เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ขึ้นปราศรัยเวทีต้าน
ระบอบทักษิณ วอนทหารออกมาช่วยประชาชน ขอคนงานรัฐวิสาหกิจหยุดงานเพื่อชาติ
‘สมศักดิ์ โกศัยสุข’ ระบุ พรบ.ความมั่นคงขัดระบอบประชาธิปไตย
27 พ.ย.2556 คมสัน ทองศิริ เลขาธิการ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.)และรองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) ขึ้นปราศรัยเวทีเครือข่ายต่อต้านระบอบทักษิณ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งนำโดยพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อคือวันที่ 26 พ.ย.2556 เวลาประมาณ 22.30 น. เรียกร้องให้ทหารออกมาเป็นทหารของประชาชน ขอให้คนงานรัฐวิสาหกิจหยุดงานเพื่อชาติ พร้อมประกาศด้วยว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมพนักงานรัฐ วิสาหกิจทุกคนจะวางมือจากการทำงานทันที
“สังคมมีทั้งคนดีและคนเลว แต่สังคมไทยในวันนี้มันจะอยู่ไม่ได้ถ้าพวกเราทำตัวเป็นกลางแล้วอยู่เฉยๆ อยู่ไม่ได้แน่นอน ไม่มีความเป็นกลางจริงหรอกครับพี่น้อง ความเป็นกลางเป็นแค่ทฤษฏี เป็นแค่วาทะกรรม เพราะฉะนั้นเราต้องเลือกผิดเลือกถูกเลือกชั่วดี” คมสัน ปราศรัย
คมสัน กล่าวด้วยว่า ส.ส.ทำได้ทุกเรื่อง เสียบบัตรแทนกันก็บอกว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ทีนักเรียนเอาบัตรมาแทนกัน พนักงานมาทำงานตีเบอร์แทนกัน พนักงานรัฐวิสาหกิจอย่างผมนี่ถ้าเอาบัตรไปตีเบอร์แทนเพื่อน พี่น้องครับถูกไล่ออก
คมสัน ยังกล่าวด้วยว่า ประเทศชาติเคยอยู่อย่างสุขสบายประชาชนรักกันไปไหนก็ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่เมื่อเกิดวาทะกรรม 'บกพ่องโดยสุรจริต' ตั้งแต่นั้นมาความทะเลาะเบาะแว้ง โกง กินคอรัปชั่นก็เกิดขึ้นจากคำว่าบกพร่องโดยสุจริต เป็นความซวยของประเทศไทยเพราะแม้แต่หลักสูตรการศึกษาต่างๆ ศีลธรรมในใจ ศีลธรรมประจำใจ วิชาศีลธรรมหายไป วิชาพุทธศาสนาหายไป จึงเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่างการกระทรวงศึกษาบรรจุวิชาเหล่านี้เข้าไป
“วันนี้กำลังจะถึงวันสำคัญ ทหารทำอะไรอยู่ จะปล่อยให้ตำรวจเข่นฆ่าประชาชนอย่างงั้นหรือ ที่ผมต้องพูดเพราะผมเคยผ่านชีวิตการเป็นทหารอย่างน้อยก็ 1 ปี ผมเคยสาบานต่อธงไชยเฉลิมพล ว่าผมจะรักชาติ ศาสนา และปกป้องพระมหากษัตริย์ครับพี่น้อง แล้วผมถามว่าจะถึงวันสำคัญอยู่ในไม่นานนี้แล้ว มีข่าวว่าจะมีการถวายสัตย์ปฏิญาณ ผมถามคุณว่าคุณจะถวายไปทำไมถ้าคุณไม่ทำหน้าที่เป็นทหารของประชาชน คุณไม่รู้หรือวันนี้มีการจาบจวงสถาบันมากมาย ประชาชนรู้แม้กระทั่งว่ามันเป็นใคร แต่ทหารไม่รู้ ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อ” เลขาธิการ สรส. ปราศรัย
สมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย และอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.). กล่าวปราศรัยด้วยว่าไม่มีประเทศไหนในโลกที่คนมาเกิน 1 ล้าน จะอยู่ต่อเขาออกนานแล้ว แต่นี่เป็นเผด็จการ
“เรื่องกฏหมายความมั่นคงพี่น้องไม่ต้องกลัว ประชาชนมาชุมนุมอยู่ในที่แล้วมาออกกฏหมายทับที่ประชาชนได้อย่างไร เขาอยู่มาก่อน กฏหมายแบบนี้มันขัดกับสาระสำคัญในระบอบประชาธิปไตย เพราะประชาชนมาทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ พอรัฐบาลเป็นโมฆะ ประชาชนมีสิทธิชุมนุมโดยสงบโดยเปิดเผย ต่อต้านรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรม” สมศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้สมศักดิ์ยังกล่าวอ้างข้อมูลภายในว่า “ตำรวจที่ล้อมทำเนียบอยู่ตายไปหลายคนแล้วครับพี่น้องมันปิดข่าวเอาไว้ มันเครียด มันตายเพราะไปขังคอกเอาไว้ แล้วมันตายเพราะมันไปไหนไม่ได้ ดังนั้นประชาชนเรือนล้านอย่างนี้ไม่ต้องกลัว" สมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า "ไม่มีรัฐบาลไหนในโลกที่จะมาปราบปรามประชาชนได้ มึงปราบปรามประชาชนเมื่อไหร่เมื่อนั้นมึงไม่มีแผ่นดินอยู่”
27 พ.ย.2556 คมสัน ทองศิริ เลขาธิการ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.)และรองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) ขึ้นปราศรัยเวทีเครือข่ายต่อต้านระบอบทักษิณ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งนำโดยพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อคือวันที่ 26 พ.ย.2556 เวลาประมาณ 22.30 น. เรียกร้องให้ทหารออกมาเป็นทหารของประชาชน ขอให้คนงานรัฐวิสาหกิจหยุดงานเพื่อชาติ พร้อมประกาศด้วยว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมพนักงานรัฐ วิสาหกิจทุกคนจะวางมือจากการทำงานทันที
“สังคมมีทั้งคนดีและคนเลว แต่สังคมไทยในวันนี้มันจะอยู่ไม่ได้ถ้าพวกเราทำตัวเป็นกลางแล้วอยู่เฉยๆ อยู่ไม่ได้แน่นอน ไม่มีความเป็นกลางจริงหรอกครับพี่น้อง ความเป็นกลางเป็นแค่ทฤษฏี เป็นแค่วาทะกรรม เพราะฉะนั้นเราต้องเลือกผิดเลือกถูกเลือกชั่วดี” คมสัน ปราศรัย
คมสัน กล่าวด้วยว่า ส.ส.ทำได้ทุกเรื่อง เสียบบัตรแทนกันก็บอกว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ทีนักเรียนเอาบัตรมาแทนกัน พนักงานมาทำงานตีเบอร์แทนกัน พนักงานรัฐวิสาหกิจอย่างผมนี่ถ้าเอาบัตรไปตีเบอร์แทนเพื่อน พี่น้องครับถูกไล่ออก
คมสัน ยังกล่าวด้วยว่า ประเทศชาติเคยอยู่อย่างสุขสบายประชาชนรักกันไปไหนก็ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่เมื่อเกิดวาทะกรรม 'บกพ่องโดยสุรจริต' ตั้งแต่นั้นมาความทะเลาะเบาะแว้ง โกง กินคอรัปชั่นก็เกิดขึ้นจากคำว่าบกพร่องโดยสุจริต เป็นความซวยของประเทศไทยเพราะแม้แต่หลักสูตรการศึกษาต่างๆ ศีลธรรมในใจ ศีลธรรมประจำใจ วิชาศีลธรรมหายไป วิชาพุทธศาสนาหายไป จึงเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่างการกระทรวงศึกษาบรรจุวิชาเหล่านี้เข้าไป
“วันนี้กำลังจะถึงวันสำคัญ ทหารทำอะไรอยู่ จะปล่อยให้ตำรวจเข่นฆ่าประชาชนอย่างงั้นหรือ ที่ผมต้องพูดเพราะผมเคยผ่านชีวิตการเป็นทหารอย่างน้อยก็ 1 ปี ผมเคยสาบานต่อธงไชยเฉลิมพล ว่าผมจะรักชาติ ศาสนา และปกป้องพระมหากษัตริย์ครับพี่น้อง แล้วผมถามว่าจะถึงวันสำคัญอยู่ในไม่นานนี้แล้ว มีข่าวว่าจะมีการถวายสัตย์ปฏิญาณ ผมถามคุณว่าคุณจะถวายไปทำไมถ้าคุณไม่ทำหน้าที่เป็นทหารของประชาชน คุณไม่รู้หรือวันนี้มีการจาบจวงสถาบันมากมาย ประชาชนรู้แม้กระทั่งว่ามันเป็นใคร แต่ทหารไม่รู้ ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อ” เลขาธิการ สรส. ปราศรัย
สมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย และอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.). กล่าวปราศรัยด้วยว่าไม่มีประเทศไหนในโลกที่คนมาเกิน 1 ล้าน จะอยู่ต่อเขาออกนานแล้ว แต่นี่เป็นเผด็จการ
“เรื่องกฏหมายความมั่นคงพี่น้องไม่ต้องกลัว ประชาชนมาชุมนุมอยู่ในที่แล้วมาออกกฏหมายทับที่ประชาชนได้อย่างไร เขาอยู่มาก่อน กฏหมายแบบนี้มันขัดกับสาระสำคัญในระบอบประชาธิปไตย เพราะประชาชนมาทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ พอรัฐบาลเป็นโมฆะ ประชาชนมีสิทธิชุมนุมโดยสงบโดยเปิดเผย ต่อต้านรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรม” สมศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้สมศักดิ์ยังกล่าวอ้างข้อมูลภายในว่า “ตำรวจที่ล้อมทำเนียบอยู่ตายไปหลายคนแล้วครับพี่น้องมันปิดข่าวเอาไว้ มันเครียด มันตายเพราะไปขังคอกเอาไว้ แล้วมันตายเพราะมันไปไหนไม่ได้ ดังนั้นประชาชนเรือนล้านอย่างนี้ไม่ต้องกลัว" สมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า "ไม่มีรัฐบาลไหนในโลกที่จะมาปราบปรามประชาชนได้ มึงปราบปรามประชาชนเมื่อไหร่เมื่อนั้นมึงไม่มีแผ่นดินอยู่”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น