ที่มา
ประชาไท
Thu, 2013-09-26 18:08
เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์
25 กันยายน 2556
จากบทความเดิมชื่อ : ‘กระดูกของความลวง’ ของพับลิค สโคปปิ้ง
จุดเริ่มต้นของ EHIA เพื่อประกอบการขอประทานบัตร แปลงที่ 76/2539
ต.นาโป่ง อ.เมือง จ.เลย
[1]
บริษัท ทุ่งคำ จำกัด (‘ทุ่งคำ’)
ทำหนังสือถึงเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสุขภาพแห่งชาติ (สช.)
ตามหนังสือเลขที่ ทค.ลย(ว) 255/56 เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2556 เพื่อ
“แจ้งความประสงค์จะดำเนินการจัดกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้
มีส่วนได้ส่วนเสียในการกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และสุขภาพ (ค.1) โครงการเหมืองแร่ทองคำ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด คำขอประทานบัตร
76/2539” หรือจัดทำเวทีพับลิค สโคปปิ้ง
ต่อมาทุ่งคำได้ทำหนังสืออีกฉบับหนึ่งถึงเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่ง
เสริมสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ตามหนังสือเลขที่ ทค.ลย(ว) 278/56 เมื่อวันที่
23 สิงหาคม 2556 เพื่อจัดส่งและขอความอนุเคราะห์ประชาสัมพันธ์เอกสาร
“ราย
ละเอียดโครงการเหมืองแร่ทองคำ ทองแดง และเงิน คำขอประทานบัตรที่ 76/2539
และขั้นตอนการศึกษาและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
(EHIA)” เพื่อให้เป็นไปตาม
ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง
แวดล้อม เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2552 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
ระเบียบปฏิบัติและแนวทางในการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
สำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทาง
ด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ
ซึ่งมีข้อระเบียบปฏิบัติที่ระบุว่าให้มีการเปิดเผยข้อมูลโครงการก่อนวัน
ดำเนินการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นฯ (พับลิค สโคปปิ้ง)
ต่อสาธารณชนให้รับทราบอย่างน้อย 15 วัน ก่อนวันจัดเวทีดังกล่าว
ซึ่งวัตถุประสงค์ชัดเจนได้แสดงอยู่ในหนังสือที่ทำถึง สช. ทั้งสองฉบับและเอกสารประกอบเวทีว่า
จะจัดทำเวทีพับลิค สโคปปิ้ง เฉพาะแปลงที่ 76/2539 เท่านั้น
แต่นั่นกลับเป็นความลวงที่ทุ่งคำสร้างขึ้นมา
โดยไม่มีหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำและพิจารณารายงาน EHIA เฉลียวใจ
มองเห็น หรือทักท้วง ตักเตือน เอาผิด แต่อย่างใด ทั้ง ๆ
ที่ได้มีการส่งเอกสารประกอบเวทีมาก่อนหน้าวันจัดเวทีถึง 15 วัน
แต่กลับปล่อยให้ทุ่งคำดำเนินการจัดทำเวทีดังกล่าวต่อไปได้
และสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความลวงซ้อนกันอยู่สองชั้น คือ
ความลวงที่หนึ่ง - เอกสารประกอบเวทีพับลิค สโคปปิ้ง ที่ใช้เผยแพร่ บนหน้าปกระบุชื่อว่า
“รายละเอียดโครงการเหมืองแร่ทองคำ ทองแดง และเงิน คำขอประทานบัตรที่ 76/2539 และขั้นตอนการศึกษาและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA)” และในส่วนล่างสุดของหน้า 1-5 ของเอกสารดังกล่าว ระบุชื่อเอกสารว่า
“ โครงการเหมืองแร่ทองคำ ทองแดง และเงิน คำขอประทานบัตรที่ 76/2539 หมู่ที่ 13 ต.นาโป่ง อ.เมือง จ.เลย” ส่วนที่เหลือทั้งหมด ตั้งแต่หน้า 6-58 ในส่วนล่างสุดของเอกสาร กลับระบุชื่อเอกสารว่า
“ โครงการเหมืองแร่ทองคำ ทองแดง และเงิน คำขอประทานบัตรที่ 76 และ 77/2539 หมู่ที่ 13 ต.นาโป่ง อ.เมือง จ.เลย”
ในสาระความเป็นมาและรายละเอียดโครงการ
ที่ปรากฏอยู่ในย่อหน้าสุดท้ายของหน้า 1 ระบุว่า
“ทั้งนี้เพื่อให้มีแหล่งแร่เพิ่มเติมเพื่อป้อนการดำเนินการผลิตของบริษัทฯ
จึง
ได้ดำเนินการยื่นคำขอประทานบัตรที่ 76/2539
รวมแผนผังโครงการทำเหมืองเดียวกันกับคำขอประทานบัตรที่ 77/2539
เพื่อการทำเหมืองแร่ทองคำ ทองแดง และเงิน ของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด
ตั้งอยู่ในแผนที่ภูมิประเทศมาตราส่วน 1: 50,000 ลำดับชุด L 7017 ระวาง
5343 IV ของกรมแผนที่ทหาร ระหว่างพิกัดฉากสากล (U.T.M.) แนวตั้งที่ 785000 E
ถึง 786000 E และแนวนอนที่ 1927000 N ถึง 1929100 N โดยประมาณ
อยู่ในท้องที่ของ ต.นาโป่ง อ.เมือง จ.เลย”
ความลวงที่สอง – จากเอกสารประกอบเวทีพับลิค สโคปปิ้ง
ดังกล่าว การกำหนดพิกัดแนวตั้งที่ 785000 E ถึง 786000 E และแนวนอนที่
1927000 N ถึง 1929100 N โดยประมาณ
เป็นขอบเขตครอบคลุมพื้นที่คำขอประทานบัตรที่ 76/2539 และ 77/2539
และยังขยายพื้นที่เกินไปทางด้านทิศตะวันออกของพื้นที่คำขอประทานบัตรที่
77/2539 ซึ่งมีแปลงคำขอประทานบัตรที่ 203/2539 ร่วมเป็น
‘พื้นที่กลุ่มคำขอประทานบัตร’ ด้วยอีก 1 แปลง
(คลิ๊กที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่)
ซึ่งสอดคล้องกับเอกสาร แผนที่ธรณีวิทยาและธรณีวิทยาโครงสร้าง แปลงที่ 4 จังหวัดเลย ของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด มิถุนายน 2540
ที่ได้มีการกำหนดพื้นที่ในการทำเหมือง T-3 และ T-9
และซึ่งสอดคล้องกับเอกสารของฝ่ายอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเลย อีกทอดหนึ่งด้วย
ที่ระบุไว้ในรายละเอียดคำขอประทานบัตร ประจำเดือนสิงหาคม 2553 ว่า
โดยในพื้นที่บริเวณคำขอประทานบัตรรวม 3 แปลง พื้นที่ในการทำเหมือง T-3
ประกอบด้วย แปลงคำขอประทานบัตรที่ 76/2539 77/2539 และ 203/2539
รวมพื้นที่ 898-0-50 ไร่ และพื้นที่ในการทำเหมือง T-9 ประกอบด้วย
แปลงคำขอประทานบัตรที่ 71/2539 72/2539 และ 73/2539 รวมพื้นที่ 900 ไร่
โดยมีพิกัดแต่ละแปลงดังนี้
(คลิ๊กที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่)
พื้นที่ในการทำเหมือง T-3
คำขอประทานบัตรที่ 76/2539 มีพิกัดแนวตั้งที่ 785450 E แนวนอนที่ 1929100 N พื้นที่ 299-0-25 ไร่
คำขอประทานบัตรที่ 77/2539 มีพิกัดแนวตั้งที่ 785450 E แนวนอนที่ 1928230 N พื้นที่ 299-0-25 ไร่
คำขอประทานบัตรที่ 203/2539 มีพิกัดแนวตั้งที่ 786000 E แนวนอนที่ 1928000 N พื้นที่ 300 ไร่
พื้นที่ในการทำเหมือง T-9
คำขอประทานบัตรที่ 71/2539 มีพิกัดแนวตั้งที่ 783200 E แนวนอนที่ 1928470 N พื้นที่ 300 ไร่
คำขอประทานบัตรที่ 72/2539 มีพิกัดแนวตั้งที่ 783200 E แนวนอนที่ 1927800 N พื้นที่ 300 ไร่
คำขอประทานบัตรที่ 73/2539 มีพิกัดแนวตั้งที่ 783200 E แนวนอนที่ 1927290 N พื้นที่ 300 ไร่
ดังนั้น ทุ่งคำมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะไม่ขอประทานบัตรเพียงแค่ แปลงที่
76/2539 แปลงเดียว แต่จะขอเป็นพื้นที่กลุ่มคำขอประทานบัตรอย่างน้อย 3 แปลง
คือ แปลงที่ 76/2539 77/2539 และ 203/2539
และอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างความลวงชั้นที่สามด้วยการบิดเบือนเอกสาร
ในภายหลัง (อาจจะเป็นในขั้นเสนอร่างรายงาน EHIA ในเวทีพับลิก รีวิว
ซึ่งเป็นขั้นตอน/เวทีต่อจากพับลิค สโคปปิ้ง) ด้วยการขอประทานบัตร แปลงที่
71/2539 72/2539 และ 73/2539 อีก 900 ไร่ ร่วมด้วย
แต่สิ่งที่น่ารังเกียจก็คือ ทำไมถึงไม่พูดความจริง
ทำไมถึงต้องสร้างความลวงเพื่อปิดบังและหลีกเลี่ยงอะไร
หรือเกรงว่าถ้าประกาศจัดทำเวทีพับลิค สโคปปิ้ง เพื่อจัดทำรายงาน EHIA
เพื่อประกอบการขอประทานบัตรทั้ง 3 แปลง เนื้อที่รวมกัน 898-0-50 ไร่
(และอาจจะรวมแปลง 71-73/2539 อีก 900 ไร่ ด้วย)
จะเกิดการคัดค้านต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่ขึ้นได้
เพราะเห็นว่าเป็นพื้นที่ทำเหมืองแปลงใหญ่เกินกว่าชุมชนในเขตตำบลนาโป่งจะ
แบกรับภาระและปัญหาผลกระทบได้
จึงทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ด้วยความหลอกลวงว่าจะขอประทานบัตรแปลงเล็กประมาณ
300 ไร่ แปลงเดียวไปก่อน ต่อเมื่อผ่านเวทีพับลิค สโคปปิ้ง ไปแล้ว
จึงค่อยอธิบายว่าจะทำเหมืองแปลงใหญ่ในภายหลัง
เป็นเรื่องน่าเศร้าของกระบวนการจัดทำและพิจารณารายงาน EHIA ในสังคมไทย
ที่พับลิค สโคปปิ้ง
สามารถถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือสร้างความลวงให้กับผู้ประกอบการได้โดยการ
เมินเฉยของส่วนราชการ-รัฐ และองค์กรอิสระต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ๆ ที่
กระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียในการกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ
พับลิค สโคปปิ้ง หรือ
Public Scoping ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดทำและพิจารณารายงาน EHIA ก็ระบุไว้ชัดอยู่แล้วให้
‘กำหนดขอบเขต’ และ
‘แนวทาง’
การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
แต่ในเมื่อสร้างความลวงด้วยการขอประทานบัตรแปลงเดียว คือ แปลงที่ 76/2539
เนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ นั่นก็หมายถึงการจัดทำเวทีพับลิค สโคปปิ้ง ดังกล่าว
จะเป็นการกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพใน
พื้นที่เพียง 300 ไร่ เท่านั้น
ส่วนพื้นที่นอกเหนือจากนั้นที่ปรากฏอยู่ในแปลงที่ 77/2539 และ 203/2539
(และอาจจะรวมแปลงที่ 71-73/2539 ด้วย)
จะไม่ได้ถูกกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเอา
ไว้ด้วย
ซึ่งจะส่งผลต่อมา โดยทำให้การวิเคราะห์
ประเมินและคาดการณ์ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะไม่สอดคล้องกับพื้นที่ขอประทานบัตร
จริง ก็เพราะวิเคราะห์
ประเมินและคาดการณ์ผลกระทบในพื้นที่ทำเหมืองแปลงเดียว 300 ไร่
แต่ผลกระทบเกิดขึ้นกับพื้นที่ทำเหมืองทั้งสามแปลง ประมาณ 900 ไร่
ด้วยความลวงสองชั้นของพับลิค สโคปปิ้ง และอาจจะมีชั้นที่สามเกิดขึ้นได้
ตามที่ได้กล่าวไว้แล้ว เป็นการใช้ความลวงซ้ำ ๆ
ของนายทุนผู้มีอำนาจเงินที่สามารถใช้ข้าราชการ-รัฐให้ปิดล้อมเวทีพับลิค
สโคปปิ้ง ได้ด้วยกำลังตำรวจ 700 นาย
เพื่อปิดกั้นประชาชนผู้เห็นต่างไม่ให้เข้าร่วมเวทีเมื่อวันที่ 8 กันยายน
2556 ที่ผ่านมา แม้จะไม่เหมือนทีเดียว
แต่ก็ทำให้นึกถึงวรรณกรรมรวมเรื่องสั้น
‘กระดูกของความลวง’ ของเรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์ ขึ้นมาเป็นอุทาหรณ์เทียบเคียง
ในเรื่องสั้นกระดูกของความลวงเล่าเรื่องจากสายตาของคนที่กำเนิดมาพร้อม
กับความผิดปกติ จนถูกสังคมผลักไสให้เป็นคนชายขอบ แสดงให้เห็นอคติของสังคม
รวมถึงด้านมืดของมนุษย์ที่ต้องการเห็นผู้อื่นด้อยกว่า
เพื่อให้ตนเองรู้สึกสูงส่ง
โดยตีแผ่จิตใจด้านมืดที่เต็มไปด้วยการฉกฉวยทำลาย
การเมินเฉยต่อความเลวร้ายเบื้องหน้า การบิดเบือนความเป็นจริง
และความโง่เขลาต่อสรรพสิ่ง
ด้วยอคติเช่นนี้จนกลายเป็นความเคยชินของเรา เราจึงกลายเป็นผู้ทำให้ความลวงที่เป็นความเหลวไหลและเหลวแหลกของสังคมมีกระดูกขึ้นมา
และพับลิค สโคปปิ้ง ที่เป็นจุดเริ่มต้นของ EHIA
และเป็นจุดเริ่มต้นของขั้นตอนการขอประทานบัตรด้วยเช่นเดียวกัน
จนเมื่อถึงปลายทางที่ EHIA ผ่านความเห็นชอบ
และได้รับอนุญาตประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่ได้ เมื่อนั้นเรา--
ใครก็ตาม ที่เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดทำและให้ความเห็นชอบรายงาน EHIA ทั้งหน่วยงานรัฐ ราชการ องค์กรอิสระ นักวิชาการ และผู้ประกอบการ --เป็น
ผู้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์มหึมาที่ประกอบด้วยความลวงของ EHIA และประทานบัตร
โครงการเหมืองแร่ทองคำ ต.นาโป่ง อ.เมือง จ.เลย ขึ้นมา
เรา--
ใครก็ตาม ที่เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดทำและให้ความเห็นชอบรายงาน EHIA ทั้งหน่วยงานรัฐ ราชการ องค์กรอิสระ นักวิชาการ และผู้ประกอบการ —ได้สร้างกระดูกให้ความลวงขึ้นมาแล้ว
[1] ขอขอบคุณ ดาวัลย์ จันทรหัสดี เจ้าหน้าที่มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) ผู้มองเห็นความลวงใน
พับลิค สโคปปิ้ง จุดเริ่มต้นของ EHIA เพื่อประกอบการขอประทานบัตร แปลงที่ 76/2539 ต.นาโป่ง อ.เมือง จ.เลย เป็นคนแรก และได้ส่งข้อมูลให้ผู้เขียนเพื่อเขียนเป็นบทความชิ้นนี้ขึ้นมา