แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แนวโน้ม ขาลง "ม็อบ" สารพัด "กลุ่ม" กำลัง "เกิดขึ้น"

ที่มา ข่าวสด

 

นับวันสภาพของการชุมนุม ณ บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย จะดำเนินไปเหมือนกับการชุมนุมของเกษตรกรชาวสวนยางพาราเมื่อเดือนกันยายน

นั่นก็คือ เป็นสภาพที่ต้อง "นับถอยหลัง"

กล่าวสำหรับ การชุมนุมของเกษตรกรชาวสวนยางพาราภาคใต้จำเป็นต้องสลายและยุติการชุมนุมเพราะรัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือมากมายมาสกัด

สกัดมิให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง เข้าร่วม

สกัดมิให้เกษตรกรชาวสวนยางที่มีสวนยางไม่เกิน 25 ไร่ได้รับผลประโยชน์จากการช่วยเหลือด้านปัจจัยการผลิต

ผลที่สุดก็บ้านใคร บ้านมัน

คงเหลือติ่งๆ ที่ยังเคลื่อนไหวอยู่เพียงจำนวนน้อยนิดที่อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ที่อ.บางสะพาน จ.ประจวบ คีรีขันธ์

ม็อบบน "ถนนราชดำเนิน" ก็เป็นไปเช่นเดียวกัน

ต้อง ยอมรับว่า ไม่ว่าการชุมนุม ณ บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไม่ว่าการชุมนุม ณ สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ตั้งเป้าต่อสถานการณ์ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ไว้ค่อนข้างสูง

เห็นได้จากการตระเตรียมตั้ง "ศาลประชาชน"

เห็นได้จากการออกประกาศคณะปฏิวัติ เรียกนายกรัฐมนตรี เรียกผบ.เหล่าทัพให้เข้ารายงานตัว

แต่เมื่อผลของคำพิพากษาดำเนินไปในลักษณะไม่ลบ หากไปในทาง "บวก"

ทั้ง ม็อบบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทั้งม็อบบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศก็ไปแทบไม่เป็น ถึงกับออกประกาศมาตรการนัดหยุดงานทั่วประเทศ อารยะขัดขืนโดยการชะลอการชำระภาษี และถึงกับเคลื่อนขบวนถวายฎีกาขอสภาประชาชน

ประเด็นอยู่ที่ว่า "มวลชน" ขานรับหรือไม่

ที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ นี่มิใช่ครั้งแรกที่ "ม็อบ" เคลื่อนไหวเพื่อถวายฎีกา ทั้งขอนายกรัฐมนตรีพระราชทานและขอสภาประชาชน

ปรากฏว่าเรื่อง "เงียบหาย" ไปทุกครั้ง

ขณะเดียวกัน การเสนอมาตรการในแบบ "อารยะขัดขืน" ด้วยการนัดหยุดงาน นัดหยุดเรียน นัดไม่ชำระภาษีก็เป็นเรื่องใหญ่เป็นอย่างมาก

ถามว่าจะมีใครให้ความร่วมมือสำแดง "อารยะขัดขืน" บ้าง

ที่ สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ รัฐบาลได้ถอยอย่างสุดซอย ตัดเงื่อนไขไม่เดินหน้าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทำให้การเข้าร่วมของภาคเอกชนและอธิการบดีมีอันต้องหยุดชะงักไปโดยปริยาย

จึงต้องรอ "องค์กรอิสระ" สถานเดียว

แนวโน้มที่การชุมนุมจะมีอยู่เหมือนกรณีที่ชะอวดเหมือนกรณีที่บางสะพานน้อยยังเห็นได้

แต่ ที่จะต้องเห็นกันก็คือ ปริมาณการเข้าร่วมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจะลดน้อยลง สีสันจากการจัดอีเวนต์ก็จะผ่อนเบา ในที่สุดสภาพก็เหมือนที่สวนลุมพินีเหมือนที่แยกอุรุพงษ์

รัฐบาลจะเป็นอะไรก็ขึ้นอยู่กับ "ศาลรัฐธรรมนูญ"


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น