แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

อภิปรายวันแรก 'ชูวิทย์' ซัก 'เฉลิม' ปล่อยทุจริตโรงพัก ปชป. ชี้ 'สุกำพล' จัดซื้อเรือลาดตระเวนมีพิรุธ

ที่มา ประชาไท



เริ่มแล้ว อภิปรายซักฟอกรัฐบาล 'ยิ่งลักษณ์' เข้าสภา เตรียมประกาศยกเลิก พ.ร.บ.ความมั่นคง 'อลงกรณ์' อภิปราย รมว.กลาโหม จัดซื้อเรือลาดตระเวนมีพิรุธ 'ชูวิทย์' ซัก 'เฉลิม' ใช้หลักฐานสองมาตรฐาน ปล่อยทุจริตโรงพักทดแทน
 
อภิปรายซักฟอกรัฐบาล 'ยิ่งลักษณ์' เข้าสภา เตรียมประกาศยกเลิก พ.ร.บ.ความมั่นคง
 
25 พ.ย. 55 - ที่รัฐสภา นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลหรือวิปรัฐบาล กล่าวถึงการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ทุกอย่างจะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และมั่นใจว่าการอภิปรายจะใช้เวลาไม่เกิน 30 ชั่วโมง ตามที่ตกลงกันไว้ พร้อมกับเห็นว่า หากมีการอภิปรายพาดพิงถึงผู้อื่นคงจะมีการประท้วงขึ้นมาตามปกติ และหากมีการอภิปรายนอกประเด็นและประท้วงจนเกิดการยืดเยื้อ ก็จะส่งผลให้ในวันที่ 2 ของการอภิปรายต้องใช้เวลามากกว่าปกติ และก่อนเริ่มการอภิปรายควรจะมีการพูดถึงมาตรการในการรักษาความปลอดภัยที่ เข้มงวดมากยิ่งขึ้นกับ ส.ส. เพื่อการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น  
 
ทั้งนี้ ตั้งแต่ เวลา 08.55 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงรัฐสภา เพื่อเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมว่า “พร้อมค่ะ” จริงๆ เราก็ทำงานอยู่แล้ว ยินดีที่จะตอบทุกข้อซักถามต่างๆ และข้อข้องใจของฝ่ายค้าน
 
เมื่อสื่อมวลชนถามว่า มั่นใจว่านายกฯและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายจะสามารถผ่านไปได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “เราตอบอย่างเต็มที่ ทุกอย่างตอบตามที่เราได้ทำงานไป ก็เชื่อมั่นค่ะ” 
 
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ในเวลา 10.00 น. ฝ่ายความมั่นคงจะมีการประเมินสรุปสถานการณ์และรายงานให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทราบ เพื่อให้ความมั่นใจว่าสถานการณ์มีความเรียบร้อย และพร้อมที่จะมียกเลิกพระราชบัญญัติความมั่นคงตามที่ได้กล่าวไว้ โดยให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุม 66 ราย ส่วนคดีความต่างๆ ที่เกิดจากการชุมนุมนั้น ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า รู้สึกดีใจที่มีการเลิกการชุมนุมโดยเร็วและทุกอย่างเป็นไปด้วยความสงบ 
 
ด้านความเคลื่อนไหวทางฟากฝ่ายค้าน เมื่อวันที่ 24 พ.ย.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล วันที่ 25-27 พ.ย.ว่า ฝ่ายค้านได้เตรียมข้อมูลไว้พร้อมแล้ว แต่เนื่องจากยังมีข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาอีก ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนการอภิปรายเพื่อให้เกิดความเหมาะสม เบื้องต้นคาดว่า ผู้อภิปรายมีประมาณ 30 คน และเมื่อมีข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามา จึงต้องหารือกันอีกว่าอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแนวทางจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เคยระบุว่าจะใช้เวลาอภิปราย 1 วันต่อรัฐมนตรี 3 คนคือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่วนเวลาที่เหลืออีก 2 วัน จะอภิปราย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนเดียว 
 
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ปชป. กล่าวว่า ผู้ที่จะอภิปรายเกี่ยวกับโครงการจำนำข้าว มีประมาณ 4-5 คน โดยจะพุ่งเป้าไปที่นายกฯ ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) จะพยายามไม่ไปแตะนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้มีโอกาสได้ชี้แจง เพราะยื่นอภิปรายนายกฯจึงต้องพุ่งเป้าไปที่นายกฯโดยตรง ซึ่งนายกฯต้องเป็นผู้ชี้แจง 
 
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา หัวหน้าทีมกฎหมาย ปชป. กล่าวว่า ขณะนี้ ส.ส.ปชป.พร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ในการที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและ 3 รัฐมนตรี โดยตนเป็นหนึ่งใน ส.ส.ที่ได้รับมอบหมายให้อภิปรายด้วย ซึ่งจากข้อมูลยืนยันได้ว่า การอภิปรายครั้งนี้จะไม่ใช่เพียงแค่การใช้โวหารและวาทกรรม จะมีหลักฐานถึงขั้นเป็นใบเสร็จเอาผิดผู้สั่งการได้ จึงอยากให้รัฐบาลตั้งใจฟังการอภิปรายอย่าตีรวน เพื่อจะได้นำสิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปรายไปปรับปรุงในสิ่งที่ผิด อะไรที่ผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน ถ้าปล่อยปละละเลยจะถูกข้อหาสมคบกันกระทำความผิดไปด้วย
 
"สิ่งที่ผมจะอภิปราย จะมีทั้งเรื่องการทุจริต ผิดกฎหมาย ผิดจริยธรรม ขัดรัฐธรรมนูญ ถึงขั้นทำให้คนบางคนต้องพ้นจากตำแหน่ง ดีไม่ดีอาจจะต้องติดคุกด้วย และเรื่องนี้รับรองได้ว่าโยงถึงนายกฯหญิงคนสวยแน่นอน" นายวิรัตน์กล่าว
 
จุรินทร์ ชี้การอภิปรายมุ่งเน้นไปที่ตัวนายกรัฐมนตรี ในการบริหารผิดพลาด ไม่เป็นไปตามที่แถลงต่อรัฐสภา
 
โดยในการเริ่มอภิปรายนั้นนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ มุ่งเน้นไปที่ตัวนายกรัฐมนตรี ในการบริหารผิดพลาด ไม่เป็นไปตามที่แถลงต่อรัฐสภา และทุจริตสายนโยบาย รวมถึงการปรายปรามการทุจริตที่มีการเลือกปฏิบัติ ละเว้น จงใจไม่รับผิดชอบรัฐสภา ขาดวุฒิภาวะ ปิดบังข้อมูล เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ และหลังจาก นายจุรินทร์ อภิปรายเสร็จ ก็เป็น นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นอภิปรายคนแรก ในการอภิปราย พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรทัต รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงกลาโหม
 
ชูวิทย์ซักเฉลิมใช้หลักฐานสองมาตรฐาน ปล่อยทุจริตโรงพักทดแทน
 
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.พรรครักษ์ประเทศไทย ได้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะผู้รับผิดชอบดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยนายชูวิทย์ได้เปิดเผยคลิปวีดีโอ บ่อนการพนันผิดกฎหมาย ที่นายเฉลิมได้รับหลักฐานอุปกรณ์การเล่นพนันแต่ไม่มีการดำเนินการจับกุมโดย อ้างว่าไม่สามารถจับกุมได้แต่ใช้คลิปวีดีโอบ่อนการพนันที่ตนนำเสนอพิจารณา ให้ พลตำรวจเอก วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี พ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นการกระทำสองมาตรฐาน 
 
นอกจากนั้นนายชูวิทย์ ยังได้เปิดเผยคลิปภาพโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทนที่ยังไม่แล้วเสร็จและการ ดำเนินงานไม่มีความคืบหน้าจนใกล้จะปิดโครงการในอีก 40 วันข้างหน้า พร้อมทั้งได้เปรียบเทียบการก่อสร้างห้องทำงานของ นายวัน อยู่บำรุง ลูกชายของ รตอ.เฉลิม ว่าสร้างเสร็จภายใน 30 วัน มีเครื่องใช้หรูหรา แต่ละเลยการดูแลตำรวจทั่วประเทศ  ทั้งนี้นายชูวิทย์ ยังได้กล่าวถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัฒน์ ว่าบัดนี้นางสาวยิ่งลักษณ์เป็นพญาระกา ยืนเทียบกับพญาอินทรีและพญามังกรได้แล้วไม่ต้องพึ่งพาพญาฉลาม(หมายถึงนาย เฉลิม)อีกต่อไป
 
ด้าน ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง ได้ตอบข้ออภิปรายของนาชูวิทย์ถึงกรณีการใช้คลิปวีดีโอในการจับกุมผู้เล่นการ พนันไม่ได้เพราะการจะจับกุมผู้เล่นพนันได้นั้น ต้องจับกุมซึ่งหน้า ทั้งยังวิจารณ์หลักฐานคลิปบ่อนของนายชูวิทย์ว่า “ในประเทศเพื่อนบ้านของเรามีการเปิดบ่อนแบบถูกกฎหมาย ผมจะรู้ได้ยังไงว่าคลิปที่ท่านเอามานั้นถ่ายในเมืองไทยจริงๆ” นอกจากนั้นยังได้ชี้แจงถึงกรณีการก่อสร้างโรงพักทดแทนว่า มีนักการเมืองกลุ่มหนึ่งส่งบริษัทของตนเข้าไปทำการประมูลรับจัดทำเพียงแค่ บริษัทเดียวแต่จ้างซับคอนแทรกส์ ในการดำเนินการ ดังนั้นงานจึงออกมาเป็นอย่างที่เห็น ซึ่งเรื่องนี้ตนจะนำไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบต่อไป พร้อมกับยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตการก่อสร้างแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังสำทับด้วยว่าการที่ห้องทำงานของลูกชายตนมีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน เพราะเอามาจากที่บ้านไม่ได้ใช้งบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด
 
'อลงกรณ์' อภิปราย รมว.กลาโหม จัดซื้อเรือลาดตระเวนมีพิรุธ
 
นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีการปล่อยปละละเลยให้ดำเนินการในโครงการจัดหาเรือสนับสนุนการปฏิบัติการ ทางเรือ จำนวน 3 ลำมูลค่า 535 ล้านบาทของกองทัพเรือโดยมีความไม่โปร่งใส โครงการเกิดความล่าช้า และเอื้อประโยชน์เอกชนบางราย ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 หรือกฎหมายฮั้ว รวมทั้งผิดกฎหมายอาญามาตรา 157  ด้วยการอนุมัติยกเลิกชะลอการลงนาม ที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม คนก่อนระงับไว้เนื่องจากมีการร้องเรียนเกิดขึ้น
 
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ในกรณีดังกล่าว ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีหนังสือถึงทางกลาโหมและผู้บัญชาการทหารเรือให้ทบทวนการจัดหาให้ถูกต้อง และให้ชี้แจงเพิ่มเติมในพฤติรรมที่ส่อว่าจะมีการกระทำผิดกฎหมาย รวมทั้งมีการสรุปรายงานถึง พล.อ.อ.สุกำพล อีกครั้ง เมื่อมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ว่า โครงการจัดหาเรือสนับสนุนฯ ดังกล่าวมีการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทใดบริษัทหนึ่งจึงให้ทบทวน แต่ในวันที่ 24 เม.ย. 55 หรืออีกสิบวันต่อมาหลังมีหนังสือดังกล่าว พล.อ.สุกำพล กลับให้ยกเลิกการชะลอการลงนามของ รมว.กลาโหมคนก่อนและลงนามมีสัญญาผูกพันกับบริษัทมาร์ซัน เมื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวแล้ว ส.ต.ง. จึงมีความเห็นเสนอให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อไป 
 
ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ ได้กล่าวถึงข้อพิรุธ ในโครงการจัดหาเรือลาดตระเวนดังกล่าวว่า มีการประกาศให้เป็นการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธิพิเศษ แต่มีความรวบรัด การเชิญชวนมีระยะเวลาที่สั้นเพียงประมาณหนึ่งเดือน จึงมีบริษัทมารับฟังเงื่อนไขเพียง 7 ราย ประการต่อมาคือ การซื้อซองประมูลน้อยราย คือ เหลือเพียง 2 ราย ประการที่สามคือ บริษัทที่ชนะการประมูลผิดเงื่อนไขข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง (TOR) ซึ่งมีสามข้อใหญ่ คือ เครื่องยนต์หลักเรือเป็นดีเซล  เครื่องยนต์หลักต้องสอดคล้องกับระบบกลไกทั้งหลายหรือเป็นยี่ห้อเดียวกัน แต่บริษัทที่เสนอได้ตรงเงื่อนไขนี้กลับแพ้ประมูลและมีการร้องเรียนเกิดขึ้น อีกเรื่องหนึ่งคือ สมรรถนะของเรือจะต้องฟ่าฟันลมมรสุมระดับ 5 หรือคลื่นต่ำกว่า 4 เมตร ลงมา ซึ่งในเอกสารแสดงรายละเอียดการยื่นซองของผู้ชนะกลับไม่มีความชัดเจนตรงนี้ และเป็นเรื่องหนึ่งที่ร้องเรียนไป สตง. ด้วย การตรวจสอบเรื่องนี้เป็นเวลาปีกว่าและก็ยังไม่สามารถชี้แจงชัดได้
 
ประการสุดท้าย คือ การยื่นเอกสารภายหลังจากวันที่ 2 พ.ค. ซึ่งเป็นวันที่ต้องยื่นพร้อมกันเพื่อการแข่งขันที่เป็นธรรม แต่บริษัทที่ชนะกลับมีการยื่นเอกสารเพิ่มเติมโดยชี้แจงว่าไม่ใช่สาระสำคัญ  ในเรื่องเหล่านี้ ทางองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญต่างๆส่งหนังสือท้วงแล้วท้วงอีก มีการเซ็นต์หนังสือรับทราบโดย รมว.กลาโหมคนเก่า แต่เมื่อ พล.อ.สุกำพล มาเป็น รมว.กลาโหมคนใหม่กลับยกเลิกการชะลอและลงนามในสัญญา ซึ่งถือเป็นความคือบกพร่องต่อหน้าที่ เพราะมีผู้ยื่นน้อยรายและมีการเลือกหนึ่งรายชนะ จึงยอมให้มัดมือชก เพราะมีเพียงรายเดียวที่สามารถยื่นซองราคาได้ทำไมจึงไม่ให้บริษัททั้งสองราย ยื่นซองราคาให้พร้อมกัน 
 
ด้าน พล.อ.อ.สุกำพล ได้ตอบการอภิปรายว่า รมว.กลาโหมคนเก่ามีหนังสือให้ชะลอการลงนามเพื่อให้ สตง.ตรวจสอบ ซึ่งทางกองทัพเรือได้ชี้แจงไปถึง 6 ครั้ง และได้เชิญผู้แทนกองทัพเรือมาถึง 3 ครั้ง เพื่อพิจารณาประเด็นต่างๆถูกร้องเรียนไว้ และได้คุยกันทุกประเด็นแล้วจึงมาปลดล็อคให้เพราะเรื่องนี้ล่วงเลยมานานจึง ต้องแก้ไข นอกจากนี้ การร้องร้องดังกล่าวยังทำไปหลายที่รวมทั้งที่กรรมาธิการทหาร วุฒิสภา เมื่อตรวจสอบแล้วก็มีหนังสือแจ้งว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วปรากฏว่า การชี้แจงของกองทัพเรือมีหลักฐานบุคคลและเอกสารจึงให้ยุติการตรวสอบ อย่างไรก็ตาม ก็พร้อมชี้แจงให้ ปปช.ทราบต่อไป 
 
"ต้องการให้กองทัพเรือมีเรือใช้ เพราะค้างมานานแล้ว และสามารถตอบข้อร้องเรียนได้ทั้งหมดจึงใช้ความกล้าหาญเซ็นต์ลงไป ส่วนรื่องการทุจริตไม่มี" พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว
 
'ถาวร' แฉเอกสารมัด 'ชัจจ์' ลงนามสัญญาส่อฮั้วจัดซื้อจัดจ้างขุดลอกแม่น้ำ
 
นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นอภิปราย พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย ในฐานะอดีต รมช.คมนาคม ซึ่งมีพฤติกรรมส่อทุจริต ส่อผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ มาตรา10 โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นหรือมีพฤติการณ์ละเว้นหรือไม่ดำเนินการให้ยกเลิก ในการเสนอราคา โดยเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการใดเอื้อประโยชน์ซึ่งผู้มีดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทำให้ผู้เสนอราคาได้ประโยชน์จะมีโทษจำคุก 7 ปีหรือตลอดชีวิตและปรับ 7 แสนบาท 
 
โดยนายถาวรระบุว่า พบว่าเอกสารสัญญาที่ อดีต รมช.คมนาคมลงนามเห็นชอบจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษทั้งหมด 16 สัญญา รองปลัดลงนามอีก 10 สัญญา รวม 26 สัญญาในโครงการขุดลอกแม่น้ำ 7 สายวงเงินงบประมาณ 1,019 ล้านบาท แต่ไม่มีการประมูลประกวดราคา สั่งให้กรมเจ้าท่า เชิญนิติบุคคลมาเพียง 14 แห่งเท่านั้นอ้างว่าอยู่ในพื้นที่ให้เกิดความรวดเร็ว ดำเนินการอย่างนี้หลีกเลี่ยงแข่งขันอย่างเป็นธรรม เอื้อประโยชน์ของเจ้าธุรกิจ โดยผ่านเจ้าหน้าที่และรัฐมนตรี ล็อคพื้นที่เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพวก มีการตั้งบริษัทนอมินีมาสับเปลี่ยนกันเสนอราคาเพื่อให้ถูกวิธี อ้างการดำเนินการเร่งด่วนเพราะยกเหตุแห่งความเสียหายจากมหาอุทกภัยปี 2554 ทุกคนทราบว่าพื้นที่ 65 จังหวัด  4 ล้านครัวเรือน ประชาชน 14 ล้านคนเดือดร้อน เสียทางเศรษฐกิจ 1.4 ล้านล้านบาท หากเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนก็ควรทำ แต่หนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นัล ลงพิมพ์ว่ารัฐบาลไทยรู้ล่วงหน้าก่อน 2 เดือนว่าจะต้องฟื้นฟูเยียวยา แต่ได้วางแผนทำผิดกฎหมาย มีการของบกลาง 1.2 แสนล้านบาทเพื่อนำไปแก้ไขเยียวยา อ้างเหตุผลเร่งด่วนในการจัดจ้างจัดซื้อเพื่อป้องกันอุทกภัย การอ้างที่สำคัญเร่งขุดลอกเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้หน้าแล้งด้วย ซึ่งฝ่ายค้านได้อภิปรายแล้วไม่เห็นด้วยการใช้งบจำนวนนี้เกรงว่านำไปทุจริต ได้ง่าย
 
นายถาวร กล่าวว่าอดีต รมช.คมนาคม เสนองบขุดลอกแม่น้ำ ปิง วัง ยม น่าน ป่าสัก ใช้งบ 1,019 ล้านบาทเมื่อช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา อ้างจำเป็นเร่งด่วนช่วยเหลือประชาชน แต่ปล่อยปละเลยการที่ต้องขุดมาตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.54 หรือ 50 วัน   หลังจากนั้น กรมเจ้าท่าจึงทำหนังสือถึงสำนักงบประมาณของบไปจัดสรรทำโครงการ และออกมติ ครม.ให้ใช้วิธีพิเศษ ช่วงนี้มีการลือกันว่ามีการนำงานไปขายเอาเงินทอนมา โครงการละ 30 ล้านบาท มีการระบุว่าต้องหาผู้รับจ้างมีคุณภาพให้เสร็จตามวัตถุประสงค์ ส่วนการเสนออีอ็อกชั่นหรือวิธีธรรมดา ก็ไม่มีการดำเนินการ หลังจาก ครม.อนุมัติให้ทำวิธีพิเศษ ก็มีการส่อทุจริตฮั้ว ล็อกพื้นที่โดยวันที่ 16 -20 ก.พ.มีหนังสือเชิญชวนบริษัทให้เสนอราคา ให้ไปดูพื้นที่ ในช่วงเวลาแค่ 3 วันไม่สามารถทำได้นอกจากรู้กัน ในหนังสือเชิญชวนลงวันที่ 16 ก.พ.บางบริษัทตั้งอยู่ จ.นครสวรรค์ ไปทำสัญญาเช่าเครื่องจักรตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. อีกบริษัท ไปทำสัญญาลงวันที่ 9 ก.พ.  ถ้าไม่รู้ล่วงหน้าทำได้อย่างไร ระบุร่องน้ำได้ถูกต้องตามเสนอราคายื่นซองจัดจ้างวิธีพิเศษ และยังมีการสมยอมเสนอราคา โครงการขุดลอกแม่น้ำทุกสายเสนอประกบราคาเท่ากันเกือบหมดต่างกันเพียงหลักพัน ทั้งที่แต่ละโครงการวงเงิน60-70 ล้านบาททั้งหมด
 
 นายถาวรกล่าวต่อว่า ตนลงพื้นที่ดูแม่น้ำปิง สงสารคนกำแพงเพชร และนครสวรรค์ ปรากฏว่าสันดอนกว้าง 10 เมตร ที่บอกว่าให้ขุดเกาะกลางออกเพื่อให้น้ำไหล ให้มีพื้นที่เก็บกักน้ำมากขึ้นในหน้าแล้ง ปรากฏว่าชาวนาไม่มีน้ำทำนา งบเป็นพันล้านอ้างฟื้นฟูเยียวยาขุดลอกแม่น้ำเก็บน้ำไว้หน้าแล้ง แต่ชาวบ้านไม่มีโอกาสได้ใช้ การปรับปรุงภูมิทัศน์ก็ไปเอาดินวางกองเพื่อกันน้ำ  เขียนว่าจะปลูกหญ้าแฝก แต่กลับไม่มีสักต้น แต่เบิกจ่ายงบประมาณไป 70 เปอร์เซ็นต์ เปิดโอกาสให้มีคนรับเงินทอน คนไทยโดนน้ำท่วม ยังทำได้ลงคอ อ้างช่วยเหลือประชาชน รีบด่วนจัดจ้างวิธีพิเศษ ใครได้ประโยชน์จาก 14 บริษัท ที่ จ.กำแพงเพชร มีคนชื่อย่อ จ ได้ประโยชน์ ที่ จ. นครสวรรค์ มีคนชื่อ บ. เป็นนักการเมืองตั้งบริษัทนอมินี ที่สำคัญมีรัฐมนตรีไปจัดจ้างขุดเองคิวบิกละ 14 บาท แต่รับงบไปคิวละ 34 บาท ส่วนเจ๊ชื่อดังที่อยู่ทางเหนือรับมากที่สุด ตั้งบริษัท  บ. และบริษัทเล็ก เป็นนอมินีของนักการเมืองทั้งนั้น ถามว่ารัฐบาลประกาศสงครามหยุดการคอร์รัปชั่นแต่ฝืนนโยบายตัวเอง การดำเนินการของรัฐมนตรีเป็นตามระเบียบบัญชีกลางหรือไม่
 
'ศิริโชค' ปูดไอ้โม่งงาบส่วนต่างพันล้านเปลี่ยนสเปคระบบป้องกันภัยเรือหลวงนเรศวร
 
นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายพุ่งเป้าไปยังพล.อ.อ.สุกำพล สุวรณทัต รมว.กลาโหม เกี่ยวกับการเปลี่ยนทีโออาร์การจัดซื้อระบบป้องกันภัยคุกคามในโครงการปรับ ปรุงเรือฟริเกต เรือหลวงนเรศวร ระยะที่ 2 ของกองทัพเรือ ว่า โครงการดังกล่าวฝ่ายเสนาธิการทหารเรือได้มีการทำทีโออาร์พัฒนาระบบป้องกัน ภัยคุกคามในระยะที่ 2 ซึ่งกำหนดให้มีระบบการยิงเป้าลวงอย่างน้อย 2 แท่น
 
โดยทีโออาร์ได้กำหนดให้ต้องเป็นแบบแท่นหมุน เพราะเป็นเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดที่เรือรบฟริเกตใช้กันทั่วโลก ซึ่งปรากฏว่าบริษัท Saab AB (publ) ที่เป็นผู้ชนะการประมูล โดยเสนอให้ใช้อุปกรณ์ชื่อ SAGEM DECOY ซึ่งเป็นระบบแท่นยิงหมุนได้ และเป็นอุปกรณ์ทีเรือฟริเกตใช้กันทั่วโลก
 
นายศิริโชค กล่าวว่า ต่อมาพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 18 ม.ค.55 จากนั้นภายหลัง 12 วัน ได้มีไอ้โม่งสั่งการไปยังบริษัท Saab AB (publ) ให้เปลี่ยนแปลงคุณลักษณะที่สำคัญหรือสเปคของทีโออาร์ มาใช้เป็นระบบ TERMA DECOY ซึ่งเป็นระบบแท่นยิงอยู่กับที่ ใช้ในยุดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีข้ออ้างหลายประการ เช่น ระบบดังกล่าวจะต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้งมาก และหลายจุด เป็นต้น จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงสเปค ซึ่งพล.อ.อ.สุกำพล เสนอให้คณะรัฐมนตี (ครม.) อนุมัติงบประมาณ วงเงิน 2,699 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงเรือหลวงนเรศวร ซึ่งกองทัพเรือได้ลงนามจัดซื้อจัดจ้าง ในวันที่ 25 ก.ย.55
 
อย่างไรก็ตาม การที่รมว.กลาโหม เสนอเรื่องดังกล่าวโดย Saab AB (publ) แถมส่วนลดจำนวน 1,000 บาท โดยพล.อ.อ.สุกำพล ก็ยอมรับส่วนลดดังกล่าว เพราะหากคิดตามมีเงินทอนให้กับฝ่ายการเมืองเกือบ 1,000 ล้านบาท คิดเป็น 35% จึงอยากถามว่าเงินส่วนดังกล่าวอยู่ที่ไหน
 
"ถือว่ากรณีดังกล่าวเป็นการทุจริตคอรัปชั่น ส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของกองทัพเรือ เพราะมีการเปลี่ยนระบบป้องกันภัยคุกคามย้อนยุค ดังนั้นหากจะดำเนินการอะไรควรคิดถึงลูกเรือที่ประจำการบนเรือหลวงนเรศวร"นาย ศิริโชค กล่าว
 
'วิรัตน์' อภิปรายรมว.กลาโหมเปิดคลิปเสียงสนทนาอ้างแต่งตั้งโยกย้าย ขรก.ไม่เป็นธรรม นายกฯแจงไม่เคยแทรกแซง
 
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์  อภิปราย พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม  ถึงการตั้งแต่ง พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน เป็นปลัดกระทรวงกลาโหมขัด พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม  2551 และ ข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล  ซึ่งการแต่งตั้งมีสองขั้นตอน คือระดับแต่ละหัวหน้าหน่วยงานทำเสนอขึ้นมา และ คณะกรรมการชุดใหญ่ที่มี รมว.กลาโหม​ เป็นประธานซึ่งการแต่งตั้งไม่ได้เป็นไปตามาขั้นตอน ​
 
ทั้งนี้ นายวิรัตน์ ได้เปิดคลิปเสียงสนทนาระหว่าง ของ พล.อ.อ. สุกำพล โดยมีเนื้อหาระบุว่า พล.อ.เสถียร ต้องการแต่งตั้ง พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีความอาวุโสและอยู่ในอัตราจอมพล  เป็นปลัดกระทรวง แต่พล.อ.อ.สุกำพล ต้องการ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วย ผบ.ทบ  มาดำรงตำแหน่ง​พร้อมพูดในคลิปว่า หาก“พล.อ.เสถียรเสนอ พล.อ.ชาตรี ตัวเองก็จะเปลี่ยนเป็น.ชื่อ พล.อ.ทนงศักดิ์” และ "หากเรื่องนี้เป็นการส่งมาเพื่อรับทราบก็ไม่ต้องมีรัฐมนตรีแล้ว"​ และ  อย่างนี้ไม่ต้องเซ็น แ_่ง แล้ว"  นอกจากนี้ยังมีคลิปเสียงที่ พล.อ.เสถียร​ ซักถามว่า  พล.อ.มี 130 คน จอมพล มี 6 คน ทำไมต้องแต่งตั้ง พล.อ.ทนงศักดิ์
 
นายวิรัตน์​  กล่าวว่า จากนั้น ก็มีการย้ายพล.อ.เสถียร และ นายทหารที่เกี่ยวข้องไปช่วยงานสำนักรัฐมนตรีกลาโหม  เพื่อให้หมดอำนาจในการแต่งตั้งข้าราชการ ซึ่งต่อพล.อ.เสถียรทำหนังสือขอเข้าประชุมแต่ก็ได้รับการปฏิเสธ ​  หลังการแต่งตั้ง พล.อ.เสถียร เคยการขอเข้าพบ และเยือนหนังสือให้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ เพื่อชี้แจงในเรื่องนี้แต่ก็ได้รับการเพิกเฉย  ซึ่งพฤติกรรมของ พล.อ.สุกำพล ที่เข้าแทรกแซงข้าราชการ ขัดต่อรัฐธรรมนูญและ และกฎหมายหลายฉบับ โดยเป็นการสมรู้ร่วมคิดกับนายกรัฐมนตรี                
 
พล.อ.สุกำพล ชี้แจงว่า การแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหมจะต้องผ่านคณะกรรมการชุดเล็ก  และ คณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งตนเองเป็นประธาน และเป็นเพียงหนึ่งเสียงใน 6 เสียง ​มีสิทธิ์เท่ากันไปบังคับใครไม่ได้   ขั้นตอนแต่งตั้ง​จะพิจารณาในชุดใหญ่ก่อนก็ได้ หรือ ชุดเล็กเสนอก่อนก็ได้ ​สำหรับคลิปเสีย​ง ในวันที่ 17 ส.ค. 55   ยอมรับเป็นเสียงตน ซึ่งเป็นคลิปที่ไม่สมบูรณ์ นำมาเปิดเผยไม่ครบ และรู้ว่าใครอัดเสียง ​ซึ่งสิ่งที่ไม่ถูกต้องถือผิดวินัยร้ายแรงที่สุดที่ไม่เคยเกิดขึ้นในกระทรวง กลาโหมมาก่อน และได้ตั้งกรรมการตรวจสอบแล้ว  
 
ส่วนระบุเรื่องความอาวุโส ตามระเบียบแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหมจะต้องยึดหลักอาวุโส  ประวัติการทำงาน และ ความรู้ความสามารถมาประกอบกัน มิใช่นำเรื่องอาวุโสมาพิจารณาอย่างเดียว ​และที่ผ่านมาพล.อ.พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม มีอาวุโส แต่สุดท้ายก็มีการเลือกพลอ.เสถียรมาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมในครั้ง  แต่ครั้งนั้น พล.อ.วิทวัส เป็นลูกผู้ชาย ก็ยอมรับในการตัดสิน 
 
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า การโยกย้ายนายทหารทั้ง 3 คน เนื่องจากมีพฤติกรรมไปยื่นหนังสือต่อประธานองคมนตรี และไปพบองคมนตรีบางคน  ถือเป็นการดำเนินการผิดวินัย​นำความลับที่ยังไม่เสร็จสิ้นไปเผยแพร่ต่อ บุคคลภายนอก  และบุคคลที่ไปพบองคมนตรีอยู่ในระดับจอมพล ตนจึงได้โยกย้ายไปช่วยราชการในสำนักรัฐมนตรีกลาโหม และยืนยันว่าตัวเองมีอำนาจทำได้ และ 1ใน 3  คน นั้นต่อมาก็ได้มาขอโทษตนในภายหลังและยอมรับว่าตัวเองทำถูกต้องแล้ว  ​
 
น.ส. ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า  การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทหารมีระเบียบชัดเจน นายกฯไม่สามารถก้าวข้ามไปแทรกแซงได้ เพราะการแต่งตั้งดังกล่าวเป็นอำนาจของคณะกรรมการที่มีรมว.กลาโหมเป็นประธาน 
 
อย่างไรก็ตาม หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากพล.อ.เสถียร ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ สำนักเลขาธิการสำนักนายกฯ ทำหนังสือถึงพล.อ.อ.สุกำพล ให้ดำเนินการให้ถูกต้องและแจ้งให้พล.อ.เสถียรทราบแล้ว
 
'ธนิตพล' ชี้โครงการขุดลองคูคลองเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม 26 โครงการ ไม่ชอบมาพากล
 
นายธนิตพล ไชยนันท์ ส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ อภิปราย พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ถึงความไม่ชอบมาพากลโครงการขุดลองคูคลองเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม 26 โครงการของกระทรวงคมนาคมว่า จากการติดตามตรวจสอบพบว่าโครงการบางจุดไม่ได้ขุดลอกคูคลองจริง พบมีแต่เพียงการตกแต่งคันดิน สัญญาการทำงานเสียเปรียบ มีการทุจริตเกิดขึ้น เพราะไม่ได้บอกรายละเอียดว่าจะดำเนินการอะไรบ้าง นอกจากปัญหาเรื่องการขุดลอกคูคลอง เมื่อไปตรวจงานพบว่าการขุดลอกทำแต่ไม่ทันฤดูน้ำหลาก ทำให้ดินทรายที่ขุดมากองไว้ริมตลิ่งไหลกลับไปอยู่ในน้ำตามเดิม จึงสงสัยว่าโครงการที่ใช้เงินถึง 2,215 ล้านบาท ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แม้รัฐมนตรีจะย้ายกระทรวงไปแล้ว แต่คณะกรรมาธิการติดตามการใช้งบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรจะตรวจสอบต่อไป
 
ด้าน พล.ต.ท.ชัจจ์  ชี้แจงว่า การขุดลอกคูคลองบางส่วนที่เอาภาพมาแสดงยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จจริง แต่อยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนที่ระบุว่าการทำโครงการเป็นการให้คนทำกับคนจ้างมาตกลงกันเองโดยไม่มีราย ละเอียดโครงการคงไม่ใช่ ซึ่งสัญญาที่ผู้อภิปรายนำเอาแผนที่มาอภิปรายโดยมีข้อกำหนดรายละเอียดโครงการ ถูกต้องทั้งหมด ย่อมแสดงว่าโครงการนี้มีการทำสัญญาจริง ไม่ได้เลื่อนลอย
 
 
ที่มาเรียบเรียงจาก: เว็บไซต์ข่าวรัฐสภาถึงประชาชน, สำนักข่าวไทย, กรุงเทพธุรกิจ, โพสต์ทูเดย์, เดลินิวส์, มติชนออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น