23 พ.ย. 55 - ราว 14.45 น. มีรายงานว่านักศึกษาจากกลุ่ม
"ไฟเขียวประเทศไทย" ถูกทำร้ายบริเวณสนามม้านางเลิ้งในขณะที่ทำกิจกรรมรณรงค์
"ไฟเขียวประเทศไทย"
ที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของกลุ่มพิทักษ์สยามและคัดค้านการ
"แช่แข็งประเทศไทย 5 ปี" โดยโฆษกของกลุ่ม "ไฟเขียวประเทศไทย" ระบุว่า
สมาชิกของกลุ่มถูกชกต่อยจากชายฉกรรจ์ราว 6-7 คน
ในขณะที่ทำกิจกรรมรณรงค์ติดสติ๊กเกอร์บริเวณสนามม้านางเลิ้ง
นายกุลภัทร ทวีกุล นศ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
โฆษกของกลุ่มไฟเขียวประเทศไทย
ซึ่งเป็นการรวมกันของนักศึกษาม.ธรรมศาสตร์ที่คัดค้านการชุมนุมขององค์การ
พิทักษ์สยาม นำโดยพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ "เสธ.อ้าย" กล่าวว่า
ในวันนี้ กลุ่มของตนมีแผนจะไปติดสติ๊กเกอร์รณรงค์ "ไฟเขียวประเทศไทย"
ที่บริเวณสนามม้านางเลิ้ง และยื่นแถลงการณ์ให้กับพล.อ.บุญเลิศ
แก้วประสิทธิ์ เพื่อคัดค้านการทำรัฐประหาร
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่กำลังติดป้ายรณรงค์อยู่นั้น
ได้มีชายไม่ทราบสังกัดที่มา ราว 6-7 คน
ได้ตะโกนขัดขวางการติดสติ๊กเกอร์ของกลุ่ม
และเข้ามารุมล้อมทำให้เกิดความชุลมุน ส่งผลให้มีนักศึกษา 1
คนจากกลุ่มดังกล่าวถูกต่อยหน้าและได้รับบาดเจ็บ นายกุลภัทรกล่าวว่า
กลุ่มคนที่เข้ามาทำร้ายน่าจะเป็นผู้ชุมนุมของกลุ่มพิทักษ์สยาม
เนื่องจากชายดังกล่าวได้วิ่งมาจากภายในของสนามม้านางเลิ้ง
ด้านสำนักข่าวไทยรายงาน
ว่า นายวศิน อุ่นกลอย ตัวแทนกลุ่มเยาวชนองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวว่า
ต้องขอโทษที่มีเหตุชุลมุนเกิดขึ้น ยอมรับว่าควบคุมไม่ได้
เนื่องจากกิจกรรมการติดสติ๊กเกอร์และผูกโบว์ที่กำแพงสนามม้า
ทำให้กลุ่มรักษาความปลอดภัยไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้
ยืนยันว่าทางกลุ่มพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย
และไม่ต้องการใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด
หลังจากเกิดเหตุการณ์ราว 2 ชั่วโมงถัดมา ทางกลุ่มไฟเขียวประเทศไทย
ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอที่โฆษกของกลุ่มชี้แจงว่า
จะไม่ดำเนินแจ้งความต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
และจะหยุดกิจกรรมทุกชนิดในระหว่างที่มีการชุมนุมของกลุ่มพิทักษ์สยาม
เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงต่อไปในอนาคต
การรณรงค์ของกลุ่ม 'ไฟเขียวประเทศไทย' ที่บริเวณสยามสแควร์ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การชุมนุมของกลุ่มพิทักษ์สยาม มีกำหนดจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้
(24 พ.ย. 55) บริเวณลานพระบรมพระรูปทรงม้า เพื่อเรียกร้องให้มีการ
"แช่แข็งประเทศไทย" และขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
โดยอ้างว่ามีสาเหตุจากการปล่อยให้มีการจาบจ้วงสถาบัน และการคอร์รัปชั่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น