วันที่ 24 กันยายน 2556 (go6TV) – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา
พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว https://www.facebook.com/thaksinofficial
โดยมีข้อความดังนี้
24 กันยายน 2556 อีกไม่กี่วัน ก็สิ้นปีงบประมาณ
มีข้าราชการเกษียณอายุกันหลายคน แต่ผมก็พ้นวัยเกษียณมา 4 ปีแล้ว
ก็เข้าใจคนเกษียณดีเพราะปัจจุบันการแพทย์และโภชนาการทำให้คนอายุยืนและแข็งแรง
บางคนก็อาจจะมีความปรารถนาที่จะได้รับใช้บ้านเมือง
รับใช้สังคมต่อในแนวทางต่างๆกันไป
ผมอยากเห็นคนที่มีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์ได้แบ่งปันเวลาถ่ายทอดให้คนรุ่นหลัง
ไม่ว่าจะวงแคบๆคือลูกหลานตนเอง หรือสอนหนังสือบรรยายในโอกาสต่างๆ
หรือเป็นที่ปรึกษาให้กับภาคเอกชนหรือภาครัฐบ้าง
ถ้าชอบการเมืองก็มาทำงานให้บ้านเมืองในอีกรูปแบบหนึ่ง
และให้เวลาดูแลสุขภาพตัวเองมากๆนะครับ เพราะสิ่งที่มีค่าที่สุดคือ
การมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีนะครับ
หายไปหลายวัน ก็ขอเล่าเรื่องที่หายไปให้ฟังว่า ผมไปทำอะไรบ้าง
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ได้พบกับท่านผู้บริหารระดับสูงของประเทศอินเดีย
เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นและเพิ่มความสัมพันธ์ไทย-อินเดีย และอาเซียน-อินเดียครับ
ตอนนี้อินเดียผลิตข้าวได้เกินการบริโภคภายในมากถึง 10 ล้านตันที่จะต้องส่งออก
เราเองก็ผลิตข้าวมากขึ้น เวียดนามก็ผลิตได้มากขึ้น จึงทำข้าวล้นตลาด
ถ้าขืนแย่งกันขาย ชาวนาทั้ง 3 ประเทศคงลำบาก ก็คงต้องพูดคุยกันว่าขายอย่างไร
ที่ราคาข้าวตลาดโลกจะไม่ตกต่ำจนเกินไป
นอกจากนั้นทางอินเดียก็ยังอยากเห็นถนนเชื่อมโยงอินเดียมาไทยผ่านพม่า
เหมือนกับที่จีนเชื่อมเข้าไทยโดยรถยนต์ผ่านลาว
ซึ่งตอนนี้แถวเชียงใหม่ก็จะมีคนจีนขับรถมาเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆครับ
เมื่อวันที่ 22 ที่ผ่านมา ผมก็ได้รับเชิญให้ไปดูการแข่งขันรถ Formula-1 ที่ประเทศสิงคโปร์
ก็ได้มีโอกาสพบกับประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ Sultan Bolkiah พระราชาธิบดีแห่งบรูไน เจ้าชาย Andrew แห่งประเทศอังกฤษ
และ Aung San Suu Kyi จากเมียนมาร์
ก็ได้มีโอกาสทักทายพูดคุยกัน ถามทุกข์ถามสุขกัน
นอกจากนี้ยังได้พบกับรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีของสิงคโปร์
นักธุรกิจรุ่นเก่าที่เคยรู้จักกันของสิงคโปร์ รวมทั้งพลเอก Fidel Ramos อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ครับ
ที่เล่ามายืดยาวก็เพราะอยากตั้งคำถามว่า ไทยควรจะจัดให้มีการแข่งขันรถ Formula-1 หรือไม่ เราจะได้ประโยชน์คุ้มค่าเงินที่ลงทุนหรือไม่ รัฐหรือเอกชน ใครควรทำและรัฐควรสนับสนุนแค่ไหน ประโยชน์ที่ว่าคงจะไม่ใช่เฉพาะรายได้โดยตรงเพียงอย่างเดียว แต่รวมทั้งภาพพจน์ประเทศ และการท่องเที่ยว เป็นต้น และเราควรจะลงทุนแค่ไหน เพราะที่สิงคโปร์เขาใช้ถนนปกติเป็นที่แข่งขัน โดยการปิดถนนส่วนใหญ่แทนการสร้างทั้งหมด แต่บางแห่งก็สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะเช่นที่ The Marina Bay Street Circuit เป็นต้น ที่พูดมาเพียงเล่าให้ฟัง ไม่ได้บอกว่าผมเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น