วันที่ 20 กันยายน 2556 (go6TV) เว็บไซต์ชื่อดัง
Inside ThaiGOV ได้เผยบทสัมภาษณ์พิเศษครั้งแรกของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในนิตยสารชื่อดังของญี่ปุ่น
เปิดเผยถึงการทำงานในฐานะของนายกรัฐมนตรี ที่แม้งานจะเหนื่อย
แต่มีความสุขเพราะได้ทำงานให้ประชาชนไทย โดยมีข้อความดังนี้
หลังจากท่านเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 800 คน แม้จะเห็นน้ำตาของประชาชน เธอยืนหยัดว่า “จะร้องไห้ไม่ได้” และสั่งการรับมือปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ ยังได้ปฏิรูปด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง มีทั้งนโยบายการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ การลดภาษีรถคันแรก และอื่นๆ แม้โครงการรับจำนำข้าวจะขาดทุนอย่างมาก แต่รายได้สุทธิของประชาชนโดยส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจก็เติบโตขึ้นด้วย
“ประสบการณ์การเป็นผู้บริหารบริษัทมีประโยชน์ในเรื่องการจัดการปัญหา และการสร้างรายได้”
คำวิจารณ์ว่าท่านเป็น “หุ่นเชิด” ของอดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งยังอาศัยอยู่ในต่างประเทศยังคงไม่หมดไป เมื่อเปลี่ยนมาพูดเรื่องอิทธิพลจากคนในครอบครัว ท่านกล่าวว่า “อยากจะเรียนว่าพี่ชายเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี แต่ดิฉันเป็นนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันค่ะ ดิฉันเรียนรู้วิธีการทางการเมืองและปรัชญาของพี่ชาย แต่ก็ไม่ได้ลอกแบบมาทั้งหมด ดิฉันบริหารงานรัฐบาลเองค่ะ”
“งานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึงจะเหนื่อยแต่มีความสุขค่ะ
เพราะรักการทำงานตรงนี้ และรักประเทศของเรา” แม้จะถูกมองที่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามอยู่บ่อยๆ
แต่ความสามารถด้านการบริหารนโยบายเศรษฐกิจก็ถูกพูดถึงเช่นกัน
นายกรัฐมนตรีไทย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (21 มิถุนายน 2510)
เกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ ทางภาคเหนือของประเทศไทย
ลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 9 คน
บิดาเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ศึกษาในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คณะรัฐศาสตร์ และปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเคนทักกีสเตต สหรัฐอเมริกา
ในสาขารัฐประศาสนศาสตร์
แม้ว่าจะเป็นสตรีจากประเทศที่ได้ชื่อว่า “สยามเมืองยิ้ม”
แต่ด้วยมีตำแหน่งเป็นถึงนายกรัฐมนตรี
และยังมีปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา
รวมถึงประสบการณ์บริหารงานในตำแหน่งประธานบริษัทมาหลากหลายแห่ง ผมจึงคิดว่าท่านต้องมีท่าทีที่ดูขึงขังดุดันแน่ๆ
แต่จากการเข้าพบนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทยในครั้งนี้ผมพบว่าท่านเป็นบุคคลที่ดูนุ่มนวล
เมื่อถามถึงความสำคัญของการเป็นนายกรัฐมนตรีหญิง ท่านตอบด้วยน้ำเสียงน่าฟังว่า “การบริหารประเทศนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิงก็เหมือนกัน
ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อประชาชน”
อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ
ชินวัตรซึ่งพ้นจากตำแหน่งเพราะการรัฐประหารในปี 2549
โดยมีชนวนเหตุจากความสงสัยเรื่องการคอรัปชั่นคือพี่ชายแท้ๆที่อายุมากกว่า 18
ปี
ท่านเป็นตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยซึ่งสมาชิกพรรคส่วนใหญ่คือกลุ่มผู้สนับสนุน
อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและชนะการเลือกตั้งเมื่อ
2 ปีที่แล้ว แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการเมือง
แต่ด้วยความสามารถที่ถ่ายทอดจากครอบครัวที่อยู่ในวงการนี้
ทำให้พรรคเพื่อไทยได้ที่นั่งในสภาไปมากกว่าครึ่งหลังจากท่านเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 800 คน แม้จะเห็นน้ำตาของประชาชน เธอยืนหยัดว่า “จะร้องไห้ไม่ได้” และสั่งการรับมือปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ ยังได้ปฏิรูปด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง มีทั้งนโยบายการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ การลดภาษีรถคันแรก และอื่นๆ แม้โครงการรับจำนำข้าวจะขาดทุนอย่างมาก แต่รายได้สุทธิของประชาชนโดยส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจก็เติบโตขึ้นด้วย
“ประสบการณ์การเป็นผู้บริหารบริษัทมีประโยชน์ในเรื่องการจัดการปัญหา และการสร้างรายได้”
คำวิจารณ์ว่าท่านเป็น “หุ่นเชิด” ของอดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งยังอาศัยอยู่ในต่างประเทศยังคงไม่หมดไป เมื่อเปลี่ยนมาพูดเรื่องอิทธิพลจากคนในครอบครัว ท่านกล่าวว่า “อยากจะเรียนว่าพี่ชายเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี แต่ดิฉันเป็นนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันค่ะ ดิฉันเรียนรู้วิธีการทางการเมืองและปรัชญาของพี่ชาย แต่ก็ไม่ได้ลอกแบบมาทั้งหมด ดิฉันบริหารงานรัฐบาลเองค่ะ”
วันนี้ผมรู้สึกถึงพลังที่ออกมาอย่างเต็มที่จริงๆครับ
นายทะมุระ เอะอิจิ
กองบรรณาธิการ Asahi Shimbun Weekly (AERA 2013.8.5)
กองบรรณาธิการ Asahi Shimbun Weekly (AERA 2013.8.5)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น