กรณ์-ศิริโชค ได้เสียว กลาโหมสะบัดเขี้ยว ไล่ตรวจสอบสถานะเด็กนอก ผ่านการเกณฑ์ทหารกันมาอย่างไร
มติชนออนไลน์ รายงานโดยอ้าง
แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงกลาโหม เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ว่า
หลังจากที่คณะกรรมการกระทรวงกลาโหมชุดตรวจสอบการใช้เอกสารเข้ารับราชการของ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ได้สรุปผลการปลดออกราชการและถอดยศขอคืนเบี้ยหวัดจนส่งเรื่องให้ผู้ตรวจการ
แผ่นดินดำเนินการแล้วนั้น ขณะเดียวกันคณะกรรมการฯชุดดังกล่าวยังได้รับ
หนังสือร้องเรียนเพิ่มเติมจากนายทหารระดับสูง ที่ไม่เปิดเผยชื่อ
ให้ตรวจสอบการเข้ารับการตรวจเลือกทหารของ นายกรณ์ จาติกวณิช
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์
ที่คาดว่าทั้งสองรายนี้ยังไม่ได้เข้ารับการตรวจคัดเลือกทหารกองประจำ
การ(เกณฑ์ทหาร)
และอาจจะมีหนังสือเอกสารของทางราชการเกี่ยวกับใบสำคัญของการตรวจเลือกทหาร
อันอาจเป็นเท็จ
แหล่งข่าวระดับสูงเผยอีกว่า นายกรณ์
มีภูมิลำเนาทหารอยู่จังหวัดทหารบกกรุงเทพ มณฑลทหารบกที่ 11
(มทบ.11)ส่วนนายศิริโชค มีภูมิลำเนาทหารอยู่ที่ จังหวัดสงขลา
ในสังกัดมณฑลทหารบกที่ 42 (มทบ.42)
ทั้งคู่เดินทางไปศึกษายังต่างประเทศ(อังกฤษ)ตั้งแต่มัธยมศึกษาจนเข้า
มหาวิทยาลัย และไม่ได้เดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อเข้ารับการตรวจเลือกทหาร
แต่ได้ขอผ่อนผันจนอายุเกินกำหนด ถือเป็นการเลี่ยงการเข้าตรวจเลือกทหาร
ทางคณะกรรมการได้ส่งเรื่องดังกล่าวตามที่มี
ผู้ร้องเรียนให้หน่วยทหารในภูมิลำเนาของทั้งคู่
ดำเนินการตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร คาดว่าน่าจะทราบผลได้ในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ การดำเนินการทั้งหมดไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง
แต่ดำเนินตามหนังสือร้องเรียนเพื่อให้เกิดความถูกต้อง
และเป็นธรรมกับคู่กรณี และกองทัพ
อย่าวไรก็ตาม ต่อมา นายศิริโชค
กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวนายพลระดับสูงร้องต่อกระทรวงกลาโหมให้ตรวจสอบตน
กับนายกรณ์ กรณีหนีการเกณฑ์ทหาร ขอปฏิเสธว่าตนไม่เคยหนีการเกณฑ์ทหาร
โดยได้เกณฑ์ทหารที่เขตปทุมวัน ไม่ใช่ จ.สงขลา ตามที่ข่าวกล่าวอ้าง
เพราะตนเกิดที่กรุงเทพฯ รวมทั้งได้ทำหนังสือผ่อนผันจาก ก.พ.ได้รับใบ สด.43
เมื่อ 20 ปีที่แล้วอย่างถูกต้อง
แต่ตอนนี้รัฐบาลใช้วิชามารดิสเครดิตฝ่ายค้านให้เสียสมาธิในการทำหน้าที่
อภิปรายไม่ไว้วางใจ ถือว่าเป็นการคุกคามการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน
และกลั่นแกล้งโดยจ้องที่จะตรวจสอบพวกตน
ถ้ากระทรวงกลาโหมถูกตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบ สด.9 กับ สด.43
ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ เพราะควรดูแลงานภาคใต้และความมั่นคง
แต่ถ้าสนใจเรื่องนี้ ก็ควรตรวจสอบ ส.ส.ทั้งสภา
"ผม ตั้งข้อสังเกตว่ามีการปล่อยข่าวดักสองทาง ไม่เข้ารับการตรวจเลือก หรือถ้ามี สด.43 ก็จะอ้างว่าเป็นเท็จ ต่อไปนี้เวลาประชาชนรับเอกสารจากราชการต้องระมัดระวัง เพราะไม่มีความมั่นใจว่า จะเป็นเอกสารจริงหรือเท็จ แล้วโยนความผิดให้ประชาชน ผมยืนยันแม้พยายามขัดขวางการทำงานของฝ่ายค้าน แต่พวกผมจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่และพร้อมให้ตรวจสอบ" นายศิริโชคกล่าว
Source : มติชนออนไลน์
by
pakornr
14 พฤศจิกายน 2555 เวลา 21:36 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น