ที่มา go6tv
19 กันยายน 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กสว่นตัว โดยมีเนื้อหาดังนี้
วันนี้ 19 กันยายน พ.ศ.2556 เป็นวันครบรอบ 7ปี การทำปฏิวัติรัฐประหาร ในประเทศไทยของเราครับ
7ปีผ่านไป คนไทยทุกคนรับรู้อยู่เต็มอกว่า การปฏิวัติรัฐประหารนั้นส่งผลดี-ผลเสีย ต่อประเทศไทยของเราอย่างไรบ้าง
100ทั้ง100ของผู้ที่ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงในการปฏิวัติรัฐประหาร ล้วนแต่บอกว่าประเทศชาติไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเลย
การเจริญเติบโตของไทยที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็น Leader of Asean กลับกลายมาเป็น แข่งขันเพื่อไม่ให้เป็นที่โหล่ของ Asean
ยาเสพติดที่หมดไปจากประเทศไทยไปแล้ว ในสมัยคุณพ่อผมเป็นนายกฯ ก็กลับเข้ามาหนักยิ่งขึ้นกว่าเดิม
สถาน
บริการที่ได้รับการจัดระเบียบสังคมที่ดี
มีการโซนนิ่งกำหนดพื้นที่และกำหนดเวลาปิดเปิด ก็กลับไปเละเทะ
กลายเป็นแหล่งมั่วสุมเหมือนเดิมอีก
เหตุผล
ในการปฏิวัติรัฐประหารที่ดูหน่อมแน้ม เป็นนามธรรมที่หาสิ่งใดยืนยันไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นข้อหา ล้มล้างสถาบันฯ
หรือมีการทุจริตครั้งใหญ่อย่างไม่เคยมีปรากฏมาก่อน ปรากฏว่า
7ปีผ่านไปกลับเอาผิดคุณพ่อผมได้เพียง การเซ็นต์ชื่อยินยอมในฐานะสามี
ให้คุณแม่ไปประมูลซื้อที่ดิน เท่านั้น
ถาม
ว่าคุ้มหรือไม่ กับการปฏิวัติรัฐประหารที่ดึงประเทศไทยทั้งประเทศ
ถอยหลังออกจากระบอบประชาธิปไตย ตราบาปให้กับความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยว่า
พึ่งหลุดจากเผด็จการมาไม่ถึง10ปี แต่ 7ปีผ่านไปพบว่า
มูลเหตุของการปฏิวัติรัฐประหารเบาหวิว จนแทบจะหาความผิดไม่เจอ
หลาย
คนสงสัยว่าทำไม พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน
ซึ่งเป็นถึงหัวหน้าคณะปฏิวัติรัฐประหารแท้ๆ
ในปัจจุบันจึงหันหลังกลับ180องศา หันมาเห็นด้วยกับแนวทางประชาธิปไตย,
เห็นด้วยกับแนวทางปรองดอง เและบอกว่ารัฐประหารไม่ใช่ทางออกของประเทศ
ผม
บอกไว้ตรงนี้เลยว่า ผมไม่เชื่อว่าคนที่ทำการใหญ่ขนาดนี้
จะเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ของตนได้ 180องศา ภายในระยะเวลาไม่กีปีครับ
พล.อ.สนธิฯน่าจะเป็นคนที่รักในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
พระประมุข เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ Key Word น่าจะอยู่ที่คำตอบของ
พล.อ.สนธิฯ ถึงเหตุผลในการปฏิวัติว่า "เรื่องบางเรื่อง
ถึงตายไปก็ยังบอกไม่ได้" ซึ่งแปลตรงๆได้2นัยยะคือ
1. พล.อ.สนธิฯปฏิวัติไปโดยไม่รู้เหตุผล หรือ
2. พล.อ.สนธิฯรู้เหตุผลในการปฏิวัติ แต่บอกไม่ได้!!
7ปี
ที่ผ่านมา ผลพวงของการปฏิวัติรัฐประหารที่ยังหลงเหลือเด่นชัด
คือรัฐธรรมนูญที่เป็นรากเหง้า ของกฏหมายทั้งหลายทั้งปวงในประเทศนี้ครับ
ฝ่ายที่ได้เปรียบจากรัฐธรรมนูญเผด็จการปี50
ก็พยายามรักษาความได้เปรียบนี้ไว้ให้นานที่สุด ฝ่ายที่เสียเปรียบ
ฝ่ายที่ถูกกระทำ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นฝ่ายรักประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ
ก็พยายามทุกวิถีทางที่จะปลดพันธนาการของเผด็จการนี้ให้ได้
ต่างฝ่ายต่างหยิบยกเหตุผลของตนมากมาย
จนพี่น้องประชาชนคนฟังงุนงงและสับสนกันหมดว่า ใครถูกใครผิดครับ
http://youtu.be/bwOO7dn3HS0
ดู
แล้วถ้าชอบ อย่าลืมช่วยส่งต่อให้เยอะที่สุด
เพื่อประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเรา
จะได้หลุดพ้นจากพันธนาการของเผด็จการเสียที และช่วยภาวนาให้ การปฏิวัติ
19ก.ย.2549 เป็นการปฏิวัติรัฐประหารครั้งสุดท้ายของไทยเราครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น