แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

พรรคเพื่อไทย เปิดนโยบายใหม่ โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.

ที่มา go6tv


แม้จะเหลือเวลาอีก 3 วัน แต่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.พรรคเพื่อไทย แถลงนโยบายเพิ่มเติม ขณะที่รัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ยืนยันกรณีนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีของพรรคฯ ช่วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หาเสียงนั้น อยู่นอกเวลาราชการและเป็นวันหยุดราชการ จึงไม่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (27 ก.พ.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และส.ส.พรรคเพื่อไทย ปฏิเสธความกังวลหลังมีคำร้องการใช้อำนาจหน้าที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง ทั้งกรณีนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เพราะในแต่ละครั้งที่ร่วมคณะลงพื้นที่หาเสียง จะเป็นนอกเวลาราชการและเป็นวันหยุดราชการ ทั้งนี้ได้พิจารณาข้อกฎหมายอย่างรอบคอบแล้ว พร้อมเรียกร้องให้ผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้งในช่วงเวลาที่เหลือด้วยความสร้าง สรรค์ ไม่ควรใช้วิธีกล่าวหาสาดโคลน เพื่อลดความน่าเชื่อถือของคู่แข่ง

ขณะที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. พรรคเพื่อไทยเดินหน้าหาเสียง และแถลงเปิดนโยบายเพิ่มเติม แม้จะเหลือเวลาหาเสียงเพียงแค่ 3 วันก่อนวันเลือกตั้ง


โดยวันนี้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่ากทม. หมายเลข9 จากพรรคเพื่อไทย แถลงเปิดนโยบาย “พลิกโฉมกรุงเทพฯ Revitalize Bangkok สร้าง โอกาสใหม่ สร้างรายได้ใหม่ให้คนกรุงเทพฯ” ซึ่งเป็นนโยบายสุดท้ายในการหาเสียง โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมทั้งส.ส.และแกนนำสำคัญของพรรคเพื่อไทย ร่วมในการแถลงเปิดนโยบายอย่างพร้อมเพรียง โดยพล.ต.อ.พงศพัศ แถลงว่า หลังจากลงพื้นที่หาเสียงมา 44 วัน ได้ไปครบแล้ว 50 เขต ทุกชุมชน ได้ทราบปัญหาต่างๆ ทุกคนยืนยันว่า กทม.ต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง โดยตนยืนยันจะบริหารงานในกทม.ให้มีความโปร่งใส พร้อมเพิ่มกระบวนการตรวจสอบการทำงานของผู้ว่าฯกทม. เพราะคนกทม.ตั้งความหวังว่า เงินทุกบาทสมควรต้องนำไปใช้จ่ายอย่างประหยัด เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไร้การคอรัปชั่น หากมีการทุจริตเกิดขึ้น ผู้ว่าฯกทม.ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้

สำหรับนโยบายพลิกโฉมกรุงเทพฯนั้น มียุทธศาสตร์สำคัญ 3 ส่วนได้แก่ 1.การพลิกโฉมกทม. จะพัฒนาเขตกรุงเก่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ โดยฟื้นรถรางในพื้นที่รัตนโกสินทร์ การทำเยาวราชให้เป็นแหล่งอาหารจีนที่ดีที่สุดในโลก การพัฒนาย่านเจริญกรุงที่ขนานกับแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสถานที่พักผ่อนและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาจับจ่ายใช้สอย 2.การเปลี่ยนชีวิต พัฒนาย่านการค้าเก่าเป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างรายได้ใหม่ ต่อยอดโอกาสธุรกิจ เติมความฝันเอสเอ็มอีรุ่นใหม่ จะสร้างศูนย์แสดงสินค้าโอทอปที่หัวลำโพง นำสินค้าโอทอป 50 เขต มาจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวรู้จักสินค้าโอทอปไทย การพลิกฟื้นตลาดสดที่ถูกละเลยเป็นแหล่งรายได้ใหม่ คงเสน่ห์วิถีตลาดไทยแบบดั้งเดิม 3.การสร้างเศรษฐกิจใหม่ โดยประสานกับรัฐบาลเพื่อพัฒนาเชื่อมโยงโครงการต่างๆให้มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดแก่คนกทม. โดยจะโซนนิ่งกรุงเทพฯ สร้างโอกาสและคุณภาพชีวิตใหม่ให้คนกทม. โดยใจกลางกทม.และย่านมักกะสัน จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนแห่งใหม่ กทม.ด้านเหนือพัฒนาเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่งกระจายสินค้า กทม.ด้านใต้ พัฒนาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และกทม.ด้านตะวันตกพัฒนาเป็นแหล่งรายได้และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านศิลป วัฒนธรรม ทั้งนี้ หากได้เป็นผู้ว่าฯกทม. สิ่งที่จะทำทันที 2 เรื่องคือ 1.การลดค่าครองชีพให้ชาวกทม. โดยกทม.จะร่วมมือกับรัฐบาล ให้มีการลดต้นทุนผลิตสินค้าให้มากที่สุด กทม.จะเป็นเจ้าภาพนำสินค้าต่างๆลงสู่ร้านถูกใจ การลดรายจ่ายจากการเดินทาง ส่วนต้นทุนการค้าขายที่เพิ่มขึ้นจากเทศกิจ เจ้าหน้าที่รัฐ กลุ่มมาเฟีย จะแก้ไขทันที ไม่ให้อำนาจนอกระบบทำให้การค้าขายได้รับผลกระทบ และ 2.การแก้ปัญหาจราจร ลดเวลาการเดินทาง เชื่อว่าทุกคนอยากเห็นการพัฒนาสร้างอนาคต รายได้ใหม่ๆ ทุกคนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลง ทำงานแบบไร้รอยต่อ เพื่ออนาคตของกทม.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น