แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ขบวนการเสื้อแดงจะไปทางไหน?

ที่มา ประชาไท


สิ่งที่น่าสนใจมากในช่วงเวลานี้ ไม่ใช่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะผ่านวุฒิสภา หรือไม่ เพราะเรื่องนี้คงถูกพับเก็บไว้อีกนาน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ขบวนการคนเสื้อแดงจะไปทางไหน นิรโทษกรรมฉบับ "เหมาเข่ง-สุดซอย" ได้ก่อให้เกิดความชัดเจนในการจัดกลุ่มแยกแยะสมาชิกในขบวนการ กลุ่มแดงก้าวหน้าผิดหวังกับเพื่อไทยและทักษิณ เช่นเดียวกับกลุ่มญาติผู้เสียชีวิต ในกลุ่มนี้รวมถึงมวลชนและแกนนำ นปช. (ธิดา ถาวรเศรษฐ และจตุพร พรหมพันธุ์) กรณียอมนิรโทษกรรมให้กับผู้สั่งฆ่า
ขณะที่กลุ่มแดงรักทักษิณยังคงยืนยันสนับสนุนให้แลก “คนสองคนกับผู้นำสูงสุด” ซึ่งหมายถึงแลกทักษิณ กับอภิสิทธิ์ สุเทพ ในกลุ่มนี้รวมมวลชนระดับรากหญ้า และกลุ่มเสื้อแดงสายพรรค (กลุ่มปฏิญญาหน้าศาล) แต่ไม่ว่าเป็นกลุ่มใด อาจแบ่งเสื้อแดงเป็นสองกลุ่มใหญ่คือ กลุ่มที่คัดค้าน นิรโทษกรรมสุดซอย กับกลุ่มที่ยอมรับนิรโทษกรรมเพื่อให้ทักษิณกลับบ้าน
แต่ไม่ว่าจะเป็นแดงกลุ่มใดต่างก็เผชิญหน้ากับความแตกร้าวในขบวนการ “โดนเพื่อไทย และทักษิณหลอก” และถูกย้ำด้วยวาทกรรม “เป็นควายเลิกกินหญ้า” ขณะเดียวกันทั้งสองกลุ่มก็เผชิญหน้ากันเองค่อนข้างรุนแรง
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ให้ความเห็นในวันที่ 3 พฤศจิกายน 56 ไว้ว่า
“นอก จากประเด็นนิรโทษให้ "คนสั่งฆ่า" ที่สร้างความไม่พอใจแก่มวลชนตัวเองอย่างมาก ใช้วิธีการผิดๆ ของการผลักดันกฎหมายในสภา (แปรญัตติเกิน, ลงมติตี 4 ไม่ให้แม่แต่ ส.ส.ตัวเองอภิปรายแปรญัตติ ฯลฯ) ซึ่งทำลายความชอบธรรมของเสียงข้างมากในกระบวนการสภา ที่ตัวเองเคยมีมาตลอด”
การทำลายความชอบธรรมของเสียงข้างมาก เป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากขบวนการเสื้อแดงอ้างประชาธิปไตย ความเป็นธรรม ความเสมอภาคมาโดยตลอด ซึ่งเป็นสิ่งตรงข้ามกับขบวนการฝ่ายตรงข้ามที่มักอ้าง คนดี มีศีลธรรมมาปกครองบ้านเมือง ไม่เอาเสียงส่วนใหญ่ที่ด้อยคุณภาพ

ดัง นั้น ขบวนการเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวมาจนถึงวันนี้จึงขาดความชอบธรรมลงในทันที นิรโทษกรรรมเหมาเข่ง กลายเป็นเครื่องชี้ชัดทำลายความชอบธรรม เรื่องประชาธิปไตยเสียงข้างมาก มวลชนผู้ตื่นรู้ ลงอย่างสิ้นเชิง
มวลชนที่เข้าร่วมการชุมนุม เคลื่อนไหว ไม่เอากฎหมายนิรโทษกรรมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เพียงปัจเจกบุคคลผู้เคยเข้าร่วมขบวนการเสื้อเหลือง แดง แต่กลายเป็นคนหนุ่มสาวหน้าใหม่ ตลอดจนองค์กร และกลุ่มอาชีพ ไม่ว่าจะเข้าร่วมด้วยเหตุผลใดที่แตกต่างกัน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกกลุ่มโกรธแค้นทักษิณ และเพื่อไทย ซึ่งเป็นสิ่งชี้ได้ว่าโอกาสของคุณทักษิณ ลดน้อยถอยลงทุกทีสำหรับการกลับมาประเทศไทย
พื้นที่ในสังคมการเมืองของคนเสื้อแดงจึงน้อยลงทุกที และถูกผลักให้กลายเป็นกองกำลังของทักษิณ และเพื่อไทยแทน เว้นแต่ว่า...
การประกาศของจตุพร พรหมพันธุ์ ธิดา ถาวรเศรษฐ ถึงการตั้งสถานีโทรทัศน์คนเสื้อแดงขึ้นใหม่ ยืนยันในจุดเดิมของการเรียกร้องประชาธิปไตย การออกมาประกาศรวมตัวคนเสื้อแดงของ บก.ลายจุด (สมบัติ บุญงามอนงค์) 10,000 UP ในวันอาทิตย์ที่ 10 พ.ย. โดยมี สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ปิยบุตร แสงกนกกุล หนึ่งในสมาชิกนิติราษฎร์ ออกมาเชิญชวนพี่น้องประชาชน ให้เข้าร่วมการชุมนุมที่ราชประสงค์ “นัดใหญ่ วันที่ 10 เดือน 11 เวลา 12 นาฬิกา” ทั้งยังทราบว่าภายในพรรคเพื่อไทยเอง มี ส.ส. และรัฐมนตรีบางกลุ่ม ที่เชื่อในประชาธิปไตย ก็ไม่พอใจระบบการบริหารประเทศแบบสายตระกูล เพียงแต่รอจังหวะที่จะไปให้พ้นอิทธิพลของทักษิณ ความเคลื่อนไหวนี้จึงนับว่าสำคัญมากเป็นการเปิดพื้นที่ทางสังคมใหม่ๆ ที่กำลังจะก้าวพ้นทักษิณ
และหากการเคลื่อนไหวไม่เอานิรโทษกรรม นำไปสู่การยุบสภาฯ พรรคเพื่อไทยจะอ่อนแอลงอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นโอกาสให้พรรคการเมืองต่างๆ มีโอกาสมากขึ้นที่จะชนะการเลือกตั้ง และหากเกิดพรรคการเมือง และตัวบุคคลที่เป็นทางเลือกและความหวังในช่วงจังหวะเวลานี้ ระบอบรัฐสภาก็จะสามารถเดินต่อไปได้ และจะพ้นไปจากระบอบทักษิณในที่สุด
นี่อาจกล่าวได้ว่าเป็นภาวะ “กำลังจะเกิด/กำลังจะเป็น” (in-between) ของขบวนการภาคประชาชน และพรรคการเมืองใหม่ๆ ที่จะไปให้พ้นจากระบอบทักษิณ เป็นความหวังว่าการเปลี่ยนแปลง ของการเมืองที่กลับมาสู่พรรคการเมือง ประชาชน นักเคลื่อนไหว และวิชาการสายก้าวหน้า แทนที่จะเป็นม็อบ ทหาร และพระบรมราชานุญาต ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ท้ายที่สุดต้องยอมรับว่า
ประชาธิปไตยที่ยึดโยงกับตัวบุคคล และคนในวงศ์ตระกูล มันไปไม่ได้สำหรับประเทศไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น