เรืองไกร ร้องประธานสภาฯ นคร มาฉิม ถอนในสภา แต่ปชป. เปิดเผยในเว็ปไซต์

ที่มา มติชนออนไลน์

 



วันนี้  นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา  ได้ ทำหนังสือถึง ประธานสภาผู้แทนราษฎร  โดยเป็นการขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนุญ มาตรา ๖๒ ประกอบมาตรา ๗๐ ให้ตรวจสอบสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ดังต่อไปนี้

            
นายเรืองไกร อ้างว่า  ตามที่มีการประชุมอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีอีก ๓ คน โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นญัตติตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๕๘ และมาตรา ๑๕๘ รวม ๒ ญัตติ ดังปรากฏในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ ๓๔ วันที่ ๒๕ พฤศจิการยน ๒๕๕๕ โดยการยื่นญัตติทั้งสองดังกล่าว พรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นคำร้องขอถอดถอนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีตามความในรัฐ ธรรมนูญมาตรา ๒๗๑ ต่อประธานวุฒิสภาก่อนแล้ว ซึ่งการยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภานั้น รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๗๑ กำหนดว่า คำร้องขอดังกล่าวต้องระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหานายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีกระทำ ความผิดเป็นข้อ ๆ ให้ชัดเจน

             

 การอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ช่วงเวลาประมาณ ๒๐ นาฬิกา นายนคร มาฉิม สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายกล่าวหานายชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ กรณีการแต่งตั้งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และกล่าวหาด้วยว่า นายกรัฐมนตรีเข้าข่ายกระทำความผิดด้วย 

ซึ่งการอภิปรายดังกล่าว มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายคนเช่น นายพีระพันธุ์ พาลุสุข นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน นายพิชิต ชื่นบาน เป็นต้น ได้ทักท้วงว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีอยู่ในการยื่นร้องถอดถอนต่อประธานวุฒิสภา จึงไม่สามารถนำมาอภิปรายได้และเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ


ด้วยเหตุนี้ ผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม คือ นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงได้สอบถามทางวิปฝ่ายค้าน โดยนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์  ได้กล่าวตอบว่า หนังสือขอถอดถอนนั้นมีสามฉบับ แต่ประธานในที่ประชุมได้ยืนยันว่า เห็นเพียงสองฉบับเท่านั้น ถ้ามีฉบับที่สาม ขอให้ส่งให้ประธานด้วย


ต่อมานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็กล่าวในทำนองยอมรับว่า หนังสือถอดถอนมีเพียงสองฉบับ ประธานจึงสั่งพักการประชุมเพื่อให้วิปทั้งสองฝ่ายไปหารือกัน เมื่อเปิดประชุม ก็ยังมีข้อโต้แย้งว่า การอภิปรายของนายนคร มาฉิม นั้นขัดรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ขัดข้อบังคับการประชุมฯ แต่อย่างใด ในที่สุดนายนคร มาฉิม ก็ได้ขอถอนคำอภิปรายประมาณ ๔๐ นาทีออกทั้งหมด ประธานจึงสั่งให้ลบบันทึกการประชุมของนายนคร มาฉิม ออกไป  โดยให้ถือว่า ไม่มีการอภิปรายดังกล่าวในสภาผู้แทนราษฎรแต่อย่างใด

            


 ต่อมาเวลาประมาณสี่ทุ่มเศษ ในเว็บไซด์ของพรรคประชาธิปัตย์ ในหัวข้อข่าว/กิจกรรม > มัลติมีเดีย > งานประชุมสภา  พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการนำเทบบันทึกภาพและเสียงการอภิปรายของนายนคร มาฉิม ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้สั่งให้ลบออกจากที่ประชุมแล้ว มาเปิดเผยเป็นคลิปในชื่อ “๒๕ พ.ย. ๒๕๕๕ อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายนคร มาฉิม” ซึ่งมีความยาวประมาณชั่มโมงเศษ (๑.๑๔ ชั่วโมง) เปิดเผยต่อสาธารณะ อันอาจเป็นการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์ที่ฝ่าฝืนคำสั่งของประธานสภาผู้แทน ราษฎร นายเจริญ จรรย์โกมล อย่างชัดแจ้ง เป็นการขอลบหรือถอนคำอภิปรายเพียงในที่ประชุมเท่านั้น แต่กลับนำคำอภิปรายของนายนคร มาฉิม มาเผยแพร่ในเว็บไซด์ของพรรคประชาธิปัตย์ และอาจเป็นการกระทำที่เข้าลักษณะกลั่นแกล้งพรรคการเมือง หรือกรรมการบริหารพรรคการเมือง คือพรรคเพื่อไทย โดยปราศจากมูลความจริง ตามความในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๑๐๔ อีกโสดหนึ่ง  ดังรายละเอียดของเทปบันทึกภาพและเสียง(คลิป) ที่สามารถเปิดดูได้โดยทั่วไปและยังปรากฏคลิปดังกล่าวขึ้น Youtube ด้วย


การกระทำของพรรคประชาธิปัตย์รวมทั้งกรรมการบริหารพรรค จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แล้ว และอาจมีความผิดตามกฎหมายพรรคการเมืองตามมาด้วย ซึ่งจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการ เมืองต่อไป

             
นายเรืองไกร  จึงได้ทำหนังสือแจ้ง ประธานสภาผู้แทนราษฎรทราบ และโปรดพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปโดยเร็ว