แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เรามีก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบเยอะแค่ไหน?

ที่มา Thai E-News


PetroleumThai-infographic-Proved-Reserves-of-Oil
ที่มา http://whereisthailand.info

เราได้ยินกันมามากเรื่องของการ “ทวงคืน” พลังงานเชื้อเพลิงในไทย ตั้งแต่ว่า “ไทยเป็นซาอุฯ แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ไปจนถึงคำกล่าวที่ว่าเราเป็นประเทศส่งออกน้ำมันอันดับต้นๆ แต่กลับขายคนไทยแพง คำกล่าวเหล่านี้มีความเป็นจริงเท็จเพียงใด? และข้อเท็จจริงแล้วนั้นเป็นอย่างไร?
เริ่มจากคำถามที่ว่า จริงๆ แล้วเรามีทรัพยากรเชื้อเพลิงธรรมชาติแค่ไหน? ในการตอบคำถามนี้เราต้องพิจารณาตัวเลขหลายชุด ได้แก่
  • ปริมาณสำรองพิสูจน์แล้ว หมายถึงปริมาณปิโตรเลียมในแหล่งกำเนิดที่สามารถนำออกมาใช้ได้ซึ่งได้รับการยืนยันแล้ว
  • อัตรา การผลิต คือปริมาณที่บอกว่าเราสามารถผลิตปิโตรเลียมได้วันละเท่าใด เช่น ในบางประเทศอาจจะมีปริมาณสำรองมาก แต่มีการขุดขึ้นมาใช้ในอัตราที่น้อย เป็นต้น
  • จำนวน ปีที่สามารถผลิตได้ บอกเราว่าหากเราขุดทรัพยากรขึ้นมาใช้ในอัตราที่ขุดอยู่ในปัจจุบัน เราจะสามารถขุดขึ้นมาในอัตรานี้ไปได้อีกกี่ปีก่อนที่จะหมด คำนวนโดยนำปริมาณสำรองพิสูจน์แล้วหารด้วยอัตราการผลิต
  • อัตรา การบริโภค คือปริมาณการใช้ทรัพยากรนั้นในแต่ละวัน สำหรับบางประเทศอาจจะมีอัตราการผลิตที่สูงเกินพอความต้องการบริโภค เช่นกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน แต่สำหรับบางประเทศอาจพบว่าอัตราการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในแต่ละ วัน ดังนั้นจึงต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
ข้อมูลจากรายงาน “ถาม-ตอบยอดฮิต จากการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย[1]ซึ่งอ้างอิงข้อมูลมาจาก “BP Statistical Review of World Energy 2012[2] พบว่าประเทศที่น่าสนใจต่างๆ มีสถิติเกี่ยวกับทรัพยากรเชื้อเพลิงธรรมชาติ ดังนี้
ก๊าซธรรมชาติ[1]
ลำดับประเทศปริมาณสำรองพิสูจน์แล้ว
(ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต)
อัตราการผลิต
(ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน)
จำนวนปีที่ผลิตก๊าซธรรมชาติได้
(ปี)
อัตราการบริโภค
(ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน)
1รัสเซีย1,574.980.058773.470.0411
5สหรัฐอเมริกา299.820.063013.040.0668
6ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย287.820.009682.130.0096
13สาธารณรัฐประชาชนจีน107.750.009929.760.0127
14สาธารณรัฐอินโดนีเซีย104.710.007339.220.0037
15มาเลเซีย86.010.006039.410.0028
42ไทย9.940.00367.610.0045
PetroleumThai-infographic-Proved-Reserves-of-Natural-Gas
น้ำมันดิบ[1]
ลำดับประเทศปริมาณสำรองพิสูจน์แล้ว
(ล้านบาร์เรล)
อัตราการผลิต
(บาร์เรลต่อวัน)
จำนวนปีที่ผลิตน้ำมันดิบได้
(ปี)
อัตราการบริโภค
(บาร์เรลต่อวัน)
1สาธารณรัฐโบลีวาร์แห่งเวเนซุเอลา296,5002,720,300298.62831,960
2ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย265,40011,161,00065.152,856000
8สหพันธรัฐรัสเซีย88,18010,280,00023.502,961,000
11สหรัฐอเมริกา30,8707,841,00010.7918,835,470
15สาธารณรัฐประชาชนจีน14,7104,089,6609.869,758,000
23มาเลเซีย5,860572,97028.02608,000
26สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม4,400328,15036.74358,000
28สาธารณรัฐอินโดนีเซีย4,040941,75011.751,430,000
29ออสเตรเลีย3,870483,66021.941,003,000
47ไทย440345,1303.511,080,000
PetroleumThai-infographic-Proved-Reserves-of-Oil
จากตัวเลขเหล่านี้ จะเห็นว่าประเทศที่เป็นแหล่งผลิตและสะสมน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติใหญ่ในโลก ได้แก่ประเทศรัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย ฯลฯ ส่วนอีกหลายประเทศแม้จะมีการผลิตน้ำมันดิบที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน ฯลฯ
สำหรับประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น พบว่ามีปริมาณสำรองและอัตราการผลิตน้ำมันดิบที่ค่อนข้างน้อย และไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ แต่มีก๊าซธรรมชาติในปริมาณที่มากกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น โดยในกรณีมาเลเซียและอินโดนีเซียนั้นสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้มากกว่าความ ต้องการบริโภคในแต่ละวัน
สำหรับประเทศไทย เรามีก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบสำรองที่พิสูจน์แล้วอยู่ลำดับที่ 42 และ 47 ของโลกตามลำดับ แต่อัตราการผลิตของเราไม่เพียงพอต่ออัตราการบริโภคในแต่ละวัน เราผลิตก๊าซธรรมชาติได้เพียง 80% และผลิตน้ำมันดิบได้เพียง 32% ของความการบริโภคภายในประเทศในแต่ละวัน ยิ่งไปกว่านั้น หากเรายังคงผลิตด้วยอัตรานี้ เราจะมีก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบเหลือต่อไปเพียง 7.6 และ 3.5 ปี ตามลำดับ
เห็นได้ว่า หากเราดูอัตราการผลิตเทียบกับอัตราการบริโภคและปริมาณสำรองที่เหลืออยู่แล้ว สถานการณ์พลังงานของเรานับได้ว่าอยู่ในขั้น “ค่อนข้างวิกฤต” และห่างไกลจากการเป็น “ซาอุฯ​ แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ที่หลายๆ คนกล่าวอ้างยิ่งนัก
แล้วทุกวันนี้เราเอาน้ำมันที่ไหนมาเสริมความต้องการที่เกินกว่าอัตราการ ผลิต? คำตอบย่อมเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากการนำเข้า ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ต้องพึ่งการนำเข้าทรัพยากรเชื้อ เพลิงจากต่างประเทศ

ข้อมูลอ้างอิง:

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น