แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ครบ 3 ปี ลอบยิง "สนธิ ลิ้มทองกุล"

ที่มา Voice TV

 ครบ 3 ปี ลอบยิง "สนธิ ลิ้มทองกุล"


วันนี้ 17 เม.ย.2555 ครบรอบ 3 ปีเต็ม คดีอุกอาจสะเทือนขวัญ เมื่อคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มใส่รถ “นายสนธิ ลิ้มทองกุล”ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ

วันนี้ 17เม.ย.2555 ถือว่าเป็นวันที่ครบรอบ 3 ปีเต็ม คดีอุกอาจสะเทือนขวัญ เมื่อคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มใส่รถ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ โดยคนร้ายใช้อสวุธปืนสงครามยิงถล่มนับร้อยนัด บริเวณถนนสามเสน หน้าวัดเอี่ยมวรนุช สี่แยกบางขุนพรม ของเช้าตรู่วันที่ 17เม.ย.2552ในขณะที่ทางรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินในขณะนั้น


ความคืบแห่งคดีมีแค่เพียงการออกหมายจับ "ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ" สังกัด บช.ปส.ช่วยราชการดีเอสไอ "จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา" สังกัดศูนย์สงครามพิเศษลพบุรี และ "ส.อ.สมชาย บุนนาค" สังกัดกองร้อยกองบังคับการกรมรบพิเศษที่ 3 ค่ายเอราวัณ จ.ลพบุรีเท่านั้น ส่วนการดำเนินการในส่วนต่างๆ กลับเงียบหายไป แม้อดีตผู้ควบคุมคดีอย่าง"นายพลไม้บรรทัด" พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงภายหลังเกษียณอายุราชการลงก็ตาม แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่"เสือกระดาษ" ด้วยไม่มีมือไม้ และอำนาจการสั่งการที่จะทำให้คดีหมุนไปตามความตั้งใจได้
     
การลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล ถูกปฏิบัติการขึ้นเมื่อเวลา 05.45น. ของวันที่ 17เมษายน 2552 โดยนายสนธิ ถูกคนร้ายกราดยิงกว่า 100นัด ที่บริเวณปั๊มคาลเท็กซ์ หน้าวัดเอี่ยมวรนุช สี่แยกบางขุนพรหม ถนนสามเสน แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร ส่งผลให้ นายสนธิ ได้ถูกกระสุนฝั่งลึกในขมับด้านขวาครึ่ง ซม.จำนวน 4ชิ้น ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลฉีกขาดบริเวณใบหน้าด้านขวายาว 3ซม. บาดแผลฉีกขาดเล็กน้อยทั่วไปบริเวณข้อมือขวา และบาดแผลถลอกเล็กน้อยทั่วไปบริเวณลำตัวด้านข้างแถบขวา


นอกจากนี้ นายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถ ถูกยิงอาการสาหัส คมกระสุนเจาะเข้าทรวงอกด้านขวาและต้นแขนขวาและศีรษะ ทางคณะแพทย์โรงพยาบาลมิชชั่นได้รักษาด้วยการผ่าตัดสมอง ทรวงอก และกระดูกต้นแขนขวาโดยแพทย์ได้ผ่าเศษกระสุนทั้ง 3จุด คือ ที่บริเวณสมอง บริเวณท้ายทอย เนื้อสมองบางส่วนได้รับความเสียหาย ส่วนนายวายุพักตร์ มัตทะสิน ผู้ติดตามได้รับบาดเจ็บกระสุนถากที่ไหล่ซ้าย บาดเจ็บเล็กน้อย
     
ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบปลอกกระสุนปืนอาก้าจำนวน 64นัด กระสุนเอสเค 17นัด เอ็ม 16จำนวน 3นัด นอกจากนี้ยังพบรถยนต์โดยสารประจำทางสาย 53ที่วิ่งอยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุถูกกระสุนปืนได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และรถร่วมบริการฯ สาย 30ถูกกระสุนปืนเอ็ม 79จำนวน 1นัด แต่ไม่ระเบิด
     
ถ้าย้อนกลับไปดูการสืบสวนของชุดคลี่คลายคดี ก็มีพยานหลักฐานชิ้นสำคัญหลายชิ้นเริ่มปรากฏภาพที่ชัดเจนมากขึ้นตามลำดับที่ ทีมสืบสวนจะทำการแกะร่องรอยขยายผลเพื่อตามล่าหาความจริง ซึ่งคล้อยหลังเพียงวันเดียวที่ออกหมายจับผู้ต้องหา 2คนแรก ทีมชุดสืบสวนก็ได้พบรถต้องสงสัยของคนร้ายเป็นรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีเปลือกมังคุด หมายเลขทะเบียน บธ 1474ลพบุรี ซึ่งได้หลักฐานภาพวงจรปิดจากบริเวณที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง และได้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบต่อไป แต่ก็ยังไม่ปรากฏความคืบหน้าแต่อย่างใดกับรถต้องสงสัยคันดังกล่าวซึ่งรถคัน ดังกล่าวว่ากันว่า พ.อ.คนหนึ่ง ได้โทรศัพท์ไปขอยืมรถเพื่อนก่อนเกิดเหตุยิงนายสนธินั้น มีหลักฐานการใช้โทรศัพท์มือถือของเขา พบว่าเชื่อมโยงเกี่ยวข้องบุคคลและสถานที่ ซึ่งรวมไปถึง ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ อีกทั้งตำรวจยังพบว่า เบอร์โทร.หลักที่มีการโทร.เข้า-โทร.ออกกับทีมฆ่า ล้วนมาจากเบอร์ของ พ.อ.คนดังกล่าวทั้งสิ้น และพ.อ.คนดังกล่าว ก็คือบุคคลที่เป็นกุญแจดอกสำคัญนำไปสู่การไขปริศนาสาวถึง “ตอ” ตัวการใหญ่ได้

      

นอกเหนือจากรถของกลางต้องสงสัยแล้ว ปลอกกระสุนปืน RTA ก็ยังไม่ได้รับความกระจ่าง รวมทั้งการแกะรอยการใช้โทรศัพท์ของกลุ่มผู้ต้องหา ที่ถือว่า เป็นพยานหลักฐานชิ้นสำคัญ ในการนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3คน แต่จนถึงบัดนี้ ทุกอย่าง หยุดนิ่งคงที่ แม้ภายหลังพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เกษียณอายุราชการลง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ เข้ามารับตำแหน่งรักษาราชการผบ.ตร. ก็ไม่มีความคืบหน้าของคดี อีกทั้ง ยังไม่มีการแต่งตั้งใครเข้าไปรับผิดชอบเกี่ยวกับคดีโดยตรง นั่นจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คดีหยุดชะงัก แม้ภายหลัง พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา (สบ 10) ฝ่ายป้องกันและปราบปราม 5ซึ่งรับผิดชอบกำกับดูแลกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พล.ต.อ.ภาณุพงศ์จะเข้ามาสานต่อคดีนี้โดยตรง ซึ่งเป็นที่รู้กันดีในแวดวงสีกากีว่า ไม่มีใคร"อยากยุ่ง"กับคดีนี้นัก
     
เมื่อกลับไปดูคดีการลอบสังหารนายสนธิ หลังจากที่ชุดคลี่คลายคดีที่มี พล.ต.อ.ธานี เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ออกหมายจับผู้ต้องหาไปถึง 3คน แต่ยังไม่มีวี่แววว่า จะมีการควบคุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี หรือสอบปากคำเพิ่มเติมอะไรได้ มีเพียงแต่กระแสข่าวระบุออกมาว่า ผู้ต้องหายังคงกบดานอยู่ในประเทศไทย แต่ ณ เวลานั้น กลับมีข่าวออกมาจากปากต่อปากอีกว่า 3 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับไปนั้น อาจจะเหลืออยู่เพียง 2คนเท่านั้น โดยคนหนึ่งที่หายไป ยังไม่มีการยืนยันว่า หลบหนีออกไปนอกประเทศ หรือสาปสูญถึงแก่ชีวิตไปแล้ว

Source : manager
17 เมษายน 2555 เวลา 14:42 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น