ผมทำงานเรื่องน้ำมานาน ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าโมดุลทั้ งหลายในชุดโครงการ 3.5 แสนล้าน มาจากไหน ทั้งเขื่อน แก้มลิงล้านไร่ ฟลัดเวย์ ฯลฯ จนวันนี้ยังไม่เห็นว่ามี การศึกษาชิ้นไหนระบุว่าชุ ดโครงการนี้จะแก้ปัญหาน้ำ ท่ วมได้ เพราะส่วนหนึ่งของรากเหง้าปั ญหาน้ำท่วมคือ การใช้ที่ดินอย่ างไม่มีการวางแผน เมือง บ้านจัดสรร โรงงานไปอยู่ในที่น้ำหลากตามธรรมชาติ ทำลายพื้นที่รับน้ำตามธรรมชาติ
ผมเองก็คงเหมือนคนส่วนใหญ่ในสั งคมไทยไม่รู้จักบริษัทเควอเตอร์ ดีพอ และไม่รู้เหตุผลที่แท้จริ งว่าทำไมบริษัทนี้ถึงได้รั บการคัดเลือกให้ดำเนิ นโครงการฟลัดเวย์และแก้มลิง
เมื่อทราบว่าเค วอเตอร์ ทีสัญชาติเป็นเกาหลี ก็คิดถึงเพื่อนที่เกาหลี ซึ่ งเป็นคนทำงานด้านสิ่งแวดล้ อมในประเทศเกาหลีใต้ เคยประชุ มร่วมกันหลายหน และคราวประชุ มอนุสัญญาแรมซาร์ ครั้งที่ 9 ที่เกาหลีก็ได้ไปดู งานก่อน จึงติดต่อให้ช่วยมาให้ ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนิ นการของเค วอเตอร์ในเกาหลีหน่อย ก็ได้ การตอบรับว่ายินดีมาและขอดูพื้ นที่พบปะชาวบ้าน ทางเราจึงขอว่ าอาจจะมีการจัดแถลงข่าวด้วยหลั งลงพื้นที่ ซึ่งเขาเขาก็ยินดี
ลงพื้นที่ครั้งนี้มีคุณยัม ฮคองเชิล ผอ.องค์กรสิ่งแวดล้อมเกาหลี KFEM ที่เคยทำงานกันมานานเป็นสิ บปี เราร่วมงานกันในเครือข่าย Rivers Watch East and Southeast Asia-RWESA เมื่อปี 2546 เราเคย จัดการประชุมนานาชาติของผู้เดื อดร้อนเรื่องเขื่อน ระดับโลกครั้งที่ 2 ที่เขื่ อนราษีไศล ยัมและเพื่อนๆ จากเกาหลีก็มาร่วมประชุม ตอนนั้ นเขาร่วมกับนักสิ่งแวดล้ อมและชาวบ้านตรวจสอบโครงการเขื่ อนหลายแห่งใน เกาหลี โดยเฉพาะเขื่อนกั้นแม่น้ำฮัน ที ่ถูกคัดค้านหนักเพราะผลกระทบสิ่ งแวดล้อม
ในแวดวงสิ่งแวดล้อมเกาหลี KFEM เป็นองค์กรใหญ่มากและเป็นหั วหอกในหลายด้านโดยเฉพาะการตั้ งคำถามต่อโครงการพัฒนาใหญ่ๆ ของทั้งภาครัฐและเอกชน โครงการใ หญ่ล่าสุดที่ตรวจสอบกันอย่างหนั ก คือโครงการ 4 แม่น้ำสายหลัก 4 Major Rivers Project ที่สร้างเขื่อนเกือบ 20 แห่ง และขุดลอก/เทคอนกรีตแม่ น้ำสายหลักของเกาหลี จนเหลือสภาพเป็นแค่คลองระบายน้ำ ระบบนิเวศพังยับเยิน และนี่คือโครงการที่เควอเตอร์ ทำในเกาหลี
ยัม ร่วมเดินทางลงพื้นที่ตำบลชมภู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก และ หลายพื้นที่ในจ.นครสวรรค์ พร้อมกับสื่อหลายสำนัก ข้อมูลที่ได้จากเขา ชัดเจนว่ าในเกาหลีเองโครงการที่ผ่ านมาสร้างความเสียหายต่อระบบนิ เวศมาก ทั้งที่การแก้ปัญหาน้ำท่ วม-น้ำแล้ง ก็ยังไม่มีข้อมูลรองรับว่าจะแก้ ได้จริง ยิ่งมาเห็นพื้นที่เหนื อปากน้ำโพ ที่จะกลายเป็นแก้มลิงขนาดเป็นล้ านไร่ และฟลัดเวย์ตั้งเกือบ 300 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 7 จังหวัด ถือเป็ นโครงการใหญ่ เขารู้สึกเป็นห่ วงเพราะไม่แน่ใจว่าเควอเตอร์ จะสามารถทำโครงการได้จริง
ล่าสุ ดในรายงานตรวจสอบโครงการโดยคณะก รรมการตรวจเงินและประเมิน ของเก าหลี(คล้ายๆกับสำนักงานตรวจเงิ นแผ่นดิน หรือสตง. บ้านเรา) ชี้ว่าโครงการ 4 แม่น้ ำสร้างผลกระทบสิ่งแวดล้อมมาก โด ยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้ อมทางน้ำจากเขื่อน 16แห่งและอื่ นๆ ทำให้เกิดมลภาวะ สาหร่ายเขียวแพร่กระจาย รายงานแ นะนำว่าควรเปิดเผยข้อมูลต่ อสาธารณะตั้งแต่ต้น รายงานนี้ ออกมาเมื่อเดือนเมษา (หาอ่านได้ http://english.bai.go.kr/ )
กลับมามองบ้านเรา เห็นได้ชัดว่าเริ่มมีสั ญญาณแปลกๆ จากรัฐบาลเกาหลีมาตั้ งแต่ต้นเมื่อครั้งที่ชาวบ้านเดิ นทางไปยื่นจดหมายที่สถานเอกอั คราชทูตเกาหลีใต้ตอนปลายเดื อนพฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ สถานฑูตเขาก็อีเมลตอบสั้นๆ ถามย ้อนกลับมาอีกว่าเราไปยื่ นจดหมายที่สถานฑูตจีนด้วยหรื อเปล่า ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ าเขาถามเพื่ออะไร ครั้งนี้ก็เช่นกันทูตเกาหลี ออกมาแจงแทนบริษัทเควอเตอร์ ทั้งๆที่ยังไม่เคยได้ยินข่าวว่ าลงไปดูพื้นที่เลยและไม่รู้ว่ าประชาชนไทยจะต้ องประสบะตากรรมเยี่ยงไร หากปล่ อยให้เควอเตอร์ดำเนินโครงการ จริงๆแล้วสถานทูตควรเป็นตั วแทนของประชาชนชาวเกาหลี มิใช่เป็นตัวแทนบริษัท ที่สำคั ญควรคำนึงถึงความรู้สึ กของประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ ของบริษัท
คุณยัมได้ถ่ายทอดประสบการที่เกิ ดขึ้นในเกาหลีให้พวกเราฟังอย่ างตรงไปตรงมา แถมยังก็อปปี้ข้ อมูลให้ผู้ที่สนใจโดยไม่หวงเลย ตั้งแต่เรื่องผลกระทบด้านสิ่ งแวดล้อมตลอดจนถึงเรื่องที่มาที ่ไปและสถานการณ์ ของเค วอเตอร์ ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมไทยไม่ เคยรับรู้มาก่อน และเมื่อคุณยั มกลับไปถึงประเทศ เขาก็ต้องพบกับสถานการณ์ยุ่ งยากหลายอย่างแต่องค์กรที่ เขาทำงานอยู่เป็นองค์กรใหญ่ มีสมาชิกทั่วประเทศกว่า 8 หมื่ นคน มีความหนักแน่น แม้จะถู กคนของรัฐบาลเกาหลีวิพากษ์วิ จารณ์ตลอดจนถูกเค วอเตอร์ฟ้องร้ อง
ผมคิดว่าการที่เค วอเตอร์ แสดงท่าทีอันไม่เป็นมิ ตรกับการตรวจสอบหรือการมีส่วนร่ วมของประชาชนไทยเช่นนี้ตั้งแต่ ต้น น่าจะทำให้การทำงานของเค วอเตอร์ในประเทศไทยลำบาก เพราะเพี ยงแค่การเปิดโอกาสให้นักสิ่ งแวดล้อมเกาหลีมาให้ข้อมูลต่อสั งคมไทยคุณยังเกิดปฎิกริยาขนาดนี้ แล้วอนาคตที่มีการตรวจสอบกั นอย่างเข้มข้น มิทำให้ความขั ดแย้งยิ่งขยายวงกว้างหรือ
น้องๆ นักข่าวหลายคนเล่าให้ผมฟังว่า ห ลังจากที่คุณยัมมาเปิดประเด็ นและเป็นข่าวใหญ่ปรากฎว่าได้มี กลุ่มบุคคลที่อ้างว่าเป็นฝ่ ายประชาสัมพันธ์ของเควอเตอร์ เที่ยวโทรศัพท์ไปตามสำนักข่าวต่ างๆ เพื่อหาตัวคนทำข่าว พร้อมทั้ งพยายามให้ข้อมูลในลักษณะที่ ลดความน่าเชื่อถือต่อคุณยั มและคนที่ชักชวนคุณยัมมาเมื องไทย บุคคลกลุ่มนี้ยั งพยายามหารายละเอียดของผู้ที่ เกี่ยวข้องกับการเดินทางของคุ ณยัม ถึงขนาดถามหาสถานที่ตั้งของที่ ทำงาน
ผมคิดว่าวิธีการในลักษณะนี้ส่ อไปในทาง “คุกคาม”เสียมากกว่า แ ทนที่จะให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่ งมาหักล้างสิ่งที่คุณยัมนำเสนอ ผมยังเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ ของสื่อมวลชนไทยในการแสวงหาข้ อเท็จจริงในมุมต่างๆให้ปรากฎ ข้ อมูลที่คุณยัมนำมาอธิบายให้สั งคมไทยได้รับรู้นั้น วันนี้ บางส่วนปรากฎชั ดจากรายงานการตรวจสอบของ สตง. เกาหลีถึงความเสียหายด้านสิ่ งแวดล้อมที่เกิดขึ้ นในประเทศของเขาซึ่งเป็นหั วใจสำคัญที่เราเป็นห่วงว่ากำลั งจะเกิดขึ้นในบ้านเรา
เมื่อค้นเข้าไปในแหล่งข้อมู ลพบว่า เคยมีผู้ทรงอิทธิ พลนอกประเทศเดินทางไปพบเค วอเตอ ร์ก่อนที่ กบอ.จะตัดสินใจเลื อกบริษัทเหล่านี้ให้ชนะการประมู ล ยิ่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกั บความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น จนมีนักศึกษาไทยในเกาหลีได้เขี ยนบทความมาอีกหลายชิ้น ชี้ให้ เห็นพฤติกรรมของเค วอเตอร์ ในโครงการแม่น้ำ 4 สายในเกาหลี ด้วยข้อมูลตรงไปตรงมา
ผมเชื่อว่าอีกไม่นาน สั งคมไทยคงได้รับรู้ข้อมู ลและความเลวร้ายที่เกิดขึ้ นในแม่น้ำสายต่างๆ ของเกาหลี มากขึ้น และเราไม่ควรเพิกเฉยกับบทเรี ยนเหล่านั้น
ผมเองก็คงเหมือนคนส่วนใหญ่ในสั
เมื่อทราบว่าเค วอเตอร์ ทีสัญชาติเป็นเกาหลี ก็คิดถึงเพื่อนที่เกาหลี ซึ่
ลงพื้นที่ครั้งนี้มีคุณยัม ฮคองเชิล ผอ.องค์กรสิ่งแวดล้อมเกาหลี
ในแวดวงสิ่งแวดล้อมเกาหลี KFEM
ยัม ร่วมเดินทางลงพื้นที่ตำบลชมภู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก และ หลายพื้นที่ในจ.นครสวรรค์ พร้อมกับสื่อหลายสำนัก ข้อมูลที่ได้จากเขา ชัดเจนว่
ล่าสุ
กลับมามองบ้านเรา เห็นได้ชัดว่าเริ่มมีสั
คุณยัมได้ถ่ายทอดประสบการที่เกิ
ผมคิดว่าการที่เค วอเตอร์ แสดงท่าทีอันไม่เป็นมิ
น้องๆ นักข่าวหลายคนเล่าให้ผมฟังว่า ห
ผมคิดว่าวิธีการในลักษณะนี้ส่
เมื่อค้นเข้าไปในแหล่งข้อมู
ผมเชื่อว่าอีกไม่นาน สั
นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเกาหลี เขายืนยันที่จะติดตามโครงการต่อ เพราะส่วนหนึ่งเป็นเงินภาษี ของคนในประเทศเขาที่จะต้ องมาการันตีโครงการ สำหรั บคนไทยเอง โครงการนี้ก็เป็นเงิ นกู้ก้อนใหญ่ ซึ่งสุดท้ายทุกคนต้องร่วมกันรั บผิดชอบทั้งต้นและดอกเบี้ย ใช้ หนี้กันยาวนานไปยันชั่วลูกชั่ วหลาน
เพราะฉะนั้นทุกคนจึงมีสิทธิ์ตั้ งคำถามและแสดงความกั งวลในโครงการ 3.5 แสนล้านบาทนี้ อย่าปล่อยให้คนเพียงไม่กี่คน ทำ ลายทรัพยากรของประเทศ แถมยังต้องใช้หนี้กันหัวโต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น