ที่มา isranews
"..คำถามที่น่าใจต่อมาคือ
หลังจากการทำกิจกรรมเคลื่อนขบวน 13 เส้นทางจบสิ้นลงแล้ว กิจกรรมต่อไปของ
ผู้ชุมนุมภายใต้การนำของนายสุเทพ และอดีตนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ คือ
อะไร?.."
พลันที่ "นายสุเทพ เทือกสุบรรณ"
อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะแกนนำคัดค้านร่าง
พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและกำจัดระบอบทักษิณ
ประกาศมติแกนนำให้ผู้ชุมนุมบนถนนราชดำเนิน รับทราบถึงมติแกนนำว่า
ในช่วงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 จะแบ่งขบวนมหาประชาชน ออกเป็น 13 กลุ่ม
เพื่อเคลื่อนขบวนไปตาม 13 เส้นทาง ตามสถานีที่ต่างๆ อาทิ
กองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานราชการ
รวมถึงสื่อฟรีทีวีต่างๆ
พร้อมระบุว่า จะเดินขบวนไปแบบ "สุภาพชน"
จะเดินแบบสงบสันติอหิงสา เมื่อไปถึงก็ไม่ต้องทำอะไร นำนกหวีด ดอกไม้
ธงชาติไปให้ แล้วถามว่าจะมาอยู่ข้างประชาชนหรือไม่
แต่ดูเหมือนว่า มติแกนนำที่ออกมาจะทำให้ "นายสมเกียรติ อ่อนวิมล" นักสื่อสารมวลชนชื่อดัง ไม่ค่อยสบายใจนัก
และออกมาแสดงความเห็นคัด
ค้านอย่างรุนแรง ถึงขนาดเสนอให้ "มวลมหาประชาชน" เปลี่ยนม้ากลางศึก
หาผู้นำใหม่ที่รักสันติสุภาพเข้มแข็งอดทน ให้การทำงานโปร่งใส
ให้มวลชนมีส่วนร่วมตรวจสอบได้ มาทำหน้าที่แทน
อะไรคือสาเหตุทำให้ นายสมเกียรติ ซึ่งประกาศตนว่าอยู่ตรงข้ามกับระบอบทักษิณ อย่างชัดเจนคนหนึ่ง ถึงออกมาแสดงความเห็นในลักษณะนี้
ย้อนหลังกลับไปหลังจากที่นายสุเทพ
ขึ้นประกาศมติแกนนำบนเวทีปราศรัยราชดำเนิน ช่วงเวลา ประมาณ 22.00 น.
ของคืนวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา
นายสมเกียรติ ได้เริ่มต้นโพสต์ข้อความแสดงความเห็นส่วนตัว ผ่านทางทวิสเตอร์ ที่ใช้ชื่อว่า Somkiat Onwimon ทันที
โดยระบุว่า “ขอคัดค้านการที่คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ จะนำมวลเดินแยกสายไปกดดันข่มขู่สื่อมวลชนและส่วนราชการต่างๆทั่วกรุงฯ ถือเป็นการใช้ความรุนแรงขัดหลักอหิงสา”
ก่อนจะตามมาด้วยข้อความจำนวนมาก ดังนี้
“มวลมหาประชาชนฯควรทำ"อารยะขัดขืน"ไม่
ร่วมมือกับคุณสุเทพและคณะที่จะพาเดินไปกดดันสื่อมวลชนที่คุณสุเทพไม่ชอบและ
ส่วนราชการที่คุณสุเทพเห็นเป็นเป้า”
"ผมเห็นด้วยกับการล้มระบอบทักษิณ
แต่ต้องเป็นวิธีประชาธิปไตยและไม่ใช้ความรุนแรง
ประชาชนและข้าราชการต้องใช้เวลาเรียนรู้เรื่องการปฏิรูปประเทศไทย"
"วิธีที่ดีที่สุดในเวลานี้ก็คือให้
รัฐบาลยุบสภา นายกลาออก เลือกตั้งใหม่ ใครแพ้ใครชนะก็ต้องยอมรับ
ระบอบทักษิณจะกลับมาก็ต้องรับ จะสู้กันใหม่ก็สู้"
"การพามวลชนตระเวนข่มขู่สื่อมวลชนและ
หน่วยราชการเป็นความรุนแรงในตัวอยู่แล้ว
และจะเสี่ยงต่อการปะทะเกิดบาดเจ็บรุนแรงมากขึ้นไปอีก ต้องอารยะขัดขืน"
"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในประเทศไทยเราก็
ต้องยึดหลักประชาธิปไตย ถึงอย่างไรก็ต้องมีการเลือกตั้ง
เราต้องเร่งให้การศึกษาเรื่องผลร้ายจากระบอบทักษิณ"
"หากพรรคการเมืองเก่าและใหม่จะเอาชนะ
ระบอบทักษิณได้ก็ต้องด้วยการให้การศึกษาเปลี่ยนความคิดประชาชนจนชนะเลือก
ตั้งใน 4 ปี 8 ปี 12 ปี กี่ปีก็ต้องยอม"
"ฟังคุณสุเทพปราศรัยคืนนี้แล้วพบว่าคุณ
สุเทพใช้อหิงสาแบบไม่เข้าใจ จะใช้เป็นเพียงเครื่องมือชั่วคราวอีกสองวัน
หากกดดันไม่สำเร็จจะใช้วิธีอื่น"
"อหิงสาต้องทำโดยผู้เข้มแข็งอด
ทนมีวินัย ที่คุณสุเทพประกาศจะหยุดอหิงสาในสองวันถ้าไม่ได้อย่างใจ
จึงเป็นอหิงสาของผู้อ่อนแอ ล้มเหลวพ่ายแพ้ต่อกิเลส"
"การที่คุณสุเทพจะไปกดดันทีวีช่อง 3 และช่อง 7 เพราะไม่ชอบการทำข่าวของเขาเพราะเขารายงานไม่ถูกใจ ก็ผิด Blue Sky / T-News ก็ลำเอียงข้างเดียวตลอด"
"ประเทศไทยวันนี้เต็มไปด้วยสื่อเลือก
ข้างประชาชนจะต้องรู้จักเลือกดู จะกดดันกันด้วยกำลังรุนแรงไม่ได้
แสดงความเห็นติเตียนได้ ไม่ชอบก็ปิดไม่ต้องดู"
"คุณสุเทพจะต้องรับผิดชอบถ้าพามวลมหาชนไปสู่ความรุนแรง และความรุนแรงรับประกันความพ่ายแพ้แน่นอน"
"การปราศรัยของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ
ทั้งเนื้อหาและอารมณ์ พบว่าคุณสุเทพฯเป็นคนรุนแรงไม่ใช่นักอหิงสาที่แท้จริง
ไม่ควรจะให้นำมวลมหาประชาชนต่อไป"
"ถึง
เวลาที่"มวลมหาประชาชน" จะต้องเปลี่ยนม้ากลางศึก
หาผู้นำใหม่ที่รักสันติสุภาพเข้มแข็งอดทน ให้การทำงานโปร่งใส
ให้มวลชนมีส่วนร่วมตรวจสอบได้"
"อหิงสา"
คือ"ความไม่รุนแรง"การที่มวลมหาประชาชนเดินขบวนไปสร้างแรงกดดันผู้อื่นที่ตน
ถือเป็นฝ่ายตรงข้ามเป็นความรุนแรง เป็น"หิงสา" ไม่ใช่"อหิงสา"
"คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ
ไม่มีความรู้ไม่เข้าใจอหิงสา ยืมคำว่าอหิงสามาลองใช้เป็นเครื่องมือชั่วคราว
หากไม่สำเร็จก็จะใช้วิธีอื่นดังที่บอกเมื่อคืน"
"คุณสุเทพเป็นคนรุนแรง ใจก็คิดรุนแรง
วาจาก็แสดงออกรุนแรง กายก็มีอาการรุนแรง
ดังที่เห็นในการปราศรัยเมื่อคืนที่ผ่าานมา นักอหิงสา จะไม่เป็นแบบนี้"
"คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ
เป็นผู้นำอหิงสาไม่ได้ หลวงปู่พุทธะอิสระ ก็เช่นกัน เป็นนักอหิงสาไม่ได้
เป็นผู้นำมวลชนทำกิจกรรมการเมืองแบบรุนแรง อาจพอได้"
"วิธีการต่อสู้ของนักสัตยาเคราะห์แบบอหิงสาที่แท้จริงต้องสู้โดยทำให้ทุกข์ทรมานตกอยู่กับตนเองเท่านั้น แล้วแผ่เมตตาให้ฝ่ายตรงข้าม"
"นักสัตยาเคราะห์แบบอหิงสาจะต่อต้านต่อ
การกระทำที่ชั่วร้ายเท่านั้น ไม่ต่อต้านคนที่กระทำชั่วร้าย
จะเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร จะไม่ทำลายศัตรู"
"หากการต่อต้านศัตรูวิธีอื่นทำทุกวิธีจน
หมดหนทางแล้วยังไม่สำเร็จ วิธีสุดท้ายของนักอหิงสา ตามคำสอนของมหาตมะ คานธี
คือวิธีประท้วงด้วยการอดอาหาร"
"ดังนั้นถ้าจะใช้อหิงสาวิธีสุดท้าย
ขอให้มวลมหาประชาชนนั่งอยู่กับที่กลางถนนราชดำเนิน
อย่าเคลื่อนย้ายไปกดดันให้ทุกข์กับใคร แล้วเริ่มการอดอาหาร"
"อาจเริ่มทำอหิงสา-สัตยาเคราะห์
โดยการอดอาหาร โดยคุณสุเทพทำคนเดียวก่อน
หรือคณะกรรมการแกนนำทั้งหมดทำทั้งคณะก็ได้ ส่วนมวลชนอยู่ที่เดิมตามปกติ"
"หากการอดอาหารโดยคณะผู้นำไม่เป็นผล
คุณสุเทพ และคณะผู้นำมวลชนตายหมดแล้ว ให้มวลมหาประชาชนเริ่มอดอาหารต่อ
จนกว่ารัฐบาลจะเข้าใจทุกข์ยากของประชาชน"
"ที่
ผมอธิบายแนะนำมาทั้งหมดนี้คืออหิงสาตามแบบมหาตมะ คานธี ที่แท้จริง
หากไม่รู้ ไม่เข้าใจอหิงสา
ประท้วงไปแล้วความพ่ายแพ้จะมิใช่ความผิดของอหิงสา"
"อหิงสา"
เพียงต้องการประกาศความจริงคือความเป็นบาปหยาบช้าของศัตรูให้รับรู้กันทั่ว
"อหิงสา"สร้างมิตร ไม่ทำลายศัตรู แต่เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร"
"ผมให้ความรู้เรื่องอหิงสาด้วยความเป็น
มิตรกับมวลมหาประชาชนไทยเพื่อล้มระบอบทักษิณ เป็นมิตรกับคุณสุเทพ
เทือกสุบรรณ ยิ่งลักษณ์ และทักษิณ ชินวัตร"
"ที่ผมอธิบายแนะนำมาทั้งหมดนี้คืออหิงสา
ตามแบบมหาตมะ คานธี ที่แท้จริง หากไม่รู้ ไม่เข้าใจอหิงสา
ประท้วงไปแล้วความพ่ายแพ้จะมิใช่ความผิดของอหิงสา"
แต่ดูเหมือนว่าเสียงเตือนของ นายสมเกียรติ อาจจะเบาและไร้น้ำหนัก ในมุมมองของนายสุเทพ และแกนนำ
เพราะทันทีที่ถึงเวลานัดหมายใน
ช่วง 08.00 น.ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 กลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 13 เส้นทาง
ได้เคลื่อนขบวนออกจากถนนราชดำเนินไปตามสถานที่ต่างๆ ที่แกนนำกำลังไว้
โดยพร้อมเพรียง
ขณะที่ เฟซบุ๊กส่วนตัวของนายสุเทพ ได้โพสต์ข้อความแจ้งกำหนดการและเหตุผลการเคลื่อนขบวนทั้ง 13 เส้นทางว่า
"ผมตัวแทนคณะแกนนำ ประกาศให้ "ขี้ข้า" ทักษิณทราบ พรุ่งนี้ ขบวนเราจะแบ่งเป็น 13 เส้นทาง
1.ไปกองบัญชาการทหารสูงสุด แจ้งวัฒนะ มีคุณนายสกลธี ภัททิยกุลนำไป เจอกันที่นั่นเลย ไม่ต้องเดินไปเพราะไกลเกิน
2.ไปกองบัญชาการกองทัพอากาศดอนเมือง มีคุณวิทยา แก้วภราดัย นำไป
3.ไปกองทัพบก ไปหาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านเป็นแม่ทัพบก เราจะไปแบบผู้น้อม ในเอกนัฐ พร้อมพันธุ์นำไป
4.ไปกองบัญชาการกองทัพเรือ ผบ.น่ารักมาก
เป็นผบ.คนเดียวใน 3 เหล่าทัพที่บอกว่ากำลังพลมาร่วมชุมนุมได้นอกราชการ
จะให้คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นำไป
5.ไปสำนักงานตร.แห่งชาติ
ไปพบพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ให้ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นำไป
อยากจะขอเชิญพี่น้องนักธุรกิจ แถวราชประสงค์-สีลม
นักศึกษาจุฬาฯไปร่วมกันเยอะๆครับ เพราะพวกนี้คุยยากหน่อย
6.ไปกองบัญชาการตำรวจนครบาล ไปพบคนที่ได้ดีเพราะพี่มันให้ ให้ชุมพล จุลใส นำไป พี่น้องช่วยไปสมทบกันเยอะๆนะครับ
7.ไปช่อง 3 ผมกราบเรียนพี่น้อง
เมื่อปี 53 เสื้อแดงไปเผาช่อง 3 ผมเป็นคนสั่งตำรวจที่ไว้ใจไปช่วย
และให้นำฮ.ไปรับผู้บริหาร มันถึงตอบแทนเราอยู่ทุกวันนี้ มี ณัฏฐพล
ทีปสุวรรณ นำไป
8.ไปช่อง 5 ในฟรีทีวีมีช่อง 5 ที่ยังพอรายงานข่าวเรา ว่าผมพูดอะไรบ้าง ให้ อิสสระ สมชัย นำไป
9.ไปช่อง 7 วันนี้เกือบโดนไปแล้ว เรามอบ ชาญวิทย์ วิภูศิริ นำไป
10.ไปช่อง 9 แดนสนธยา ให้ถนอม อ่อนเกตุพล นำไป
11.ไปช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ให้ถาวร เสนเนียม นำทีม
12.ไปกระทรวงมหาดไทย เราจะให้สมาชิกอบต.ทั้งคณะ นำมวลชนไปทวงเงินงบประมาณที่สัญญาว่าจะให้ท้องถิ่น
13.ไปสำนักงบประมาณ ไปบอกเค้าว่า หยุดจ่ายเงินให้อี..เอาไปผลาญได้แล้ว ผมจะนำทีมเอง!!
ทุกขบวน (ยกเว้นขบวนที่ 1.) ตั้งขบวน 8 โมงเช้าที่ท้องสนามหลวง"
ooo
ส่วนภาพรวมในการเคลื่อนขบวนในช่วงเช้า
ที่ผ่านมา (เวลา 10.00 น.) ยังเป็นไปอย่างปกติ
ไม่มีการปัญหาความรุงแรงหรือเหตุการณ์ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด
โดยแกนนำที่นำขบวนไปในแต่ละเส้นทางได้ประกาศแจ้งผู้ชุมนุมอยู่เป็นระยะๆ
ใช้ความระมัดระวังตัวในการเคลื่อนขบวน อยู่ในความสงบ ป้องกันมือที่สาม
ไม่ให้เข้ามาสร้างสถานการณ์
พร้อมมีการมอบหมายให้ผู้ชุมนุมที่เป็นผู้หญิงนำดอกไม้ไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่แกนนำผู้ชุมนุมหลายคน
ก็ยืนยันว่า การเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้นำชุมนุมครั้งนี้ ทำได้
เป็นไปตามแนวทางอสิงหา เป็นการเชิญชวนประชาชนตามสถานที่ต่างๆ
ให้มาเข้าร่วมการชุมนุมมากขึ้น เป็นการเคลื่อนขบวนอย่างงดงาม
อย่างไรก็ตาม คำถามที่น่าใจต่อมาคือ
หลังจากการทำกิจกรรมเคลื่อนขบวน 13 เส้นทางจบสิ้นลงแล้ว กิจกรรมต่อไปของ
ผู้ชุมนุมภายใต้การนำของนายสุเทพ และอดีตนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ คือ
อะไร?
จะยึดแนวทางต่อสู้แบบอหิงสา
ต่อไป หรือ จะยกระดับ "กิจกรรม" ให้มี "ความรุนแรง" มากยิ่งขึ้น
เพื่อเผด็จศึก "รัฐบาล" ให้ได้ ก่อนที่พลังของมวลชนจะลด น้อยลง
ตามที่หลายฝ่ายประเมินกันไว้หรือไม่?
หลังจากที่ฝั่งรัฐบาล เลือกที่จะเล่นเกม"เงียบ"เน้นการ "ตั้งรับ"แบบมี "นัยยะ" ตามที่เห็นและเป็นอยู่ในขณะนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น