2 กรกฎาคม 2556
โดย ประเวศ ประภานุกูล
วันนี้ผมไปเยี่ยมคุณดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือดา ตอร์ปิโด
จาก ที่เห็น ก็อย่างที่คุณหมอเหวงบอก คือเธอดูสดใสขึ้น ดูไม่ออกว่ามีอาการเจ็บป่วย แต่ก็อ่ะนะ...วันนี้ผมไม่ได้ถามอาการเธอ และถ้าไม่ถามเธอก็ไม่เคยบอก ถึงเธอจะดูดีขึ้น แต่การที่ไม่ได้รักษา(ต้องผ่าตัด) อาการเจ็บป่วยคงยังมีอยู่แน่นอน
เรื่อง ที่เธออยากพบผมก็คือเรื่อง การยื่นฎีกา โดยเธอได้ยื่นคำร้องจากในคุกผ่านโต๊ะคดี(ตามที่เธอเรียก) ขอขยายเวลาฎีกาไปถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2556 (ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันที่ 12 มิถุนายน 2556...ครบกำหนดยื่นฎีกาภายในวันที่ 12 กรกฎาคม 2556) โดยเหตุผลที่เธออ้างในการขอขยายเวลาฎีกาคือ ทนายความยังไม่ได้ไปพบเธอ
เรื่อง นี้ผมเคยยื่นคำร้องต่อศาลอาญาแล้ว ขอให้ส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แจ้งทนายจำเลยด้วย แต่ศาลอาญาก็ไม่สนใจ เบิกตัวดาไปฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยไม่ได้ส่งหมายแจ้งทนายจำเลยแต่อย่างใด ตรงนี้ถ้าหากศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องปล่อยตัวดาไปก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำคุกดา 15 ปีตามศาลชั้นต้น(ศาลอาญา) การไม่แจ้งทนายจำเลยทราบ ทนายจำเลยย่อมไม่ทราบการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
สัปดาห์ นี้ผมยังไม่มีเวลาไปถ่ายสำเนาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ สัปดาห์หน้าก็ต้องไปอุบล กลับมาอีกทีก็สิ้นเดือน คงต้องรอต้นเดือนหน้าค่อยว่ากัน
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่อยากพูดในวันนี้
การคุยกับดาวันนี้หนักไปทางการเมืองและเรื่องอื่นๆมากกว่าคดี
ประกอบกับผมไปถึงใกล้เที่ยง (ราว 11.30 น.) จึงมีเวลาคุยน้อย ที่จำได้คือ
หลังจากเยี่ยมดา ทีแรกก็ว่าจะกลับ แต่แล้วก็นึกได้ว่าไม่ได้มาพบคุณสมยศนานแล้ว ก็เลยวนรถกลับไป
พอ ถึงห้องพบทนายของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ปรากฏว่าแอร์เสีย แล้วการก่อสร้างของห้องนี้ ถ้าไม่มีแอร์ก็ดีกว่าเตาอบไม่มาก ทั้งร้อนและอับ สงสารก็แต่เจ้าหน้าที่ประจำห้องที่ต้องทนอยู่ทั้งวัน สัปดาห์ละ 5 วัน
พอยื่นเอกสารขอพบ เจ้าหน้าที่ทักว่า "คนเดียวหรือ" ได้ยินทีแรกผมก็ไม่คิดอะไร เขาคงถามไปตามปกติ แต่ที่เซอร์ไพร้ส์เล็กๆคือ เขาจำได้ว่าคุณสมยศอยู่แดน 1 พอเอาเอกสารไปให้หัวหนาเขาเซ็นต์ก็ทักเหมือนกันอีก แต่คราวนี้เขาเรียกคุณสมยศว่าอาจารย์ "อาจารย์สมยศคนเดียวหรือครับ" อันนี้แปลกใจจริงแล้ว...อาจารย์สมยศ ได้ยินแล้วก็เลยนึกถึงคุณสุรชัย(เพราะคนเสื้อแดงต่างก็เรียก อ.สุรชัย) เขาก็ให้กรอกเพิ่มได้ โดยบอกว่า อยู่แดน 1 เหมือนกัน....รู้ว่าอยู่แดนไหนอีกด้วย!!
เป็นอันว่าได้คุยกับคุณสุรชัยและคุณสมยศพร้อมกัน
เท่าที่เห็น ทั้งคุณสุรชัยและคุณสมยศต่างก็สบายดี ไม่เห็นวี่แววความเจ็บป่วย แต่ผมก็ไม่ได้ถามด้วย
แต่ถ้าพรุ่งนี้ไม่ได้พระราชทานอภัยโทษ ก็คงเป็นวันที่ 12 สิงหาคมนี้
แกก็เลยอยากให้ผมพูดกับดาให้เปลี่ยนมาขอพระราชทานอภัยโทษแทนการยื่นฎีกา
แต่ผมคุยกับดามาก่อนแล้ว ก็เลยไม่ได้รับปากดาฝากแสดงความยินดีกับคุณประชา ที่ได้เป็นรัฐมนตรีต่อ และฝากบอกว่า เธอรอคอยการไปเยี่ยมของคุณประชา 3 ปีแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครช่วยส่งข่าวไปถึง พณฯท่าน หรือเปล่า ลำพังเสียงของผมคงไม่ดังพอนอกจากนี้ บรรดาแกนนำ นปช. ก็ไม่เคยไปเยี่ยมดาเลย ไม่ว่าจะเป็นคุณณัฐวุฒิ หรือคุณจตุพร คงมีเพียง อ.ธิดา เคยไปเยี่ยมเธอ 1 ครั้ง และคุณหมอเหวงไปเยี่ยม 2 ครั้ง ครั้งหลังก็อย่างที่คุณหมอเหวงเคยโพสต์บอกไปแล้ว แต่ละครั้งที่ไปเยี่ยมเธอ คุณหมอเหวงได้ฝากเงินให้เธอ 2,000 บาท
สิ่งที่เธออยากได้จากรัฐบาลนี้ คือ เธออยากย้ายไปอยู่เรือนจำหลักสี่ แต่เธอกลับฝากถึง อ.หวาน ให้ช่วยเธอในเรื่องนี้ส่วนเรื่องการนิรโทษกรรม มันคงไม่มีหวังจากรัฐบาลนี้อยู่แล้ว(อันนี้ผมพูดเองครับ...ส่วนเธอก็เริ่ม รู้เช่นเห็นชาตินักเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยแล้ว)
หลังจากเยี่ยมดา ทีแรกก็ว่าจะกลับ แต่แล้วก็นึกได้ว่าไม่ได้มาพบคุณสมยศนานแล้ว ก็เลยวนรถกลับไป
พอ ถึงห้องพบทนายของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ปรากฏว่าแอร์เสีย แล้วการก่อสร้างของห้องนี้ ถ้าไม่มีแอร์ก็ดีกว่าเตาอบไม่มาก ทั้งร้อนและอับ สงสารก็แต่เจ้าหน้าที่ประจำห้องที่ต้องทนอยู่ทั้งวัน สัปดาห์ละ 5 วัน
พอยื่นเอกสารขอพบ เจ้าหน้าที่ทักว่า "คนเดียวหรือ" ได้ยินทีแรกผมก็ไม่คิดอะไร เขาคงถามไปตามปกติ แต่ที่เซอร์ไพร้ส์เล็กๆคือ เขาจำได้ว่าคุณสมยศอยู่แดน 1 พอเอาเอกสารไปให้หัวหนาเขาเซ็นต์ก็ทักเหมือนกันอีก แต่คราวนี้เขาเรียกคุณสมยศว่าอาจารย์ "อาจารย์สมยศคนเดียวหรือครับ" อันนี้แปลกใจจริงแล้ว...อาจารย์สมยศ ได้ยินแล้วก็เลยนึกถึงคุณสุรชัย(เพราะคนเสื้อแดงต่างก็เรียก อ.สุรชัย) เขาก็ให้กรอกเพิ่มได้ โดยบอกว่า อยู่แดน 1 เหมือนกัน....รู้ว่าอยู่แดนไหนอีกด้วย!!
เป็นอันว่าได้คุยกับคุณสุรชัยและคุณสมยศพร้อมกัน
เท่าที่เห็น ทั้งคุณสุรชัยและคุณสมยศต่างก็สบายดี ไม่เห็นวี่แววความเจ็บป่วย แต่ผมก็ไม่ได้ถามด้วย
คุณสุรชัยยังเชื่อว่าจะได้รับพระราช ทานอภัยโทษ โดยแกเชื่อว่าเป็นสัญญาณจากสำนักราชเลขาธิการ ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นอกจากนี้แกยังได้ข่าวจากสถานทูตเกาหลีว่า พรุ่งนี้จะมีการพระราชทานอภัยโทษลงมา แต่ยังไม่แน่ว่าเป็นคนเกาหลี หรือตัวแกเองกับคุณหนุ่มเมืองนนท์
สรุปก็คือ คุณสุรชัยอาจได้ออกจากคุกพรุ่งนี้ หรือไม่ก็วันที่ 12 สิงหาคมนี้
สักพักหนึ่งคุณสุรชัยขอตัวเข้าไปก่อน เลยคุยกับคุณสมยศตามลำพัง
คุณ สมยศไม่ได้เชื่อตามที่คุณสุรชัยเชื่อ แต่เรื่องนี้ก็คงต้องคอยดูกันต่อไปว่าคุณสุรชัยจะได้รับพระราชทานอภัยโทษตาม ที่แกยื่นเรื่องขอไปหรือเปล่า แต่อย่างน้อย หนังสือขอพระราชทานอภัยโทษของคุณสุรชัย และคุณหนุ่มเมืองนนท์ ก็ไปถึงสำนักราชเลขาธิการแล้ว
ตอนอยู่ลำพัง ผมได้ถามถึงสุขภาพ คุณสมยศก็บอกว่าสบายดี ถามถึงอาหารการกิน แกบอกว่าต้องสั่งมากิน กินของเรือนจำไม่ได้ ตอนแรกที่เข้าไปก็กินอาหารเรือนจำถึงได้เป็นเก๊า
อืม...ที่ได้ข่าวว่าคุณสมยศป่วยเป็นเก๊า เป็นเพราะอาหารของเรือนจำหรือนี่
ด้านสุขภาพตอนนี้คงไม่มีปัญหาอะไรทั้งคู่ คุณสุรชัยก็บอกว่าเขาดูแลดี ได้รับการรักษาตลอด อย่างน้อยนี่ก็เป็นข่าวดีในระดับหนึ่ง
ถึงแม้ตัวคุณสมยศจะอยู่ในคุก แต่แกก็เอาแต่พูดถึงขบวนการต่อสู้ แกอยากให้มีกองทุนในการเคลื่อนไหว เพราะมีหลายกลุ่มที่ติดขัดเรื่องเงินทุนจนไม่สามารถเคลื่อนไหวอะไรได้...ว่า ที่จริงแกอยากให้แบ่งเงินที่ส่งเข้าไปช่วยเหลือแกมาจัดตั้งกองทุน แต่ผมคงช่วยเหลืออะไรไม่ได้เพราะทันทีที่มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องก็จะถูดโจม ตีทันที...ซึ่งแกก็มีสีหน้าแสดงความเข้าใจ
คุณสมยศเข้าใจดีถึงการตัดสินใจของคุณสุรชัย แต่แกยืนยันถึงการต่อสู้ต่อไป...การต่อสู้คดี โดยได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว และได้พูดว่า "อยู่ในคุกมี 3 อย่าง เพี้ยน(บ้า) เบี่ยงเบนทางเพศ ตาย เส้นทางนี้อันตราย แต่เดินไปเพื่อให้วงการเขาได้ต่อสู้กัน" ในส่วนคดีของแก คุณสมยศเห็นว่า การเปลี่ยนคณะผู้พิพากษาโดยเอาคณะอื่นที่ไม่ได้อยู่ในการไต่สวนตั้งแต่ต้น มาตัดสินคดี เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผมฟังแกพูดแล้วรู้สึกว่าแกน่าจะเขียนได้ดีกว่าผม เลยบอกให้แกเขียนเอง ส่วนผมมีภาระต้องส่งบทความวิพากษ์ศาลให้แกเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการเขียน
จำได้ว่าคุณสมยศเคยบอกว่า "การติดคุกก็เป็นการต่อสู้อย่างหนึ่ง" แต่วันนี้แกบอกว่า "อย่างน้อยลูกชายแก(น้องไท)ก็ออกมาสู้ ภรรยาแก(คุณจุ๊บ)ก็ออกมาสู้"....พูดถึงตรงนี้แล้วผมรู้สึกสงสารคุณจุ๊บขึ้น มาจับใจ ไม่รู้ว่าเธอนอนร้องไห้คนเดียวนานแค่ไหน...กี่คืน หรือกี่เดือน เฮ้อ............
แกเปรียบการต่อสู้ของแกเหมือนก้อนกรวดถมทาง ให้คนเดินต่อ แน่นอนว่าแกรู้ดีถึงความเจ็บปวดจากการต่อสู้ การเป็นก้อนกรวดถมดินให้คนเดินผ่านยิ่งเจ็บปวดเป็น 2 เท่า แต่แกก็ยังยืนหยัดขอจบด้วยการย้อนหลังไปที่การเยี่ยมดา
หลัง เดินออกมาจากการเยี่ยมดา นึกได้ถึงป้ายที่ติดไว้หน้าทัณฑสถานหญิงกลางที่สะดุดตาตั้งแต่ตอนเดินเข้าไป จึงย้อนกลับไปจดมา ป้ายนั้นมีโลโก้ของราชทัณฑ์มุมซ้ายบน และมีข้อความว่า "กรมราชทัณฑ์ สร้างงาน สร้างอาชีพ แรงงานรับจ้างมากกว่า 200,000 คน"
อืม....นักโทษคือแรงงานที่กรมราชทัณฑ์ใช้ทำงานหารายได้
ปล.ระหว่าง รอพบคุณสุรชัยและคุณสมยศ ได้มีโอกาสคุยกับพนักงานสอบสวนคนหนึ่ง ก็ได้คุยกันแบบคนที่อยู่ในวงการศาลด้วยกัน ยังหนุ่มอยู่ เขาเองก็รู้ว่าคุกเมืองไทยมีไว้ขังคนจน บางครั้งคนเราก็ได้เจอสิ่งไม่คาดฝันในสถานที่ที่ไม่คาดคิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น