ไม่น่าเชื่อว่าโลกเราทุกวันนี้จะมีผู้ไม่มีศาสนา(irreligious
persons)เป็นจำนวนมากเป็นอันดับสามของโลกรองจากศาสนาหลักๆคือศาสนาคริสต์และ
อิสลาม หลักฐานที่ว่านี้มาจากผลการวิจัยของ “พิว” (The Pew Forum on
Religion & Public Life)ในหัวข้อ
“ภูมิทัศน์ในการนับถือศาสนาของคนทั่วโลก”ที่รวบรวมจากสถิติเมื่อปี 2553
รายงานวิจัย ระบุว่า ประชากรโลกว่า ร้อยละ 84 หรือประมาณ 6.9 ล้านคน
ระบุว่าตนเองเป็นผู้นับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่ง
สำหรับศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดคือศาสนาคริสต์
โดยมีประชากรผู้นับถือกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของโลก สำหรับ 7 อันดับ
กลุ่มศาสนาความเชื่อที่มีผู้นับถืออยู่ในปัจจุบัน ได้แก่
อันดับ 1 ศาสนาคริสต์ มีผู้นับถืออยู่ทั่วโลกสูงถึง
2.2 พันล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 31.5 ของประชากรโลก
แบ่งเป็นศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกประมาณร้อยละ 50 นิกายโปรแตสแตนท์
นิกายแองกลิคัน และนิกายกรีกออร์โธดอกซ์ รวมกันร้อยละ 37
อันดับ 2 ศาสนาอิสลาม
สำหรับประชากรชาวมุสลิมทั่วโลกขณะนี้มีอยู่ประมาณ 1.6 พันล้านคน
หรือคิดเป็นร้อยละ 23 ของประชากรโลก
ซึ่งคิดเป็นศาสนาอิสลามนิกายซุนนีย์ถึงร้อยละ 87 ถึง 90 ส่วนมุสลิมชีอะฮ์
คิดเป็นร้อยละ 10 ถึง 13
อันดับ 3 สำหรับผู้ที่ระบุว่าไม่มีศาสนา หมายถึง
ผู้ที่แสดงตนว่าไม่ได้นับถือศาสนาใด ๆ เลย เช่น ผู้ที่ปฏิเสธการมีพระเจ้า
หรือไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีอยู่จริง
หรือผู้ที่มีศรัทธาในจิตวิญญาณซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับศาสนาใด มีจำนวน 1.1
พันล้านคนทั่วโลก
อันดับ 4 ศาสนาฮินดู
เป็นศาสนาที่มีจำนวนผู้นับถือกระจุกอยู่เพียงในอินเดียมากที่สุดในโลกถึง
ร้อยละ 94 ผู้คนที่นับถือศาสนาฮินดูมีอยู่มากในประเทศอินเดีย เนปาล
และบังคลาเทศ
อันดับ 5 ศาสนาพุทธ
ครึ่งหนึ่งพุทธศาสนิกชนทั่วโลกอาศัยอยู่ในประเทศจีน รองลงมาคือประเทศไทย
ร้อยละ 13.2 และอันดับ 3 คือที่ญี่ปุ่น ร้อยละ 9.4%
อันดับ 6 กลุ่มศาสนาเล็ก ๆ เช่น บาไฮ ลัทธิเต๋า
เจนไน ชินโต ซิกข์ เทนริเคียว วิคคา และโซโรอัสเตอร์
มีผู้นับถือรวมกันประมาณเกือบร้อยละ 1 หรือ 58 ล้านคนทั่วโลก
ส่วนมากอยู่ในภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิค
อันดับ 7 กลุ่มผู้ที่นับถือธรรมชาติ
กราบไหว้ภูติผีและเทพเจ้าอื่น ๆ ตามความเชื่อของบรรพบุรุษ มีประมาณ 405
ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 6 ของประชากรทั้งโลก โดยส่วนใหญ่พบในทวีปแอฟริกา
ประเทศจีน หรือชาวอินเดียนแดง และอะบอริจิ้น
อันดับ 8 ศาสนายิว
มีผู้นับถือศาสนานี้ในประเทศอิสราเอล โดยคิดเป็นร้อยละ 40.5
ของชาวยิวทั่วโลก ส่วนชาวยิวในประเทศสหรัฐฯ มีอยู่ถึงร้อยละ 41.1
(ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1356778841&grpid=03&catid=03)
(ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1356778841&grpid=03&catid=03)
ตามตัวเลขที่สำรวจโดยบริษัทวิน-แกลลัป อินเตอร์เนชันแนล
ประเทศที่มีสัดส่วนประชาชนที่ไม่นับถือศาสนาสูงที่สุดในโลก ได้แก่ จีน
ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเช็ก ฝรั่งเศส และเกาหลีใต้
จีนมีประชากรที่ไม่นับถือศาสนาถึง 47 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ญี่ปุ่นมี 31
เปอร์เซ็นต์ และฝรั่งเศสมี 29 เปอร์เซ็นต์
ส่วนประเทศที่คนเคร่งศาสนามากที่สุด ได้แก่ กานา ไนจีเรีย อาร์เมเนีย
ฟิจิ และมาซิโดเนีย กานามีผู้เคร่งศาสนาถึง 96 เปอร์เซ็นต์ นับถือศาสนา
แต่ไม่เคร่ง 2 เปอร์เซ็นต์ และไม่นับถือศาสนาเลย 0 เปอร์เซ็นต์
เมื่อมาดูว่าคนที่ไม่นับถือศาสนาเป็นใคร ปรากฏว่า
คนไม่นับถือศาสนาใดเป็นผู้ชาย 69 เปอร์เซ็นต์ และเป็นผู้หญิง 29
เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 2 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือนั้นไม่ต้องการระบุ
ผลการศึกษายังพบความสัมพันธ์ระหว่างรายได้กับการไม่มีศาสนา
ด้วย คนรายได้สูงนั้นมีแนวโน้มที่จะไม่นับถือศาสนามากกว่าคนรายได้ต่ำ
และคนที่การศึกษายิ่งสูงก็ยิ่งแนวโน้มมากที่จะไม่นับถือศาสนา
ในจำนวนประชากรอเมริกัน มีประมาณ 49 เปอร์เซ็นต์ที่จบปริญญาตรี
แต่คนอเมริกันที่ไม่นับถือศาสนานั้นมีกว่า 72 เปอร์เซ็นต์ที่จบปริญญาตรี
งานวิจัยโดย พิปปา นอร์ริส และ รอนอลด์ อิงเกิลฮาร์ท เปิดเผยว่า
ยิ่งสังคมมีระบบสาธารณสุขดี มีระบบกระจายอาหารดี ที่อยู่อาศัยเพียงพอ
ความยากจนต่ำ และมีความเท่าเทียมกันสูง
คนในสังคมนั้นก็ยิ่งมีแนวโน้มสูงที่จะไม่นับถือศาสนา ในทางตรงกันข้าม
สังคมที่ชีวิตคนไม่แน่นอน ความกินอยู่แร้นแค้น
และมีความเสี่ยงจะเสียชีวิตสูง คนก็มักจะยิ่งเคร่งศาสนา
หลายคนอาจคิดว่าคนที่ไม่นับถือศาสนานั้น
อาจไม่นับถือเพราะเขาไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับศาสนามามากพอ แต่ศูนย์วิจัย พิว
ทดลองให้กลุ่มตัวอย่างจากแต่ละศาสนา ลองตอบคำถามเกี่ยวกับศาสนาแต่ละศาสนาดู
ปรากฏว่าผู้ที่ไม่นับถือศาสนาได้คะแนนสูงกว่าคนที่นับถือศาสนาทุกศาสนา
แม้ว่าคนไม่มีศาสนาจะยังเป็นคนส่วนน้อยในโลก แต่ก็กำลังมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ใน
ระยะ 7 ปีที่ผ่านมา ผลสำรวจพบว่า มีผู้ไม่นับถือศาสนาเพิ่มขึ้นทั่วโลก 9
เปอร์เซ็นต์ โดยในบางประเทศเช่น ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์
และเวียดนาม ผู้ที่เคยนับถือศาสนากว่า 20
เปอร์เซ็นต์เปลี่ยนใจเป็นไม่นับถือศาสนา(ที่มา http://news.voicetv.co.th/global/74966.html)
จากข้อมูลที่ยกมาข้างต้นที่ยังไม่รวมผู้ที่ระบุว่านับถือศาสนาเฉพาะ
เพียงปรากฏในทะเบียนบ้านเท่านั้นแต่แทบจะไม่ได้ปฏิบัติศาสนกิจตามที่ระบุเลย
แสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ที่ไม่นับถือศาสนานั้นมีจำนวนมาก
และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่
ไม่ว่าจะเป็นความเบื่อหน่ายในศาสนาที่มีอยู่หรืออาจจะเล็งเห็นว่านับถือไปก็
เท่านั้น
หรือบางครั้งก็อาจเห็นว่าการนับถือศาสนากลับกลายเป็นการเพิ่มข้อผูกมัด
ให้แก่ชีวิตของตนเองมากขึ้น
เพราะอันเนื่องมาจากเหตุของข้อบังคับในศาสนานั่นเอง
แทนที่ศาสนาจะช่วยให้มีอิสรภาพ
ก็กลับเป็นว่าศาสนากลายเป็นสิ่งครอบงำหรือผูกมัดให้ผู้นับถือสูญเสียอิสรภาพ
ในการคิด การพูด และการกระทำที่แม้ว่าจะถูกต้องตามหลักสากลก็ตาม
ซึ่งเหตุผลต่างๆเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล
ทั้งสิ้นที่จะเลือกนับถือหรือไม่นับถือศาสนาใดใด
โดยไม่ต้องมารบราฆ่าฟันด้วยเหตุแห่งความเชื่อทางศาสนาที่ต่างกันจนเป็นเหตุ
โศกนาฏกรรมจนเกิดประวัติศาสตร์บาดแผลแก่มวลมนุษยชาติที่ต้องล้มตายลงอย่าง
น่าอนาถ
หมายเหตุ เผยแพร่ครั้งแรกในกรุงเทพธุรกิจ 24 กรกฎาคม 2556
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น