"บรรหาร ศิลปอาชา"
เดินทางตรวจดูสถานการณ์น้ำ ณ เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท
พร้อมเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (25ก.ย.56)นาย บรรหาร ศิลปอาชา
ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ
อธิบดีกรมชลประทาน
ได้เดินทางตรวจดูสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยาจังหวัดชัยนาท
โดยมีนายฎรงศ์กร สมตน ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 ให้การต้อนรับ ณ
ห้องประชุมใหญ่สำนักชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท
โดย นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ
อธิบดีกรมชลประทาน
ได้บรรยายสถานการณ์น้ำเกี่ยวกับพายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางเมื่อ
วันที่ 19-20 กันยายน ที่ผ่านมา
ทำให้มีฝนตกหนักบริเวณกลางลุ่มน้ำสูงสุดที่จังหวัดนครสวรรค์ 117 มิลลิเมตร
ในลุ่มน้ำปิงสูงสุดที่จังหวัดกำแพงเพชร 81 มิลลิเมตร
ลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำน่าน สูงสุดที่จังหวัดพิจิตร 42 มิลลิเมตร จังหวัด
พิษณุโลก 67 มิลลิเมตร ลุ่มน้ำสะแกกรัง สูงสุดที่จังหวัดอุทัยธานี 72
มิลลิเมตร และจังหวัดชัยนาท 155 มิลิเมตร ลุ่มน้ำท่าจีน
สูงสุดที่จังหวัดสุพรรณบุรี 136 มิลลิเมตร
ซึ่งคาดว่าจะทำให้ปริมาณน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์เพิ่มสูงขึ้นจาก 1,546
เป็น 1,650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 25 กันยายน
พร้อมกับมีน้ำหลากจากลุ่มน้ำสะแกกรังซึ่งไหลหลากเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและ
รวดเร็วจากเทือกเขาสะแกกรังไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา
ส่งผลให้ระดับน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา
เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีน้ำไหลผ่านเพิ่มมากขึ้น จาก 1,996 เป็น 2,200
ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 26 กันยายน
จะทำให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 50
เซนติเมตร
ส่วนระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มสูงขึ้นจาก
เดิมประมาณ 25 เซนติเมตร ขณะที่สถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักฯ
อยู่ในระหว่างคลี่คลายสถานการณ์
พร้อมรับมือสถานการณ์น้ำที่อาจจะเพิ่มขึ้นสูงเรื่อยๆ
ด้าน นายฎรงศ์กร สมตน
ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 กล่าวว่า
กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์สภาพภูมิอากาศในช่วงวันที่ 25-28 กันยายน
จะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้น
และมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์
จะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอีกระลอกหนึ่ง
จากการคาดการณ์ปริมาณน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 7 วันล่วงหน้า
จะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นจาก 1,564 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น
1,750-1,850ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 29 กันยายน
ซึ่งจะทำให้เขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลผ่าน เพิ่มขึ้น จาก 1,996
ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 2,300 – 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
และจะทำให้ระดับแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นประมาณ 75 - 125
เซนติเมตร
ส่วนระดับน้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดพระ
นครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 35–65 เซนติเมตร
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำหลาก เนื่องจากอิทธิพลดังกล่าว
ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ นายบรรหาร ศิลปอาชา
ได้เน้นย้ำในเรื่องของการระบายน้ำหัวเขื่อนท้ายเขื่อน ของ เขื่อนเจ้าพระยา
และต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำลำคลอง
เตรียมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมรับมือ
สถานการณ์น้ำ
ขอขอบคุณ : นกน้อยนิวส์ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น จังหวัดชัยนาท
by
Wasinee
25 กันยายน 2556 เวลา 11:54 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น