แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ไทย-พม่า ลงนามความสัมพันธ์ 3 ฉบับ

ที่มา Voice TV




นายกรัฐมนตรี และ ประธานาธิบดีสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ แถลงผลการหารือที่จะเพิ่มความร่วมมือในหลายด้านทั้งการค้าการลงทุน โดยได้มีการลงนามความสัมพันธ์ 3 ฉบับเพื่อทำให้ความร่วมมือทั้งสองประเทศเป็นไปอย่างเน้นแฟ้น

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวร่วมกับพลเอกเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ว่า การหารือในวันนี้ ได้แสดงความยินดีในความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันระหว่างสองประเทศ และขอบคุณในความร่วมมือผลักดันความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน การจ้างงานแรงงานพม่าในไทย และการปราบปรามยาเสพติด โดยจะฉลองความสัมพันธ์ทางการฑูตครบ 65 ปี ในปี 2557 โดยทางฝ่ายไทยพร้อมขยายความร่วมมือเพิ่มเติมในความพร้อมของฝ่ายไทยที่จะเข้า ร่วมประชุมคณะกรรมมาธิการร่วมไทย-เมียนมาร์ หรือ เจซี ที่เมียนมาร์จะเป็นเจ้าภาพ พร้อมจัดตั้งสมาคมมิตรภาพเมียนมาร์-ไทย คู่ขนานไปกับสมาคมไทย-พม่าเพื่อมิตรภาพ ที่ฝ่ายไทยตั้งมาแล้ว โดยไทยเสนอแผนงาน ที่จะพัฒนาใน 4 สาขาหลัก คือ การเสริมสร้างขีดความสามารถบุคลากรของเมียนมาร์ 2.การเตรียมความพร้อมในการเป็นประธานอาเซียนของเมียนมาร์ในปี 2557 3.การปฏิรูปเศรษฐกิจและพัฒนาทางเลือก 4.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

ทั้งนี้ทางรัฐบาลยืนยันในความมุ่งมั้นของรัฐบาลไทยในการร่วมกันผลักดัน โครงการท่าเรือน้ำลึก ให้สำเร็จเป็นรูปธรรม โดยทั้งสองประเทศมีความเห็นด้วยที่จะมีการเชื่อมโยงทางเรือน้ำลึกทวายมายัง ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศและภูมิภาค โดยทางเมียนมาร์จะได้รับประโยชน์จากท่าเรือน้ำลึกทวาย และไทยจะได้รับประโยชน์ในการพัฒนาภาคตะวันออกของไทย

นอกจากนี้ยังได้หารือกันทั้งสองฝ่ายให้มีการจัดตั้งคณะทำงานระดับรัฐมนตรี ที่จะมีการประชุมกันในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อพิจารณาประเด็นต่างๆที่ค้าง และแนวทางในการขยายพื้นที่เศรษฐกิจร่วมกัน รวมถึงการดูแลให้ความสำคัญกับชุมชนในพื้นที่บริเวณนั้นอย่างเหมาะสม ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันในการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวชายแดนให้มากขึ้น ในการเปิดจุดผ่านแดนถาวรเพิ่มเติม

ทั้งนี้ไทยกับเมียนมาร์มีการลงนามความสัมพันธ์ 3 ฉบับได้แก่ 1.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการพัฒนาเขตเศรษฐกิจทวายในการพัฒนาท่าเรือน้ำลึก และนิคมอุตสหกรรมทวาย และโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น 2.บันทึกความเข้าใจการพัฒนาในเมียนมาร์ใน 4 สาขาหลัก 3. การจัดตั้งเวทีหารือในด้านพลังงาน ทั้งนี้มีความเชื่อมั่นว่าความตกลงเหล่านี้จะทำให้ความร่วมมือทั้งสองประเทศ เป็นไปอย่างเน้นแฟ้นและเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนทั้งสองประเทศ

ขณะที่พลเอกเต็ง เส็ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์ กล่าวว่า รัฐบาลพม่าขอขอบคุณทางการไทย ที่ตระหนักถึงความสำคัญของการปฎิรูปการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งการหารือ ของ ทั้งสองผู้นำ ได้หารือถึงการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนรวมถึงการขนส่งเส้นทาง ทวาย ถึง แหลมฉบัง และแสดงความซาบซึ้ง ที่รัฐบาลไทยสนับสนุนการปฎิรูปการเมือง และเศรษฐกิจ และขอบคุณรัฐบาลไทย และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

23 กรกฎาคม 2555 เวลา 16:34 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น