วันนี้ (21 ก.พ.56) ที่ห้องพิจารณาคดี 808 ศาลอาญา รัชดา อ่านคำสั่งชันสูตรพลิกศพ คดีหมายเลขดำที่ อช.8/2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ชันสูตรการเสียชีวิตของนายมานะ อาจราญ ลูกจ้างของสวนสัตว์ดุสิตแผนกบำรุงรักษา ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตเมื่อกลางดึกของวันที่ 10 เม.ย. 53 บริเวณสวนสัตว์ดุสิต แขวงจิตรลดา เขตดุสิต กทม. ภายหลังการสลายการชุมนุมในช่วงค่ำบริเวณแยกคอกวัวและถนนดินสอสงบลง ทั้งนี้ ลานจอดรถของสวนสัตว์ดุสิตเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา จำนวนหลายกองร้อย
ศาลมีคำสั่งระบุว่า นายมานะ อาจราญ ถึงแก่ความตายในสวนสัตว์ดุสิตในคืนวันที่ 10 เม.ย.53 โดยถูกกระสุนปืนลูกโดดความเร็วสูงที่ศีรษะทำลายเนื้อสมอง โดยยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำ
ศาลพิเคราะห์จากการเบิกความที่ผ่านมาว่า ผู้ร้องไม่มีประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุว่าผู้ยิงเป็นทหารหรือ บุคคลใด ไม่มีพยานยืนยันการใช้อาวุธปืนของทหารซึ่งมีการนำสืบว่าหมอบอยู่ใกล้ที่เกิด เหตุ แม้นายสำเริง สุขสมจิต รปภ.สวนสัตว์ดุสิตจะเบิกความว่ามีการยิงของทหารจากด้านในสวนสัตว์โดยยิง เฉียงขึ้นฟ้าไปทางฝั่งรัฐสภา แต่นายสำเริงก็เบิกความ ขณะเกิดเหตุนายสำเริงวิ่งเข้าไปที่อาคารจอดรถ ไม่ใช่จุดที่นายมานะถูกยิงเสียชีวิตและไม่ใช่จุดที่พบทหารหมอบอยู่ นอกจากนี้นายบุญมี แก้วไทรท้วม เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ที่เข้าเวรคู่กับนายมานะได้วิ่งออกมาหลังได้ยินเสียงปืน ก็พบกับทหารที่หมอบอยู่ ทหารก็ไม่ได้มีท่าทีจะทำร้ายนายบุญมี หากทหารกลุ่มดังกล่าวเป็นผู้ทำร้ายนายมานะ นายบุญมีก็คงถูกยิงเช่นกัน
นอกจากนี้ พ.ต.ท.วัชรัศมิ์ เฉลิมสุขสันต์ จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้ตรวจแนววิถีกระสุน จำลองแนววิถีกระสุนได้เพียงจุดยิงกว้างๆ ไม่อาจสันนิษฐานว่าเป็นจุดเดียวกับที่ทหารหมอบอยู่ รอยกระสุนที่ต้นหมากเขียวในบริเวณใกล้เคียงแล้ว ยังพบที่จุดอื่นด้วยซึ่งก็ไม่ได้มีการจำลองแนวกระสุนไว้ จึงอาจเป็นการยิงมาจากที่อื่นได้อีก ส่วนปลอกกระสุน 2 ปลอกที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุนั้น ไม่อาจระบุได้ว่าเป็นกระสุนที่ใช้ยิงผู้ตายหรือไม่ เพราะไม่มีหัวกระสุนมาตรวจสอบ และจากการตรวจสอบอาวุธปืน 29 กระบอกที่กองกำลังค่ายสุรนารีเบิกใช้ก็ไม่ตรงกับปลอกในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้อดีตพลทหารนพพล ป้ายนอก ยังเบิกความว่าเห็นชายถือปืนสั้นขับจักรยานยนต์มาจอดและยิงปืนเฉียงขึ้นฟ้า 3 นัด จึงเท่ากับนอกจากกลุ่มทหาร ยังมีบุคคลอื่นที่ใช้ปืนด้วย ส่วนการนำสืบว่าทหารปะทะกับกลุ่มคนไม่ทราบฝ่าย ก็ไม่ได้นำสืบด้วยว่ากลุ่มดังกล่าวใช้อาวุธใด มีอาวุธหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ญาติของมานะไม่ได้มาฟังคำสั่งในวันนี้ นอกจากนี้คดีนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งทนายความ และไม่มีญาติผู้ตายร่วมสังเกตการณ์คดีด้วย
ก่อนหน้านี้ ศาลมีคำสั่งไต่สวนการตายไปแล้ว 5 คดี โดย 4 คดีแรก ศาลมีคำสั่งว่าเป็นการเสียชีวิตจากการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ได้แก่ พัน คำกอง, ชาญณรงค์ พลศรีลา, ชาติชาย ชาเหลา และ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ และกรณีนายบุญมี เริ่มสุข ศาลชี้ว่ายังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ลงมือกระทำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น