ที่มา go6tv
go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30น. ที่ผ่านมา นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้เขียนเฟสบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra ระบุว่า "ไร้รอยต่อ = ไร้เงื่อนไขทางการเมือง = ไร้ความขัดแย้ง" พร้อมแนะนำให้พรรคประชาธิปัตย์หาเสียงในเชิงสร้างสรรค์ เลี่ยงการหาเสียงสไตล์การเมืองน้ำเน่าแบบในอดีต
ผู้
สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายพานทองแท้
ได้โพสต์ภาพประกอบเป็นรูปของ นายหทัยวุฒิ สายทอง อายุ 45 ปี
ผู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่บุกจับขณะติดสติ๊กเกอร์ใส่ร้ายพลตำรวจเอก ดร.พงศพัศ
พงษ์เจริญ ผู้สมัครตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหมายเลข9
สังกัดพรรคเพื่อไทย วานนี้
โดยมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตจำนวนมากแสดงความเห็นด้วยกับนายพานทองแท้
ขณะที่ในกระดานสนทนาสาธารณะและเครือข่ายสังคมออนไลน์
ประชาชนต่างโพสต์ข้อความตำหนิพฤติกรรมของพรรคประชาธิปัตย์เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ นายพานทองแท้ โพสต์ข้อความดังนี้
โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ผู้สมัครฯแต่ละท่าน มักจะ "โชว์จุดขาย" ที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุดครับ
ผู้
ที่คิดไปว่า สิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้นั้น
เป็นที่ประทับใจคนกรุงเทพฯอย่างหามิได้
และยืนยันที่จะยึดแนวทางการทำงานแบบเดิมๆของตน
แคมเปญก็จะออกมาเป็น.........."ทำแล้ว ขอทำต่อ"
ผู้
ที่เห็นว่า การบริหารงานของกทม.ที่ผ่านมายังไม่ได้เรื่อง
ตนเองน่าจะเป็นนักบริหารที่สามารถทำในสิ่งที่ดีกว่าเดิม ให้กับชาวกทม.ได้
แคมเปญก็จะออกเชิญชวนให้.........."ร่วมกันเปลี่ยนกรุงเทพฯ"
หรือบางแคมเปญก็เป็น........... "เชื่อแบบเดิม เลือกแบบเดิม ได้กรุงเทพฯแบบเดิม"
ผู้
ที่เห็นว่า กทม.กับรัฐบาล ควรร่วมมือกันทำงาน เพื่อพี่น้องประชาชน
อย่างแท้จริงเสียที เลิกโยนความผิดให้กับพรรคฯอื่นได้แล้ว
ก็จะเสนอแคมเปญเป็น............. "หยุดขัดแย้งการเมือง
มุ่งเรื่องปากท้องคนกรุง"
สำหรับ
ผม แน่นอนว่าแคมเปญ........... "ทำงานร่วมกับรัฐบาลแบบไร้รอยต่อ"
ของพล.ต.อ.พงศพัศฯ เบอร์9 โดนใจสุดๆครับ เพราะผมเชื่อว่า
หากผู้ว่าฯกทม.ทำงานแบบ One Man Show หรือสามารถประสานได้แต่ฝ่ายค้าน
ไม่ยอมประสานกันรัฐบาลแบบกลมเกลียวกันแล้ว
ไม่มีทางที่กทม.จะเจริญก้าวหน้าได้อย่างเต็มที่เพราะ
"ไร้รอยต่อ = ไร้เงื่อนไขทางการเมือง = ไร้ความขัดแย้ง" ครับ
การ
หาเสียงในเชิงสร้างสรรค์ เป็นสิ่งที่เราควรสนับสนุนครับ
ก็หวังว่าในโค้งสุดท้าย จะไม่มีการหาเสียงสไตล์การเมืองน้ำเน่าในอดีต
ประเภทส่งคนไปตะโกนในโรงหนังว่าปรีดีฆ่าในหลวง หรือออกแคมเปญประเภท
จำลองพาคนไปตาย, ไม่เลือกเราเขามาแน่ หรือขโมยคะแนนเสียงผู้สมัครฯท่านอื่น
ที่อุตส่าห์เดินหาเสียงมาเป็นเดือนๆ มาเป็นของตัวเองหน้าตาเฉย ด้วยข้ออ้าง
"ไม่ให้เสียงแตก"
หาเสียงในสไตล์คุ้นๆ แบบที่ผมว่าไว้ในตอนท้ายนี้แหละ ที่เป็นตัวถ่วงความเจริญของการเมืองไทยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น