(ที่มา:ข่าวหน้า1 มติชนรายวัน 5 ก.ค.)
"พงศ์เทพย้ำพ.ร.บ.กู้ไม่ขัดรธน.
ภาย หลังนายคณิต ณ นคร ประธาน คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ระบุว่า ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง พ.ศ.... วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดรัฐธรรมนูญหมวดที่ 8 ว่าด้วยการเงิน การคลังและงบประมาณ มาตรา 169 บัญญัติไว้ว่าการจ่ายเงินแผ่นดินจะกระทำได้เฉพาะที่ได้อนุญาตไว้ในกฎหมายว่า ด้วยงบประมาณรายจ่าย กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ กฎหมายเกี่ยวด้วยการโอนงบประมาณ หรือกฎหมายว่าด้วยการเงินคงคลัง เมื่อการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เป็นการกู้ซึ่งอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกระทรวงการคลัง เงินจึงเป็นเงินของแผ่นดิน ซึ่งในการจ่ายเงินแผ่นดิน นั้นจะต้องเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ การตราเป็น พ.ร.บ.นอกเหนือจากวิธีการตามที่กำหนด จึงอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ล่า สุด เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า ไม่ขัดแน่นอน เพราะว่าเงินที่กู้มาไม่ถือว่าเป็นเงินแผ่นดิน จึงสามารถใช้จ่ายเงินงบประมาณนี้ได้ และที่ผ่านมามีการกู้เงินลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง หลายรัฐบาล เมื่อถามว่า เคยมีการกู้เงินที่มีระยะเวลาโครงการ 7 ปี ซึ่งมีผลผูกพันกับหลายรัฐบาลมาก่อนหรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า เคยมี แต่จะผูกพันขนาดไหน ไม่มีข้อมูล แต่ว่าการกู้แล้วมาใช้หลายปีเคยมีอยู่ แม้กระทั่ง พ.ร.บ.กู้เงินบางฉบับในสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ใช้อยู่ขณะนี้ ก็เป็นการใช้เงินในโครงการต่างๆ ของรัฐบาลชุดเดิมๆ อยู่
อ้างเคยออกมาหลายฉบับ
เมื่อ ถามว่า เป็นเพราะเป็นการกู้เงินก้อนใหญ่กว่าการกู้ครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นเงินก้อนใหญ่หรือก้อนเล็ก เพราะประเด็นที่โต้แย้งกันคือ เป็นเงินแผ่นดินหรือไม่ เพราะฉะนั้นเมื่อถือว่าเงินก้อนนี้ไม่ใช่เงินแผ่นดินถือว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่าหลักการตีความยึดหลักอย่างไร เหตุใดนักกฎหมายหลายคนถึงตีความว่าขัดรัฐธรรมนูญ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ถ้าพูดว่าเป็นเงินแผ่นดินหรือไม่ โดยที่ผ่านมามี พ.ร.บ.ให้กู้เงินทำนองนี้มาหลายฉบับแล้ว และไม่มีเคยมีประเด็นที่บอกว่าตรงนี้เป็นเงินแผ่นดิน ดังนั้น เมื่อบอกว่ากู้มาแล้วไปใช้ได้ จึงถือว่าไม่เป็นเงินแผ่นดิน และไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า มือกฎหมายระดับนายคณิตบอกว่าขัดรัฐธรรมนูญ นายพงศ์เทพกล่าวว่า ลองคิดดูว่า พ.ร.บ.อื่นๆ แบบเดียวกันและก็มีมือกฎหมายไม่ว่าจะกี่ระดับ ผ่านกฤษฎีกา ผ่านสารพัดขั้นตอน เมื่อเข้ามาสภาก็บอกว่าไม่ขัด และที่ผ่านมาทำมาหลายฉบับแล้วŽ เมื่อถามว่า ถ้ามีผู้ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ นายพงศ์เทพกล่าวว่า ไม่เป็นไร แต่จะเห็นว่าที่ผ่านมาไม่มีการกู้เงินที่พิสดารอะไรเลย
ชี้ฝ่ายสภาตรวจสอบได้
นาย พงศ์เทพกล่าวว่า ส่วนที่นายคณิตให้ข้อแนะนำเรื่องการรับฟังความคิดเห็น การประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และผลกระทบทางสุขภาพ (เอชไอเอ) รัฐบาลจะต้องดำเนินการแน่นอน และฝ่ายนิติบัญญัติสามารถตรวจสอบการใช้เงินได้ เพราะมีอำนาจที่จะสอบถาม ตั้งกระทู้ แม้กระทั่งการไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะฝ่ายนิติบัญญัติมีคณะกรรมาธิการที่สามารถเข้าไปตรวจสอบและเรียกมาสอบ ถามได้ว่าเงินที่กู้มาใช้ทำอะไรบ้าง มีความคืบหน้าอย่างไร ตลอดเวลา เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าโครงการ 2 ล้านล้านบาท และโครงการบริหารน้ำ 3.5 แสนล้านบาท จะทำให้กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล นายพงศ์เทพกล่าวว่า รัฐบาลตั้งใจและจำเป็นที่ต้องทำ เพราะเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ถือว่าคุ้มค่ากับการทำ
ถกคำสั่งบริหารน้ำ5ก.ค.
นาย พงศ์เทพในฐานะคณะกรรมการกลั่นกรองศึกษาคำพิพากษาศาลปกครองคดีการใช้งบประมาณ ตามโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน กล่าวว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาให้เร็วที่สุด ทั้งนี้จะประชุมคณะกรรมการครั้งแรกในวันที่ 5 กรกฎาคม คงจะยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะเป็นการประชุมกรรมการครั้งแรก
"น่า เสียดายที่ศาลไม่ได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องไปถามประเด็นนี้ ปกติถ้าเป็นในต่างประเทศจะมี เช่น เวลาที่เรียกว่าการแถลงด้วยวาจา ศาลติดใจอะไรอยู่ ศาลจะถามคู่ความว่าประเด็นต่างๆ เป็นอย่างไร แต่เผอิญคดีนี้หลายประเด็นไม่มีการถามคู่ความในประเด็นนี้ เลยไม่มีโอกาสที่จะอธิบายประเด็นที่เป็นข้อสงสัย"Ž นายพงศ์เทพกล่าว
สุรนันทน์ร่อนเมล์โต้คณิต
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ส่งอีเมล์ไปยังผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล เพื่อชี้แจงกรณี พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ว่า มาตรา 169 ของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ไม่ได้บัญญัติครั้งแรก แต่ใช้ตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2492 และได้ใช้มาตลอด (รัฐธรรมนูญ 2511, 2517, 2521, 2534, 2538 และ 2540) ระหว่างใช้รัฐธรรมนูญเหล่านี้ ได้มีการตรา พ.ร.บ.กู้เงินตามวัตถุประสงค์เฉพาะเรื่องหลายฉบับควบคู่กันไปกับ พ.ร.บ.รายจ่ายประจำปี เช่น ในรัฐธรรมนูญปี 2550 มีการตรา พ.ร.บ.กู้เงิน คือ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทาง เศรษฐกิจ พ.ศ.2552 (ไทยเข้มแข็ง) แสดงให้เห็นแนวทางปฏิบัติที่ยึดถือมาต่อเนื่องว่า บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญที่ว่า การจ่ายเงินแผ่นดินจะกระทำได้ก็เฉพาะที่ได้อนุญาตไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบ ประมาณรายจ่ายนั้น หมายถึงรายจ่ายที่จะจ่ายจากเงินแผ่นดินซึ่งหมายถึงเงินที่อยู่ในบัญชีคลัง ตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง ส่วนเงินกู้มิใช่เป็นเงินแผ่นดิน เพราะเป็นเงินที่มิได้ส่งบัญชีคลัง แต่เป็นเงินกู้จากแหล่งเงินอื่น
ยันฟังความเห็นประชาชน
นาย สุรนันทน์ระบุว่า การใช้จ่ายเงินกู้จะกำหนดวัตถุประสงค์การใช้จ่ายที่ชัดเจน มิใช่การหลีกเลี่ยงการควบคุมการใช้จ่ายตามระบบงบประมาณ และได้มีการกำหนดมาตรการควบคุมไว้ในร่าง พ.ร.บ.ด้วย โดยกำหนดบัญชีแนบท้ายซึ่งแสดงยุทธศาสตร์ แผนงาน และวงเงินอย่างชัดเจน แตกต่างจากกฎหมายการกู้เงินที่ผ่านมาทุกฉบับที่ไม่เคยกำหนดกรอบวงเงินไว้ใน กฎหมาย ส่วนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพนั้น สำหรับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เข้าข่ายต้องจัดทำรายงานวิเคราะห์ต่อผล กระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศดังกล่าว รัฐบาลได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนมาโดยตลอดผ่านช่องทางที่สามารถ เข้าถึงประชาชนได้ในทุกระดับ ทั้งการจัดนิทรรศการ สื่อสิ่งพิมพ์ ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์และวิทยุ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง รวมทั้งสามารถเสนอแนะข้อคิดเห็นได้ด้วย รัฐบาลจะต้องดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 และระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ.2548 อย่างเคร่งครัดทุกขั้นตอน
อุดมเดชเดินหน้าวาระ2-3
นาย อุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.) และที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ข้อเสนอของ คปก.ไม่กระทบต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ในเดือนสิงหาคมนี้ เพราะร่าง พ.ร.บ.ต้องเข้าสู่การพิจารณาต่อในวาระ 2 และ 3 ตามอำนาจหน้าที่ของสภา การจะตรวจสอบว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ต้องรอให้ผ่านการพิจารณาของสภาและวุฒิสภาเสร็จสิ้นแล้วเท่านั้น
กมธ.ชี้ข้อเสนอคปก.ไร้ผล
นาย ไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พท. ในฐานะรองประธานกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน กล่าวว่า ในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ กมธ.จะมีการประชุมนัดสุดท้ายเพื่อพิจารณาในรายละเอียดก่อนนำเสนอให้ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาบรรจุเข้าระเบียบวาระ เชื่อว่าความเห็นของ คปก.จะถูกนำไปพิจารณาในชั้นแปรญัตติและจะถูกหยิบยกมาอภิปรายประกอบในวาระ 2 ที่จะมีการพิจารณาต่อไป ข้อเสนอดังกล่าวจะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการพิจารณาที่ผ่านมาของ กมธ.
เด็กพท.อัดคณิตทำนอกหน้าที่
นาย สงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พท. กล่าวว่า คปก.เป็นหน่วยงานที่ถูกตั้งขึ้นโดยรัฐธรรมนูญปี 2550 ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยังให้คงอยู่ต่อไป มีอำนาจหน้าที่ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเรื่องข้อกฎหมาย แต่ไม่มีอำนาจที่จะแก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมายได้ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของสภาในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้น การให้ความเห็นว่าร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 ถือเป็นสิ่งที่พอรับฟังได้ แต่หากจะบอกว่าการออกร่างกฎหมายดังกล่าวจะไม่คุ้มค่าการลงทุนจะมีผลกระทบต่อ ประเทศในระยะยาว เสนอให้ลดวงเงินกู้ หรือจัดทำเป็นวิธีการงบประมาณปกติถือว่านอกเหนือหน้าที่ของ คปก. ควรจะรู้หน้าที่ว่าตนเองควรจะมีบทบาทอย่างไร
มท.เล็งทำประชาพิจารณ์น้ำ
นาย วิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงได้รับมอบหมายให้ทำประชาพิจารณ์โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท จะประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการชี้แจงทำประชาพิจารณ์ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการโดยให้ความเป็น ธรรมในการชดเชยและชี้แจงให้เข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องเสียสละให้กับส่วนรวม
40ส.ส.ขอลุยโหวตนิรโทษส.ค.นี้
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พท. 1 ใน 40 ส.ส.ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กล่าวว่า ยืนยันว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นี้ยังอยู่ในวาระการประชุมลำดับแรก ยังไม่มีใครมาเบียดร่าง พ.ร.บ.นี้ได้ เพราะได้รับการลงมติให้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อนด้วยเสียง ส.ส.ที่สนับสนุน 283 เสียง เมื่อเปิดประชุมรัฐสภาสมัยสามัญทั่วไป ในเดือนสิงหาคมนี้จะต้องให้มีการอภิปรายเพื่อรับหลักการในวาระแรกทันที ทั้งนี้ ก่อนเปิดประชุมรัฐสภา ตนและนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พท. จะแถลงข่าวถึงความชัดเจนในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ส่วนร่าง พ.ร.บ.อื่นจะมาแซงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไม่ได้
"ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ขณะนี้ฝ่ายค้านใช้สิทธิจะขอแปรญัตติกว่า 100 คน แม้เป็นสิทธิของ ส.ส. แต่ถ้ามีการอภิปรายซ้ำซากในสภา ประธานสภาจะต้องกำหนดเวลาด้วย ถ้าร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทไม่ผ่าน รัฐบาลจะต้องยุบสภาอย่างเดียว"Ž นายสมคิดกล่าว
จุรินทร์นัดวิปถก16ก.ค.
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีที่นายคณิตระบุว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ส่อขัดกฎหมายและรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ว่าได้รับหนังสือจากนายคณิตต่อเรื่องดังกล่าวแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม เบื้องต้นมีความเห็นใกล้เคียงกัน จึงได้มอบหมายให้นำความเห็นดังกล่าวเข้าประกอบการพิจารณาในวิปฝ่ายค้านในวัน ที่ 16 กรกฎาคมนี้
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า หากร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ผ่านชั้นนิติบัญญัติแล้วและมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย ทางกลุ่ม 40 ส.ว. จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเอาผิดกับรัฐบาลอย่างแน่นอน ความเห็นของนายคณิตไม่ช้าเกินไป เนื่องจากเป็นการให้ความเห็นหลังจากที่มีการพิจารณาและวิเคราะห์อย่างรอบคอบ แล้ว รัฐบาลที่ลุแก่อำนาจยังคงเดินหน้าประเด็นดังกล่าว ดังนั้น ประเด็นนี้เชื่อจะทำให้เป็นจุดตายของรัฐบาล และภายในเดือนเมษายน 2557 รัฐบาลคงจะอยู่บริหารประเทศไม่ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น