แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ: คำชี้แจง (เพิ่มเติม) เรื่องร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯฉบับประชาชน (ในส่วนกระบวนการยกร่าง)

ที่มา ประชาไท


ผมขอชี้แจงเรื่องร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯฉบับประชาชน(เพิ่มเติม)เพราะมีการกล่าว และ/สันนิษฐานว่า คณะนิติราษฎร์และศูนย์ข้อมูลประชาชน (ศปช.) ได้เข้ามาช่วยยกร่างให้ ดังนี้
 
ผมในฐานะคนรวบรวมความคิดเห็นและขอคำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่พอจะรู้จัก และขอคำปรึกษาได้ได้นำร่างรัฐธรรมนูญของนิติราษฎร์และร่าง พรบ.ของวรชัยมารวมกันก่อนจะร่างขึ้นมาใหม่ โดยทำตารางเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของทั้งสองร่างซึ่งเป็นวิธีที่เคยทำเมื่อ ครั้งจะต้องยกร่าง กม.เกี่ยวกับเด็กสมัยทำงานพัฒนาด้านเด็กในอดีต
 
นอกจากนั้น แม่น้องเกดกับผม และพี่นิชา (หิรัญบูรณะ ธุวธรรม) เคยไปให้ความเห็นเรื่องร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ และร่างนิรโทษกรรมฯฉบับอื่นอื่นเมื่อปีที่แล้ว (๒๕๕๕) ต่อคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย หรือ คปก.ซึ่งตอนนั้นมีประมาณ ๕ ฉบับ รวมทั้งของพล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน พรรคมาตุภูมิและคุณณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ พรรคเพื่อไทยอยู่ด้วยซึ่งผมก็เอาเนื้อหาตรงนั้นมาใช้ด้วยเช่นกันซึ่งในการ ประชุมครั้งนั้นก็มีคุณวีรพัฒน์ปริยวงศ์ไปให้ความเห็นในฐานะผู้เชี่ยวชาญ กฎหมายด้วย
 
(ส่วนเพิ่มเติม) ตอนนั้นเรื่องร่างกฎหมายไม่ได้อยู่ในหัวของญาติคนไหนเลยเรายังหวังว่าจะมี ร่างที่ดีกว่านี้ออกมากันร่างเหล่านี้ไม่ให้มีผลบังคับใช้จนกระทั่งมีร่าง ของคุณวรชัย เหมะออกมาเมื่อต้นปีกลุ่มญาติฯก็แถลงข่าวสนับสนุนร่างนี้เช่นกันในการจัด เวทีญาติในวันครบรอบ ๓ ปีวันที ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา
 
แต่เมื่อกลุ่มญาติฯได้นำร่างของคุณวรชัยมาอ่านเราพบความคลุมเครือของ การไม่กล่าวถึงปฏิบัติการทางทหารซึ่งบางคนมองว่าการไม่กล่าวถึงน่าจะหมาย ความว่าปฏิบัติการทางทหารนั้นชอบธรรมอยู่แล้วซึ่งนักกฎหมายบางท่านให้ความ เห็นว่าน่าจะใช่
 
อย่างไรก็ตามคุณวรชัยได้ยอมรับแล้วว่าร่างของคุณวรชัยนั้นนิรโทษกรรมทหารทั้งหมดกรุณาอ่านที่นี่ ('วรชัย' ชี้ร่างพ.ร.บ.นิรโทษฯ ฉบับญาติวีรชนเดินหน้าลำบาก)
 
เมื่อเห็นว่าไม่สามารถพึ่งพานักการเมืองได้ทางญาติจึงจำเป็นต้องร่าง พ.ร.บ.นี้ขึ้นมาเองนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมกลุ่มญาติฯ เพิ่งมาร่างเอาป่านนี้ เพราะเราก็ไม่แน่ใจว่าเราจะทำได้หรือไม่และจะได้รับความช่วยเหลือจากใครบ้าง
 
สำหรับกระบวนการยกร่างนั้นกลุ่มญาติฯตั้งต้นจากนำการกระทำที่ควรนิรโทษ กับไม่สมควรนิรโทษมาเป็นตัวตั้งโดยไม่ได้ดูว่าควรนิรโทษใคร (นิรโทษกรรม = นิรโทษ + กรรม (หรือการกระทำ) แล้วเห็นร่วมกันในเบื้องต้นว่าควรจะนิรโทษการกระทำแบบไหน หลังจากนั้นผมใช้วิธี ctrlc + ctrl v จากทุกร่าง แล้วสกัดคำที่ญาติดูแล้วไม่เข้าใจหรือไม่พอใจ ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นออก (เราจะร่างให้เข้าใจง่ายมากกว่าร่างให้เป็นแบบที่นักกฎหมายร่าง) 
 
นอกจากนั้นผมยังได้ตั้งกิจกรรมเพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ ร่างของคุณวรชัยเหมะและคณะในเฟซบุ๊คของผมเองและได้ความคิดเห็นที่น่าสนใจและ ผมได้รวบรวมไว้เพื่อปิดช่องโหว่จากร่างของคุณวรชัยให้ครบถ้วนตามที่ญาติแสดง ความต้องการไว้และยังได้ขอความเห็นเพื่อนนักกิจกรรมต้านรัฐประหาร เพื่อนทนายสิทธิมนุษยชนอาจารย์ด้านสันติวิธี ฯลฯ ก่อนจะได้ร่างนี้มา
 
หลังจากนั้นจึงไปชี้แจงกับอาจารย์บางท่านในคณะนิติราษฎร์ว่าผมลอกคำใน ร่างฯมาใช้ตรงไหนบ้าง ซึ่งอาจารย์ท่านก็แนะนำว่าให้ระวังการใช้คำเพราะมันเป็นร่างที่คนละระดับของ การบังคับใช้ (รัฐธรรมนูญกับพระราชบัญญัติ) ในส่วนการลอกนั้นอาจารย์ท่านนั้นบอกว่าลอกหรือไม่ลอกก็ไม่เป็นไรเพราะคณะ นิติราษฎร์ร่างรัฐธรรมนูญชิ้นนั้นขึ้นมาเพราะเป็น “บริการวิชาการสาธารณะ” ใครนำไปใช้ก็ได้ แต่คณะนิติราษฎร์มีจุดยืนในร่างรัฐธรรมนูญอาจารย์ท่านนั้นจึงไม่สะดวกที่จะ เข้ามาช่วยแก้ไขความ หรือคำแต่ถ้าสอบถามความคิดเห็นในข้อกฎหมายอาจารย์คณะนิติราษฎร์ทุกท่านก็ ยินดีและพร้อมให้ความช่วยเหลือ ซึ่งผมตรวจสอบพบว่า "เนื้อความ" บางส่วนในร่างของคุณวรชัยก็นำมาจากร่างของนิติราษฎร์ด้วยเช่นกัน
 
ก่อนที่จะสรุปเป็นร่างสุดท้าย ผมได้ขอความเห็นจากเพื่อนที่ทำงานในศูนย์ข้อมูลประชาชน (ศปช.) บางคนว่าร่างนี้ได้นิรโทษกรรมครอบคลุมมวลชนเสื้อเหลืองและเสื้อแดงหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่บางท่านเป็นห่วงในส่วนการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน (ผมไม่ทราบรายละเอียด) ผมเลยอธิบายว่าถ้าแย่งปืนจากทหารระหว่างการชุมนุมหรือนอกการชุมนุมแต่มีผล เกี่ยวเนื่องมาจากเหตุการณ์ดังกล่าวร่างนี้ครอบคลุมให้นิรโทษแต่ถ้าเอาปืน ตัวเองหรือปืนใครเข้ามาในที่ชุมนุมญาติเห็นว่าไม่สมควรนิรโทษเว้นแต่ว่าการ กระทำนั้นเข้าข่ายลหุโทษ (โทษเบา) ซึ่งการพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยเฉพาะที่ชุมนุมของคนหมู่มากไม่น่าจะ ใช่ลหุโทษส่วนโดนเจ้าหน้าที่ยัดอาวุธปืนใส่มือ (ผมไม่ทราบว่ามีกรณีนี้หรือไม่) ก็จำเป็นต้องพิสูจน์ทราบต่อไป
 
อย่างไรก็ตาม เราเห็นร่วมกันว่าถ้าใครถูกจับด้วยข้อหาอะไรสิทธิขั้นพื้นฐานที่ต้องได้รับ คือสิทธิในการประกันตัวเพราะขนบกฎหมายบ้านเราใช้วิธีกล่าวหา ดังนั้นสิทธิในการประกันตัวต้องมาก่อน (ซึ่งในทางปฏิบัติเราจะทราบได้ว่าไม่จริงนี่เป็นบางส่วนของเหตุผลที่ว่าทำไม คณะนิติราษฎร์จึงร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ร่าง พรบ.)
 
(ส่วนเพิ่มเติม) ในส่วนที่มีมิตรสหายบางท่านแสดงความห่วงใยว่าพี่น้องที่เผาศาลากลางอาจจะไม่ได้รับการนิรโทษกรรมจากร่าง พ.ร.บ.นี้
 
 
ผมได้ชี้แจงว่าในร่างแรกแรกนั้นมีคำว่า
 
"การกระทำใดใดที่เป็นความผิดต่อทรัพย์สินอันเป็นสถานที่ราชการหรือ สัญลักษณ์ของอำนาจรัฐ เช่น การเผาทำลายศาลากลางจังหวัด สถานีตำรวจ ฯลฯให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง" บรรจุไว้ในมาตรา 3 (4) ก่อนจะกล่าวถึงการเอาผิดผู้เผาทำลายทรัพย์สินเอกชน
 
กรณีนี้ นักวิชาการทางกฎหมายท่านหนึ่งบอกผมว่าถ้าไม่นิรโทษคนเผาทรัพย์สินเอกชนแล้ว ข้อความในวรรคนี้ไม่ต้องมีก็ได้ ให้เลือกเอาว่าจะตัดวรรคไหนออก ผมเลยเลือกตัดวรรคนี้ออกเพราะมัวนึกถึงเจตนารมณ์ของญาติที่ต้องการเอาผิดคน เผาห้าง ฯลฯ
 
แต่หลายท่านก็ยังบอกว่าในขั้นแปรญัตติค่อยเพิ่มเข้าไปใหม่ก็ได้ อย่างไรก็ดีในมาตรา 4 เขียนถึงการเอาผิด และการนิรโทษ ซึ่งอ่านแล้วมันลักลั่นกันซึ่งกลุ่มญาติขอขอบคุณ คุณ John Nonlen สำหรับคำชี้แนะนี้เพราะอย่างที่คุณจอนว่ามันอาจกลายเป็นช่องโหว่ให้คนตีความ ในทางที่เป็นโทษได้ (แต่นักวิชาการ และ/หรือ นักกฎหมายทุกท่านยืนยันว่าค่อนข้างยากยกเว้นจะมีการแก้ไขคำในขึ้นแปรญัตติ ชนิดผิดความไปเลย)
 
ในส่วนที่บางท่านวิจารณ์ว่า ร่างนี้เข้าข่ายที่นักโทษมาตรา ๑๑๒ อาจจะได้รับการนิรโทษกรรมนั้น ผมเองก็เพิ่งทราบว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชนมีบางเนื้อความเข้าข่ายมาตรา๑๑๒ ซึ่งขอเรียนให้ทราบว่าไม่ใช่เจตนาของคนร่างหรือนักวิชาการนักกฎหมายที่มา ช่วยกันร่างแต่อย่างใดครับแต่ในการร่างมีการแก้คำกันไปมาจากนักวิชาการหลาย ท่าน ตอน finalize เลยไม่ทราบว่าไปตกเข้าข่ายตอนไหนถ้าผิดพลาดอย่างไรน่าจะเกิดจากตัวผมเอง
 
อย่างไรก็ตามในขั้นตอนการแปรญัตติในวาระ ๒ ถ้าหลายท่านไม่สบายใจก็สามารถแก้ไขความหรือคำได้อยู่แล้วผมเห็นว่าอย่าหา เหตุแค่คำสองสามคำมาเป็นข้ออ้างในการไม่รับรองร่างหรือรับร่างนี้แล้วใช้ เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้ามเลยครับ
 
เพราะตอนร่างนั้นญาติได้โฟกัสไปที่ "บุคคลที่ไม่ได้อยู่ร่วมชุมนุม" เพราะมีนักโทษการเมือง และผู้มีหมายจับหลายท่านถูกจับที่บ้านและยัดข้อหาจากเจ้าพนักงาน
 
ส่วนข้อความก่อนหน้าของมาตรา ๓ (๓) เราไม่ทราบเลยว่าเข้าข่ายมาตรา ๑๑๒
 
อ่านคำวิจารณ์ของคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรมและคุณบุญระดม จิตรดอน ที่นี่ (คำต่อคำ!!! "สนธิญาณ" ชี้ร่างนิรโทษฉบับ ปชช.หมกเม็ดหวังช่วยคนผิด ม.112-เตือน ปชป.อย่าผลีผลามหนุน)
 
สรุปว่ากระบวนการร่าง พ.ร.บ.ฯ นี้ จึงมาจากที่ชี้แจงข้างต้นโดยลอกคำในร่างรัฐธรรมนูญบางส่วนของคณะนิติราษฎร์ มาใช้ ควบรวมกับร่างอื่นอื่นโดยเฉพาะร่างคุณวรชัยและคณะ และขอข้อมูลเรื่องคดีและนักโทษการเมืองจากเพื่อนเพื่อนศปช.ให้เขาช่วยดูว่า ครอบคลุมนักโทษการเมืองทุกคนหรือไม่เพราะกลุ่มญาติฯคำนึงถึงนักโทษการเมือง มาเป็นอันดับแรกไม่ใช่พวกเราเองอย่างที่บางท่านได้ชิงวิจารณ์ก่อนจะเห็น “ตัวบท” ทั้งหมด
 
ร่างนี้แม้กลุ่มญาติจะช่วยกันยกร่างขึ้นแต่เราใช้ชื่อว่าร่างฉบับ ประชาชน เพราะเราเชื่อว่าถ้าประชาชนทุกสีทุกฝ่ายได้อ่านน่าจะพอใจและ “พอรับได้” มากกว่าทุกร่างที่นักการเมืองได้นำเสนอมาและมีแต่พี่น้องประชาชนเท่านั้นที่ จะช่วยกดดันให้ร่างนี้เป็นร่างหลักและผ่านรัฐสภาโดยเร็วเพื่อการบังคับใช้ เพื่อให้นักโทษการเมืองทั้งเสื้อเหลืองและเสื้อแดงได้ออกมาจากเรือนจำในส่วน ที่ไม่สามารถเปิดรับฟังความคิดเห็นให้นานและทั่วถึงมากกว่านี้ทางกลุ่มญาติฯ ต้องขออภัยเพราะเกรงว่าจะปรับแก้ไม่ทันสภาผู้แทนราษฎรเปิดในต้นเดือนสิงหาคม ที่จะถึงนี้
 
สำหรับความลักลั่น ซ้ำซ้อนและประดักประเดิด ของภาษาที่ใช้ในร่างนี้นั้นผมคงต้องกล่าวโทษสาขาวิชาสันทนาการ คณะพลศึกษาที่ผมเรียนจบมาเพราะไม่มีวิชานิติศาสตร์ในการเรียนการสอนตามหลัก สูตรนี้แต่อย่างใด จะเรียกว่าจบพละแล้วริมาร่างข้อเสนอกฎหมายคงไม่ผิดนะครับ
 
จึงเรียนชี้แจงมาเพื่อทราบ และขอบคุณทุกท่านที่สนใจมา ณ โอกาสนี้
 
ขอแสดงความนับถือ,
พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ 
ตัวแทนกลุ่มญาติฯ
 
หมายเหตุ:
 
๑. เราเพิ่งทราบจากคนในฝั่งมวลชนพันธมิตรที่ให้ข้อมูลกับเราและได้อ่านร่างนี้แล้วว่ายังมีมวลชนพันธมิตรถูกคุมขังอยู่
๒. ผมได้รับฉันทามติจากลุ่มญาติฯให้ชี้แจงในส่วนเนื้อหาของร่างนี้ส่วนความคิดเห็นท่านสามารถสอบถามญาติฯทุกท่านที่เข้าร่วมประชุมได้
๓. กรณีการเผาห้างนั้น ศาลได้ยกฟ้องคนเสื้อแดงไปแล้วจึงต้องพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป
 
 
 
เผยแพร่ครั้งแรกในเฟซบุ๊กส่วนตัวของ พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ โดยทางกองบรรณาธิการได้รับอนุญาตจากคุณพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพเพื่อนำมาเผยแพร่ต่อในหน้าเว็บประชาไท 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น