล้ว
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว
ว่า ระบบแท่นยิงเป้าลวงแบบหมุนแม้จะเป็นระบบที่ดีมาก แต่เหมาะกับเรือใหม่
ส่วนเรือที่เป็นเรือเก่ามีการสำรวจ 11 จุดที่จะติดตั้งได้
แต่รองรับน้ำหนักมากไม่ได้ และจุดดังกล่าวรองรับประสิทธิ
ภาพระบบแท่นยิงเป้าลวงแบบหมุนได้แค่ครึ่งเดียว
จึงต้องพิจารณาระบบที่เหมาะกับเรือ ถ้าติดตั้งได้ครบ 4 จุดก็ครอบคลุมได้ครบ
360 องศาเช่นกัน และได้ชดเชยโดยติดตั้งระบบลวงตอร์ปิโดใต้น้ำให้
ซึ่งทำให้ครบถ้วนทั้งบนฟ้าและในน้ำด้วย
เมื่อพิจารณาแล้วจึงมองว่าครอบคลุมกว่า
ตนทราบว่าสัปดาห์หน้ากองทัพเรือจะแถลงข่าวโครงการปรับปรุงเรือนี้อีกครั้ง
ผมยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีสินบน การ
มาบอกว่าผมไม่ห่วงชีวิตทหารเรือไม่เป็นความจริง เพราะผมเป็นทหารมาค่อนชีวิต
แม้เป็นทหารอากาศก็รักทุกเหล่า และทราบดีว่าทหารลำบากอย่างไร
จะไม่เบี่ยงประเด็น
ท่านที่ไม่เคยเป็นทหารหรือเป็นทหารโดยไม่ถูกต้องจะมารู้ได้อย่างไร
พล.อ.อ.สุกำพลกล่าว
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOREkyTVRFMU5RPT0=§ionid=TURNd01RPT0=&
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น