ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี
กล่าวว่าถึงการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ที่ยุติลงว่า
อย่ามองว่ารัฐบาลชนะ เพราะรัฐบาลไม่เคยมองประชาชนเป็นศัตรูหรือคู่อาฆาต
เมื่อเหตุการณ์สงบเร็วรัฐบาลก็ดีใจ
ส่วนที่มองว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เป็นไปตามหลักสากล
7 ขั้นตอนนั้น ตนอยากให้ไปรอเปิดคลิปดู
เพราะกรณีนี้ตำรวจกำหนดพื้นที่ห่วงห้ามไว้
โดยจัดให้ผู้ชุมนุมเข้าสู่เวทีลานพระบรมรูปได้ ที่กองพลที่ 1 รักษาพระองค์
(พล.1รอ.) และวัดเบญจมบพิตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงให้ผู้ชุมนุมทราบแล้ว
แต่ผู้ชุมนุมมาถึงก็ตัดรั้วลวดหนาม เอาแท่นปูนออก และขับรถชนตำรวจ
ทำให้ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตา เพราะการขับรถชนตำรวจทำให้ตายได้
ส่วนแก๊สน้ำตาได้รับรายงานมีการขว้างมาจากกลุ่มผู้ชุมนุมออกมา
ถ้ายิงต้องเป็นฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อ
ถามว่าขณะนี้รัฐบาลวางใจม็อบ อพส.ได้หรือยัง ร.ต.อ.เฉลิม
กล่าวว่าการชุมนุมถือเป็นสิทธิเราห้ามไม่ได้
แต่ต้องเป็นไปตามกติกาและระบอบประชาธิปไตย ส่วนที่มีข่าวว่าจะมีการปลุกม็อบ
อพส.ขึ้นมาอีกนั้น ไม่ทราบไม่มีความคิดเห็น ส่วนการดำเนินการคดีแกนนำ
และกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังถอดเทปอยู่
ตนไปสั่งการอะไรไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย
กับผู้ชุมนุมที่ถูกจับช่วงแรกก็ปล่อยตัวหมดแล้วโดยไม่ต้องมีหลักประกัน
ยุคนี้การกลั้นแกล้งกันไม่มีไม่นิยม
ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายคน
เมื่อ
ถามว่าแกนนำที่จะถูกจับดำเนินคดีมีกี่คน ร.ต.อ.เฉลิม
กล่าวว่าบอกไม่ได้เป็นเรื่องของการสอบสวน
ส่วนการยกเลิกประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
ถือว่าจบแล้ว น่าจะมีผลวันที่ 26 พ.ย.
ทางศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.)
ได้เสนอเรื่องยกเลิกพ.ร.บ.ความมั่นคงฯมาที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน
ราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และกอ.รมน.ได้ทำหนังสือถึงนายกฯเรียบร้อยแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น