แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เรามีตัวอย่างที่ "ไม่ดี" ของการ "เคารพกฎ" ตั้งแต่ "โรงเรียน" เสียแล้ว

ที่มา ประชาไท


ประเด็นว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน,นักศึกษา เป็นประเด็นที่มีการพูดถึงกันทุกปี
เพียงแต่ในหลายปีมานี้ วิวาทะดังกล่าวมีเสียงดังขึ้นเรื่อยๆไปพร้อมๆกับสังคมที่เปิดกว้างต่อความคิดเห็นด้านสิทธิเสรีภาพมากขึ้น
....................
แต่น่าเสียดายที่สุด
น้องๆ นักเรียนกลุ่มที่ออกมาแสดงความคิดเห็นนั้นกลับโดนด่าเสียๆหายๆกลับไป
เพราะฉะนั้น ก่อนที่ประเด็นนี้จะจบเพียงแค่ว่าเป็นความขัดแย้งระหว่าง
ความบ้าเห่อในหลักสิทธิเสรีภาพของเด็กกลุ่มหนึ่ง
กับวัฒนธรรมที่กระทำต่อๆกันมาที่คนจำนวนมากก็เห็นว่าทำต่อกันไปไม่เสียหาย
ลองมาส่องกระจกชะโงกดูเงาตัวเองกันอีกที
เพราะประเด็นหนึ่งที่เสียงไม่ค่อยดังนักเกี่ยวกับเครื่องแบบนักเรียนนี้
คือการชี้วัดศักยภาพหรือความสามารถของระบบการศึกษา ครูบาอาจารย์ และสังคมโดยรวมด้วยเครื่องแบบนักเรียน
……
หนึ่งในสิ่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่สอนเราอยู่เสมอ
คือ "เสรีภาพต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ"
การไม่ใส่ชุดนักเรียนของเรานั้นย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบหลายอย่าง เราต้องเลือกเสื้อผ้าเอง ต้องแต่งหน้าทำผมของเราเอง ซึ่งเราจะแต่งตัวดีเหมาะกับเรา เข้ากับเราหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเข้าใจในความเป็นตัวของเราเองมากแค่ ไหน
ส่วนการแต่งตัวได้ถูกต้องตามกาลเทศะ ประสบการณ์และการเรียนรู้จากคนที่โตกว่าเป็นสิ่งที่จะบอกเราว่าการแต่งตัว ของเราถูกต้องตามกาลเทศะหรือไม่
ด้วยเหตุนี้
ไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้องเรื่องทรงผม
เครื่องแบบนักเรียนหรืออะไรที่เป็นสิทธิส่วนบุคคลก็ตาม
จึงจบอยู่เพียงเหตุผลง่ายๆว่า "เด็กๆ ยังมีความรับผิดชอบไม่ดีพอ" ไปเสียหมด
....
แต่เด็กทุกคนเกิดมาไม่ได้มีความรับผิดชอบติดตัวมาด้วยไม่ใช่หรือ?
และประเทศไทยก็ไม่ใช่ประเทศมีกรรมที่เด็กที่เกิดที่นี่มีแต่เด็กคุณภาพต่ำ
พวกเราเกิดมาจาก 0
สังคมและคนที่สั่งสอนเราต่างหากเล่าที่มีหน้าที่ปลูกฝังเรื่องของความรับผิดชอบ
ลูกไม่ดีเพราะพ่อแม่ไม่สั่งสอน ฉันใด
ฉันนั้น การยกเหตุผลว่า "เด็กไทยยังไม่พร้อม" "เด็กไทยยังไม่มีความรับผิดชอบเพียงพอ" ก็มีแต่จะย้อนกลับมาสะท้อนภาวะหมดปัญญาของบุคลากรทางการศึกษาและสังคมทั้ง สังคมที่ขาดความสามารถในการปลูกฝังเลี้ยงดูให้พวกเรา "พร้อม" หรือมีความรับผิดชอบด้วยวัยที่เร็วที่สุดได้
แม้บางคนจะอธิบายว่า เหตุที่ในหลายประเทศโดยเฉพาะในทวีปเอเชีย (เช่น ญี่ปุ่น) ยังคงใช้เครื่องแบบนักเรียน อาจเป็นเพราะค่านิยมทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกันระหว่างตะวันตก-ตะวันออก ที่คนเอเชียจะปล่อยให้ลูกให้เผชิญโลกภายนอกช้ากว่าคนตะวันตก
แต่ประเทศญี่ปุ่นหรือแม้แต่เวียดนามก็ยังใช้เครื่องแบบนักเรียนเพื่อดูแล พวกเขาในฐานะ "เด็ก"เพียงแค่อายุ 18 เท่านั้น ก่อนจะให้แต่งกายและเรียนรู้การเป็นผู้ใหญ่ได้เต็มที่ในชีวิตมหาวิทยาลัย
ชุดนักศึกษาจึงเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ตอกย้ำการด้อยความสามารถของ บุคลากรทางการศึกษาและสังคมไทยทั้งหมดว่าเราไม่สามารถผลิตเยาวชนให้เป็น ผู้ใหญ่ได้แม้อายุจะเลย 18 แล้วก็ตามนั่นเอง
เอาละ มาย้อนดูตัวเองกันอีกครั้ง
ประเทศไทยมีความสามารถที่จะสร้างคนรุ่นใหม่ให้เป็นผู้ใหญ่ได้ตอนอายุเท่าไหร่กัน?
22 ปีเชียวหรือ?
ขึ้น "เลขสอง"กันเลยทีเดียว
สุดท้ายนี้ คงไม่มีประโยคไหนที่จะ sum up ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้ดีไปกว่าเสียงบ่นปนน้อยใจของนักเรียนคนหนึ่งที่พูดถึงกฎทรงผมนัก เรียนในโรงเรียนของตนเอง
ว่าในขณะที่โรงเรียนพยายามอย่างมากที่จะดูแลทรงผมนักเรียนให้เป็นไปตามกฎ อย่างเคร่งครัด แต่โรงเรียนกลับละเมิดกฎของกระทรวงศึกษาตั้งแต่ปี 2518 ว่าห้ามตัดทรงผมเกรียนมาเกือบ 40 ปี และพอมาปีนี้ที่กระทรวงฯออกหนังสือเวียนย้ำถึงกฎข้อนี้อีกครั้ง โรงเรียนหลายโรงเรียนก็พยายามที่จะใช้สิทธิตั้งกฎของตัวเองขึ้นมาบังคับให้ เด็กตัดผมเกรียนอยู่ดี
เรามีตัวอย่างที่ "ไม่ดี" ของการ "เคารพกฎ" ตั้งแต่ "โรงเรียน" เสียแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น