:นักประชาธิปไตยถก ‘ปล่อยนักโทษการเมือง’ ในวันศุกรที่ ๒๖ กรกฎาคม นี้ ที่ห้องราชา โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน ตั้งแต่เวลาบ่ายโมงตรงถึงสี่โมงครึ่ง
ท้าวความตามท้องเรื่อง โดยตัดตอนแต่เมื่อทนาย ประเวศ ประภานุกูล เขียนบนหน้าเฟชบุ๊คถึงการ ไปเยี่ยมคุณดา ตออร์ปิโด คุณสุรชัย และคุณสมยศ ที่ว่า
“คุณ
สุรชัยยังเชื่อว่าจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ
โดยแกเชื่อว่าเป็นสัญญาณจากสำนักราชเลขาธิการผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์
นอกจากนี้แกยังได้ข่าวจากสถานทูตเกาหลีว่าพรุ่งนี้จะมีการพระราชทานอภัยโทษ
ลงมา
แต่ยังไม่แน่ว่าเป็นคนเกาหลี หรือตัวแกเองกับคุณหนุ่มเมืองนนท์
แต่ถ้าพรุ่งนี้ไม่ได้พระราชทานอภัยโทษ ก็คงเป็นวันที่ ๑๒ สิงหาคมนี้”
ซึ่งก็เป็นความหวังของผู้ต้องขังในคดีคล้ายคลึงกันอีกหลายคน
ว่าวันที่ ๑๒ สิงหาคม อาจเป็นวันมหาปีติขิงพวกตนบ้างด้วยก็ดี
การณ์ปรากฏในวันที่ ๕ กรกฎาคม
มีข่าวใหญ่สำหรับคนเสื้อแดงว่า อภัยโทษ 'หนุ่ม เรดนนท์' ปล่อยตัวแล้ว
หลังจำคุกกว่า 3 ปี เป็นที่ปลาบปลื้มกันถ้วนหน้า กลุ่มปฏิญญาหน้าศาล อันมี รศ. ดร.สุดา
รังกุพันธุ์ หรืออาจารย์หวานเป็นผู้ประสานงานคนสำคัญได้จัดทำบายศรีสู่ขวัญกันครึกครื้น
หนุ่มเร็ดนนท์ หรือคุณธันย์ฐวุฒิ ทวีวโรดมกุล ชายไทยวัย ๔๑
ปีท่านนี้ มีความเป็นมาที่โยงใยกับปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยเกี่ยวกับนักโทษการเมือง
นักโทษทางความคิด และกฏหมาย Draconian Law พอดู
“เขาถูกจับกุมและคุมขังตั้งแต่วันที่ ๑ เม.ย. ๕๓ โดยไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างต่อสู้คดี หลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเขาตัดสินใจยื่นอุทธรณ์คดี
แต่ภายหลังได้ถอนอุทธรณ์ และขอพระราชทานอภัยโทษพร้อมกับ นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์
(แซ่ด่าน) ซึ่งถูกพิพากษาจำคุก ๑๒ ปีครึ่งจากมาตรา ๑๑๒ และนายวันชัย แซ่ตัน
ชาวสิงคโปร์ที่ถูกจำคุกจากมาตราเดียวกัน ๑๕ ปี อย่างไรก็ตาม
วันชัยได้รับพระราชทานอภัยโทษก่อนหน้านี้ และถูกส่งตัวกลับสิงคโปร์หลังจากได้รับการปล่อยตัว
เหลือเพียงสุรชัย แซ่ด่าน วัย ๗๑ ปี ที่ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ”
ไม่
เพียงเท่านั้น
ยังปรากฏความจริงตามข้อมูลอันเป็นวิทยาศาสตร์จากผลงานการวิจัยของศูนย์
ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม (ศปช.)
ระบุว่า
“จากข้อมูลที่ ศปช. เก็บรวบรวมได้ถึงวันที่ ๓๐
เมษายน ๒๕๕๕ พบว่า มีผู้ถูกจับจากเหตุการณ์ที่สืบเนื่องกับการชุมนุมตั้งแต่วันที่ ๑๒
มีนาคม ๒๕๕๓ ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
เป็นจำนวนทั้งสิ้น ๑,๘๕๗ คน ในจำนวนนี้ ต่อมาถูกดำเนินคดีอย่างน้อย ๑,๗๖๓ คน
โดยคิดเป็นจำนวนคดีทั้งสิ้น ๑,๓๘๑ คน ในศาล ๕๙ แห่ง ทั้งในกรุงเทพปริมณฑล
และต่างจังหวัด”
แม้นว่าผู้ได้รับเคราะห์กรรมเหล่านี้หลายต่อหลายคนอาจได้รับการปล่อยตัว
อีกทั้งตนเอง และครอบครัวอาจได้รับการเยียวยากันไปแล้ว แต่ก็ยังมีผู้ที่ยังติดค้างด้วยกับดักแห่งกฏหมายสถานการณ์ฉุกเฉินบ้าง
สถานการณ์ก่อการร้ายบ้าง
และสถานการณ์หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์อันทรงเป็นประมุขแห่งรัฐบ้าง ยังถูกจองจำในคุกกันอีกไม่ต่ำกว่า
๓๓ คนเป็น ซึ่งเป็นจำนวนไม่น้อยเมื่อคำนึงถึงการทนทุกข์ที่แต่และคน พร้อมด้วยครอบครัวของพวกเขาได้รับ
ศปช. “จึงได้จัดให้มีการชี้แจงด้วยเหตุผลบนหลักฐานอันประจักษ์ข้อเท็จจริง นอกเหนือไปจากหลักนิติธรรมสากล ซึ่งมีอยู่เกลื่อนกราดร้อยแปดพันประการ
หากแต่ยังไม่ค่อยมีตุลาการหยิบยกเอาไปใช้ให้บังเกิดสิทธิมนุษยธรรมที่ถ่องแท้
โดยระดมนักวิชาการ นักกิจกรรม นักกฏหมาย นักสื่อสาร
นักการเมือง และนักศิลปกรรม ที่ล้วนเข้าซึ้งถึงแก่นใจ และยึดมั่นเป็นสรณะในหลักการประชาธิปไตยสมบูรณ์ มาร่วมกันวิสัชนาอภิปราย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น