โดย เกษียร เตชะพีระ
ที่มา ประะชาไท
ด้วยเงื่อนไขเวลา สถานที่
แกนนำและประเด็นชนวนที่ต่างออกไปบ้าง
ม็อบเทพเทือกปัจจุบันกับม็อบพันธมิตรฯเมื่อปี 2549 + 2551
ละม้ายเหมือนกันเป็นพิมพ์เดียวทั้งในแง่....
-วาทกรรม (ราชาชาตินิยม)
-ยุทธศาสตร์
(ปฏิรูประบอบการเมืองไปในทิศทางลดอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนลง
เพิ่มอำนาจของบรรดาสถาบันที่ไม่ได้มาจากเสียงข้างมาก)
-ยุทธวิธี (ก่่อม็อบอนาธิปไตย ยึดสถานที่ราชการ ให้รัฐเป็นอัมพาตทำงานไม่ได้)
-เป้าหมายเฉพาะหน้า (ล้มรัฐบาล)
-และวิสัยทัศน์ทางการเมือง (ระบอบกึ่งประชาธิปไตยใต้การกำกับของทหารและคณะตุลาการคุณธรรม)
จะเรียกว่าคุณสุเทพ
เทือกสุบรรณกับพรรคประชาธิปัตย์กำลังผลิตซ้ำ/ทำซ้ำแบบแผนการชุมนุมของคุณ
สนธิ ลิ้มทองกุลกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อปี 2549 + 2551
ก็ย่อมได้
ในแง่หนึ่งมันสะท้อนว่าแนวทางการนำพรรคประชาธิปัตย์ของคุณอภิสิทธิ์-สุเทพในรอบ ๒ ปีที่ผ่านมาได้บรรลุถึงบทสรุปตามตรรกะของมันแล้ว
คือแปรพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านอนุรักษ์
นิยม-กษัตริย์นิยมในสภาจากการเลือกตั้ง ให้กลายเป็น -->
ขบวนการมวลชนและกองโฆษณาชวนเชื่อราชาชาตินิยม-ปฏิกิริยา-อนาธิปไตยบนท้องถนน
ที่ถล่มโจมตีเข้ายึดสถานที่ราชการเพื่อโค่นอำนาจรัฐบาลจากการเลือกตั้งและ
ต่อต้านระบอบประชาธิปไตย
พูดอีกอย่างก็ได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ถูก ASTV-Manager/PADization (เอเอสทีวี-ผู้จัดการ/พันธมิตรานุวัตร) ไปแล้วเรียบร้อย
ทว่าลึกกว่านั้น มันยังสะท้อนบางอย่างที่น่าสนใจเกี่ยวกับระบบการเมืองการปกครองของไทยเราในเชิงโครงสร้าง
ลองจินตนาการดูว่าสมมุติคณะแกนนำการประท้วงม็อบเทพ
เทือก-กปท.-คปท.ขณะนี้ ไปจุติในภพภูมิเสรีประชาธิปไตยเต็มใบที่ไหนสักแห่ง
และมีความขุ่นแค้นขัดเคืองไม่พอใจรัฐบาลดังกล่าวทางการเมือง
ต้องการล้มรัฐบาล พวกเขาจะทำอะไรอย่างไร?
ชุมนุมยืดเยื้อกลางถนนหรือ?
กดดันกองทัพให้แทรกแซงทางการเมืองหรือ?
ขออำนาจพิเศษนอกเหนือรัฐธรรมนูญให้ช่วยเปลี่ยนตัวนายกฯ
ตั้งสภาประชาชนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ปฏิรูปการเมืองให้ทีหรือ?
ฎีกาประมุขรัฐหรือ?
บุกยึดสถานที่ราชการไม่ยอมออกและระดมมวลชนให้ช่วยมาปกป้องตัวเองทีกระนั้น
หรือ?
ถ้าทำแบบนี้ที่โน่น จะชนะหรือ? จะ make sense หรือ?
ก็คงไม่ ใช่ไหมครับ เรียกว่า crazy & go berserk
ชิบเป๋งเลย
ชาวบ้านชาวเมืองที่นั่นคงพากันงงเป็นไก่ตาแตกและหัวเราะท้องคัดท้องแข็งว่า
กำลังเล่นตลกอะไรกันหว่า...
ถ้าอยากชนะที่นั่นก็ต้องสู้ในสภาและสนามเลือกตั้ง
สร้าง/ปรับพรรคใหม่ สร้าง/ปรับแนวทางนโยบายใหม่ สร้าง/ปรับองค์การจัดตั้ง
หัวคะแนนผู้ปฏิบัติงาน เครือข่ายพันธมิตรใหม่
เพื่อสะสมกำลังรอกระโดดเข้าต่อสู้ในเวทีเลือกตั้งรอบหน้ากับพรรครัฐบาลให้
ชนะ
แต่การที่เขาไม่ทำแบบนั้น แต่กลับเลือกทำแบบนี้ที่นี่
เป็นชุดเป็นแบบแผนอันเดิมอันเดียว ซ้ำรอยที่พันธมิตรฯทำเมื่อปี 2549 + 2551
และ "เชื่อมั่น" ว่ามีทางจะชนะ ล้มรัฐบาล/รัฐสภาและฉีกรัฐธรรมนูญได้สำเร็จ
จนยอมเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงติดคุกติดตะรางหรือกระทั่งเสี่ยงชีวิตนั้น
สะท้อนว่าเขาเห็นและมันมีอะไรบางอย่างในโครงสร้างการเมืองการปกครอง
"ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"
ของเราที่เปิดช่องทางโอกาสให้พวกเขาคาดหวังอย่างนั้นได้
"โครงสร้างโอกาสทางการเมือง" (political opportunity
structure) ภายในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดังกล่าว
ที่เปิดช่องให้ล้มรัฐบาล/รัฐสภาและฉีกรัฐธรรมนูญได้แบบที่พันธมิตรฯได้เคยทำ
และม็อบเทพเทือกกำลังพยายามทำ คืออะไร? อยู่ตรงไหน?
จะปิดช่องทางดังกล่าวเพื่อผลักดันความขัดแย้งทางการเมืองให้กลับเข้าไปใน
กติการะบบระเบียบของระบอบประชาธิปไตยจากการเลือกตั้งปกติได้อย่างไร?
น่าคิดนะครับ
อย่างไรก็ตาม มีคำเตือนของคาร์ล มาร์กซ
เกี่ยวกับเรื่องประวัติศาสตร์ซ้ำรอยน่าฟัง
สำหรับผู้กำลังคิดผลิตซ้ำ/ทำซ้ำประวัติศาสตร์ใหม่ได้ลองนำไปพินิจพิจารณา
เป็นอนุสติดังภาพประกอบด้านล่างนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น