ที่มา Thai Free News
WAKE UP THAILAND : COFFEE WITH (20
กันยายน2556) สัมภาษณ์ นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช
อดีตรองนายกรัฐมนตรีและ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
เปิดเผยเบื้องหลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
*ในวันที่ 18 กันยายน 2549
เกิดเหตุระเบิดที่ชายแดนภาคใต้หลายจุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
นายกฯ(ขณะนั้น)บินไปประชุมUN ก็เชิญให้พลเอกสนธิ บุณยะรัตกลิน
ผู้บัญชาการทหารบก มาประชุมแนวทางแก้ไขปัญหา แต่พลเอกสนธิไม่มา
ก็เป็นการส่งสัญญาณแล้วว่ามีกลิ่น
*ในวันที่ 19 กันยายน 2549
ฝ่ายรัฐบาลทักษิณก็เลยมีคำสั่งที่ได้ร่างไว้ 3 ฉบับ
ฉบับหนึ่งนั้นได้แต่งตั้งให้พลเอกเรืองโรจน์ มหาศรานนท์
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้บัญชาการทหารบกอีกตำแหน่งหนึ่ง
แล้วผมก็ไปพบพลเอกเรืองโรจน์ที่กองบัญชาการกองทัพไทย
และประสานงานรัฐมนตรีคุมสื่อมาถ่ายทอดการต่อต้านรัฐประหาร
แต่ทางรัฐมนตรีที่่ดูแลคือคุณเนวิน ชิดชอบ กับคุณสุรนันท์ เวชชาชีวะ
แจ้งว่าทหารเข้าควบคุมตัว และยึดกรมประชาสัมพันธ์ไว้แล้ว
และไปยึดสถานีไทยคมไว้แล้ว
*ผมก็เข้าไปพบพลเอกเรืองโรจน์และคณะ เพื่อให้พลเอกเรืองโรจน์เป็นผู้บัญชาการสถานการณ์ต่อต้านรัฐประหาร
*20.30 น.พล
เอกเรืองโรจน์ต่อสายคุยกับพลเอกสนธิ
แล้วพลเอกเรืองโรจน์ก็บอกหลังคุยโทรศัพท์กับที่ประชุมกับผมว่าพลเอกสนธิ
ประกาศสู้ตาย เราก็ตรวจเช็กกำลังว่าผบ.ทร.อยู่ไหน ก็พบว่าอยู่สัตหีบ
ผบ.ทอ.ก็อยู่ดอนเมือง ผบ.ตร.ยังไม่เจอ
*จากนั้นก็หารือกันว่ามีข้อสรุปว่าเพื่อคลี่คลายเรื่องนี้ ควรเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ผมก็เห็นดีด้วยเพราะเราก็เป็นรัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
เ้ราจะได้คลี่คลายเหตุการณ์โดยไม่เสียเลือดเนื้อ
พระองค์ประสงค์ประการใดเราจะได้ปฏิบัติตามได้ ก็สรุปว่าขอเข้าเฝ้าฯ
*จากนั้นก็ต่อสายประสานงานและเราจะได้เข้าเฝ้าฯ พล
เอกเรืองโรจน์ก็เดินทางเข้าเฝ้าฯ ผมเองก็รออยู่ที่กองบัญชาการกองทัพไทย
กับรัฐมนตรีชิดชัย วรรณสถิตย์ และท่านสมชาย วงศ์สวัสดิ์
ปลัดยุติธรรมในขณะนั้น..
พิธีกรถามแทรกว่า แล้วทำไมพลเอกเรืองโรจน์ไม่ได้เข้าเฝ้า?
*ราว 3 ทุ่มกว่า ท่าน
พลเอกเรืองโรจน์ก็ไปรอเข้าเฝ้าฯ และก็ไปรอกันอยู่
รอกันทุกฝ่าย(ทั้งฝ่ายรัฐบาลที่ส่งพลเอกเรืองโรจน์ไป กับฝ่ายรัฐประหาร)
แต่ยืนยันว่าพลเอกเรืองโรจน์ไปรอแน่นอน..แต่สังเกตไหมครับในภาพที่คมช.เผย
แพร่ออกมาในภายหลังนั้นไม่มีพลเอกเรืองโรจน์อยู่ด้วย
พลเอกเรืองโรจน์ก็รอเข้าเฝ้าฯอยู่ตรงนั้น ต่อมาท่านก็ส่งสัญญาณมาถึงผมว่า "ได้เข้าเฝ้าฯหมดแล้ว ผมก็ไม่ทราบว่าพลเอกเรืองโรจน์ได้เข้าเฝ้าฯด้วยไหม? แต่อย่าลืมว่าภาพที่คมช.เผยแพร่ิิ้ออกมานั้นไม่มีพลเอกเรืองโรจน์อยู่ด้วย" และส่งสัญญาณว่าทางผบ.ทบ.จะส่งคนมาเชิญผมกับท่านชิดชัยไปพบ
พลเอกเรืองโรจน์(ที่2จากซ้าย)ในเวลาต่อมา ภายหลังคมช.ประกาศทำรัฐประหาร
พลเอกเรืองโรจน์ มหาศรานนท์ -ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตั้งแต่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2548 เป็นต้นมาในเหตุการณ์การรัฐประหารในคืนวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 พลเอกเรืองโรจน์ถูกแต่งตั้งโดยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ให้เป็นผู้อำนวยการควบคุมสถานการณ์ แต่ทว่าคำสั่งนี้ไม่อาจปฏิบัติได้ เนื่องจากกองกำลังของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ได้ควบคุมสถานการณ์ที่กองบัญชาการทหารสูงสุดไว้ได้แล้ว
ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2550 หลังจากที่ประชุมสมาชิกเดิมของพรรคไทยรักไทย มีมติให้ ส.ส.เก่าของพรรค สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชน เพื่อ
ดำเนินการทางการเมืองต่อไป พลเอกเรืองโรจน์ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคด้วย
และได้รับเลือกเป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ.
2550 และต่อมาได้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี[2] (ที่มา:วิกิพีเดีย)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น