จดหมายเปิดผนึกถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในสถานการณ์ความรุนแรง
ในการชุมนุมเรียกร้องให้มีการ ประกันราคายางพารา
เรื่อง กรณีกลุ่มบุคคล ได้เผาและทำลายรถนักข่าว ที่ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ในการชุมนุมเรียกร้องให้มีการ ประกันราคายางพารา
เรื่อง กรณีกลุ่มบุคคล ได้เผาและทำลายรถนักข่าว ที่ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จากกรณี เมื่อเวลา 01.30น. ของวันนี้
(วันที่ 6 กันยายน 2556)
เกิดเหตุการณ์ที่มีกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่ายก่อเหตุใช้ระเบิดเพลิงปาใส่รถนัก
ข่าวท้องถิ่นของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์
รวมทั้งมีการทุบตีรถนักข่าวท้องถิ่นของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
ที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวสถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องแก้ไขราคายาง
ตกต่ำของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง ที่ บ้านธรรมรัตน์ อ.บางสะพาน
จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 5 กันยายน 2556
จนได้รับความเสียหาย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
เห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้กระทำก็ตาม
เป็นการกระทำที่อุกอาจ ใช้ความรุนแรงเป็นการข่มขู่
คุกคามสิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนโดยรวมอย่างไม่เกรงกลัว
ต่อกฎหมาย มุ่งข่มขู่คุกคามโดยตรงต่อทีมข่าวช่อง 3 ,หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
และทีมข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวในพื้นที่บ้านธรรมรัตน์ อ.บางสะพาน
จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อนำข้อมูล ข้อเท็จจริงและความจริงเสนอต่อสาธารณชน
ดังนั้นสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์
แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
ขอให้กำลังใจกับเพื่อนสื่อมวลชนที่ได้ถูกกระทำและรถยนต์เสียหายจากเหตุการณ์
ความรุนแรงครั้งนี้และมีข้อเรียกต่อทุกฝ่ายดังต่อไปนี้
1.
เหตุการณ์ดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความสูญเสียแก่ทุกฝ่ายทั้งประชาชนที่มาร่วม
ชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชน
สมาคมทั้งสองขอเรียกร้องให้แต่ละฝ่ายใช้สิทธิตามกรอบของกฎหมาย
เคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน
มีความอดทนไม่ใช้ความรุนแรงและควรแก้ปัญหาด้วยการเจรจาตามแนวทางสันติวิธี
2.เพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังมีข้อมูลและข้อเท็จจริงที่หลากหลายจาก
ฝ่ายๆ ต่าง
สมาคมทั้งสองขอเรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางและเป็นอิสระขึ้น
มาสอบสวนข้อเท็จจริงโดยเฉพาะคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต้องทำหน้าที่
นี้
3.ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายตระหนักว่า
สื่อมวลชน ผู้สื่อข่าว ช่างภาพ
ทำหน้าที่รายงานข่าวและข้อเท็จจริงตามหน้าที่ของตนไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับ
ใคร เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรตกเป็นเป้าหมายของการข่มขู่
คุกคามและแทรกแซงไม่ว่าจากฝ่ายใด
ซึ่งหากสื่อถูกข่มขู่และคุกคามจนไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างอิสระ
จะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ไม่สามารถรับรู้ข่าวสารข้อมูลและข้อเท็จจริงได้
อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
4.ขอให้สื่อมวลชนทุกแขนง
ทำหน้าที่รายงานข่าวอย่างตรงไปตรงมา สมดุลเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ระมัดระวังการรายงานที่อาจสร้างความโกรธแค้นชิงชังมากขึ้นและพึงตระหนักว่า
การลงไปทำข่าวในสถานการณ์ความขัดแย้งซึ่งข่าวที่นำเสนออาจทำให้บางฝ่ายไม่พอ
ใจการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนและเกิดความรุนแรงเกิดขึ้นได้
5.หากผู้ใดที่ได้รับผลกระทบจากการทำ
หน้าที่ของสื่อมวลชน กรณีเห็นว่าสื่อมวลชนใช้สิทธิเสรีภาพเกินขอบเขต
สามารถฟ้องร้องได้ตามกฎหมายหรือใช้กลไกควบคุมจริยธรรมขององค์กรวิชาชีพสื่อ
ผ่านสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ หรือสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรงคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่ง
ประเทศไทย และ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
ขอให้สื่อมวลชนทุกแขนงทำหน้าที่นำเสนอข่าวสารโดยยึดมั่นในกรอบจริยธรรมแห่ง
วิชาชีพ ด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง รอบด้าน
ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซื่อสัตย์ในวิชาชีพ
เพื่อประโยชน์และสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน
6 กันยายน 2556
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
แหม ข่าวก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในม็อบ (ทำให้เห็นว่าในม็อบมีทั้งชาวสวนจริงและพวกเจตนามากวนเมือง) เป็นหน้าที่ของตำรวจไปตามจับคนผิดมาดำเนินคดี ทำไมต้องมีกรรมการอิสระให้ยุ่งยาก
๑. ขอ ประณามการข่มขู่คุกคามผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนและสำนักงานสื่อมวลชนทุก แขนงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการกระทำของกลุ่มแนวร่วม นปช.ที่นอกจากจะสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและสร้างความหวาดกลัวแก่ผู้ ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนแล้ว ยังเป็นการลิดรอนเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนอีกด้วย และขอเรียกร้องให้กลุ่มแนวร่วม นปช.ยุติการข่มขู่คุกคามสื่อมวลชนโดยทันที
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
อ่านตอนแรกก็เข้าที แต่อ่านอีกที เอ๊ะ ขำๆ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นักข่าว ช่างภาพ ก็อยู่ตรงนั้น
ก็เห็นอยู่่ว่าใครเผารถ ทำไมต้องเรียกร้องให้ตั้งกรรมการอิสระ
(เจาะจงกรรมการสิทธิฯ) มาตรวจสอบ
"ผู้สื่อข่าวรายงานจากม็อบสวนยางปิดถนนว่า มีกลุ่มวัยรุ่นเผา
ทำลายรถผู้สื่อข่าว อันที่จริงผู้สื่อข่าวก็เห็นหน้าเห็นตาว่าเป็นใคร
แต่ไม่สามารถรายงานข่าวได้ ต้องบอกว่าบุคคลไม่ทราบฝ่าย
ต้องรอให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบก่อน ขออภัยท่านผู้ชมมา ณ ที่นี้"
แหม ข่าวก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในม็อบ (ทำให้เห็นว่าในม็อบมีทั้งชาวสวนจริงและพวกเจตนามากวนเมือง) เป็นหน้าที่ของตำรวจไปตามจับคนผิดมาดำเนินคดี ทำไมต้องมีกรรมการอิสระให้ยุ่งยาก
แถลงการณ์ร่วมองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน เรื่อง การคุกคามสื่อมวลชนในเหตุจลาจล
๑. ขอ ประณามการข่มขู่คุกคามผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนและสำนักงานสื่อมวลชนทุก แขนงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการกระทำของกลุ่มแนวร่วม นปช.ที่นอกจากจะสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและสร้างความหวาดกลัวแก่ผู้ ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนแล้ว ยังเป็นการลิดรอนเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนอีกด้วย และขอเรียกร้องให้กลุ่มแนวร่วม นปช.ยุติการข่มขู่คุกคามสื่อมวลชนโดยทันที
๒. ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย
ของบ้านเมือง ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับสื่อมวลชนอย่างเต็มที่
โดยไม่ปล่อยให้สื่อมวลชนตกเป็นเป้าหมายในการข่มขู่คุกคาม
ไม่ว่าจะเป็นผู้สื่อข่าว ช่างภาพหรือสำนักงานของสื่อมวลชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น