ที่มา มติชน
ที่อิมแพค เมืองทองธานี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา ที่มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธาน และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เป็นรองประธานเดินทางไปเจรจากับตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมชาวเกษตรกรสวนยางที่
จังหวัดนครศรีธรรมราชว่า
ต้องรอคณะกรรมการแก้ไขยางพาราไปเจรจากับตัวแทนกลุ่มชาวสวนยางพาราก่อน
จึงขอร้องขอความเห็นใจ อย่างเช้าวันนี้ (6 ก.ย.)
เราได้เชิญอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับกลางน้ำและปลายน้ำเข้ามาประชุมด้วย
ซึ่งสิ่งที่ได้รับฟังจากอุตสาหกรรมก็คือในส่วนของการทำงานเราจะต้องคำนึงถึง
ทั้งต้นน้ำกลางน้ำ และปลายน้ำ ทั้งนี้
ในส่วนของต้นน้ำที่มีการพูดถึงก็คือการดูแลเกษตรกรในระยะยาว
โดยเราจะดูพื้นที่เพาะปลูกว่าจะให้มีความเหมาะสมอย่างไร
เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพ
โดยเฉพาะในเรื่องของต้นยางที่จะทำอย่างไรให้ต้นทุนลดลง
เพราะว่าในส่วนของต้นน้ำนั้นการที่จะเพิ่มในส่วนของการใช้ยางธรรมชาติมาก
ขึ้นนั้นจะต้องลดต้นทุนด้วย
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ส่วนกลางน้ำซึ่งมีการหารือกันในวันนี้
ในส่วนของภาครัฐก็จะสนับสนุนในเรื่องของการส่งเสริม
ซึ่งเบื้องต้นกระทรวงการคลังได้สนับสนุนวงเงินไว้แล้วประมาณ 1.5
หมื่นล้านบาท ซึ่งผู้ประกอบการก็พึงพอใจ
ซึ่งต่อไปก็จะเน้นในเรื่องของการสร้างโรงงานแปรรูปให้มากที่สุด
เพื่อให้การใช้จำนวนยางพารามากขึ้น นอกจากนั้น โรงงานถุงมือยาง
ซึ่งมีการใช้ในส่วนของภาคอุตสาหกรรม การแพทย์ และการเกษตร
รัฐบาลก็จะส่งเสริมในส่วนนี้มากขึ้น
เบื้องต้นผู้ประกอบการก็มีความต้องการอยู่แล้ว
“นอกจากนั้น ก็จะมีการส่งเสริมการใช้ยางพาราของภาครัฐ
ซึ่งกระทรวงคมนาคมก็จะนำยางพาราไปเป็นส่วนผสมเพื่อสร้างถนน หรือ ฟุตปาธ
และกระทรวงกลาโหมที่มีโครงการของภาครัฐที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานก็จะสนับสนุน
ให้มีการใช้ยางพารามากขึ้น รวมถึงผู้ส่งออก เช่น การผลิตยางรถยนต์
ซึ่งก็ได้ขอความร่วมมือภาคเอกชนที่จะให้มีการส่งออกมากขึ้นและหันมาใช้ยาง
ธรรมชาติมากขึ้น” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
เมื่อถามว่าราคายางพารายังยืนอยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัมใช่หรือไม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อยู่ที่ความเหมาะสมระหว่างต้นน้ำ กลางน้ำ
ปลายน้ำด้วย จึงยังไม่สามารถสรุปในเรื่องของตัวเลขราคาได้
เพราะต้องรับฟังในพื้นที่ด้วย รวมทั้งกลางน้ำและปลายน้ำ
ซึ่งเมื่อพิจารณาจากภาพรวมแล้วผลออกมาเป็นอย่างไรก็จะให้ความช่วยเหลืออย่าง
เต็มที่อยู่แล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้ปัญหา
และแก้ปัญหาอย่างเต็มที่จริงๆ
เมื่อถามว่ากลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะยกระดับการชุมนุมถ้ารัฐบาลไม่
แก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า
รัฐบาลไม่อยากเห็นเหตุการณ์นี้ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความรุนแรง
และขอร้องต่อผู้ชุมนุม ซึ่งรัฐบาลก็ยินดีที่จะพูดคุยกัน
จึงควรที่จะใช้เวทีพูดคุยกันมากกว่า
เพราะเราก็ไม่อยากให้มีผลกระทบเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น
เพราะว่าเศษรฐกิจโลกในขณะนี้ไตรมาสที่ 3-4 มีแนวโน้มที่สูงขึ้น
เพราะฉะนั้นเมื่อมาร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นก็จะทำให้เสถียรภาพต่างๆ
ของประเทศและราคาสินค้าเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้
หากเกิดความรุนแรงขึ้นก็จะกระทบต่อการท่องเที่ยวในภาคใต้ด้วย
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีได้รับทราบปัญหาการปะทะกันระหว่างเจ้า
หน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หรือไม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ติดตามปัญหาอยู่ตลอด ทั้งนี้
ไม่อยากให้เยาวชนเข้ามาเกี่ยวข้อง
เพราะรัฐบาลต้องการแก้ปัญหารการเกษตรเพียงอย่างเดียว
และไม่อยากให้มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
ซึ่งปัญหาไม่สามารถจบลงได้เพียงกลุ่มเดียว เพราะต้องพูดคุยกันหลายๆ กลุ่ม
เมื่อถามว่า แสดงว่าแนวโน้มราคายางพาราน่าจะสามารถขยับขึ้นได้
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า
อยากให้ได้ข้อสรุปที่เป็นทางออกที่เกษตรกรผู้ชุมนุมเห็นด้วย
เพราะขณะนี้ภาครัฐมีการหารือกันหลายรอบ แต่การชุมนุมก็ยังไม่ยุติ
จึงอยากให้มีการพูดคุยเพื่อให้การชุมนุมยุติลงเพื่อไม่ให้กระทบกับเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ เราเชื่อมั่นว่าถ้าเรามีเจตนาที่จะร่วมกันแก้ปัญหาแล้ว
การเจรจาในครั้งนี้ถือว่าจะเป็นทางออกในการแก้ปัญหา และยืนยันว่า
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่พื้นที่ฐานเสียงของรัฐบาลก็จะดูแล และไม่เลือกปฏิบัติ
เมื่อถามว่าถ้าเหตุการณ์บานปลายจะมีมาตรการอะไรมาควบคุมหรือไม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า
“ดิฉันเชื่อว่าพี่น้องประชาชนในจังหวัดภาคใต้คงไม่อยากเห็นความรุนแรงนี้
จึงขอความร่วมมือให้มีการพูดคุยกัน และขอความกรุณาผู้ชุมนุมว่า
รัฐบาลเปิดเวทีแล้วที่จะพูดคุยก็ขอให้เวทีนี้เป็นการพูดคุยสื่อสาร
ระหว่างภาครัฐและพี่น้องประชาชน และผู้ประกอบการร่วมกัน"
เมื่อถามว่าเมื่อวานนี้มีการเผารถเกิดขึ้นที่ อ.บางสะพาน
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวพร้อมกับเดินเลี่ยงออกจากวงสัมภาษณ์ว่า
“ยิ่งพูดก็ยิ่งแรงเข้าไปใหญ่เลย”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น