แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ไอ้รัฐธรรมนูญ...โคตรเหี้ย!! (ฉบับ 50 นั่นแหละ!!!)

ที่มา vattavan


วาทตะวัน สุพรรณเภษัช
        ท่ามกลางความวุ่นวายในบ้านเมือง ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ สาเหตุสำคัญมาจากความพยายาม ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภา ที่มีพวกหนึ่งอยากให้แก้ แต่อีกพวกหนึ่งไม่อยากให้แก้ แบ่งเป็นสองฝ่ายชัดเจน
        ฝ่ายที่อยากให้แก้รัฐธรรมนูญ ต่อต้านตุลาการของศาลแห่งนี้ ที่พวกเขาเห็นว่า มีพฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง ส่วนฝ่ายไม่อยากให้แก้รัฐธรรมนูญ คือ ฝ่ายที่ต่อต้านทักษิณ เพราะศาลรัฐธรรมนูญเป็นเพียงความหวังเดียว ที่จะเป็นอาวุธของพวกเขา ในการที่จะลากรัฐธรรมนูญของ “ไอ้บัง กบฎ” ต่อไป

        เหตุการณ์ที่คุกรุ่นอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ผู้เขียนอย่าง “วาทตะวัน” ที่ท่านผู้อ่านทราบดีว่า ผมอยู่ฝ่ายต่อต้านรัฐธรรมนูญฉบับนี้ชัดเจน ต้องย้อนกลับไปนึกถึง หนังสือ “รัดทำมะนวยฉบับหัวคูณ” ของตัวเองที่ออกสู่สายตาประชาชน เมื่อปลายปี พ.ศ. 2550 ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเป็นครั้งแรก
        หลังการปฏิวัติรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 พรรคพลังประชาชน หรือ พรรคไทยรักไทยเดิม นำหนังสือเล่มดังกล่าว ไปแจกให้กับบรรดาสมาชิก เพื่อใช้เป็นข้อมูลก่อนการเลือกตั้ง ผู้คนฮือฮากันมาก ถึงขึ้นหน้าปก “มติชน” รายสัปดาห์เลยทีเดียว

        หนังสือชื่อประหลาดของ “วาทตะวัน” ดูจะสร้างความตื่นตกใจให้กับสังคม และดังยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อ พรรคพลังประชาชน ที่นำหนังสือเล่มนี้ไปแจก กลายเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งอย่างขาดลอย สร้างความผิดหวังให้ทหารฝ่ายรัฐประหาร รวมทั้งบรรดาพวกไอ้ห้อยไอ้โหน ที่ไปรุมเลียมือเลียตีนทหารผู้ยึดอำนาจเป็นอย่างมาก 
        ความดังของหนังสือเล่มนี้ ทำให้คนเขียนเองยังแปลกใจ เพราะผมเคยเขียนบทความชื่อเดียวกัน ในเว็บไซด์ผู้จัดการ เพียงแต่ชื่อยาวกว่าหน่อยคือ เมื่อ 31 กรกฎาคม 2550 คือ คอลัมน์
        “รัดทำมะนวย...ฉบับหัวคูณ!” (จะเอาไข่หงส์ แต่ได้ไข่เหี้ย!!)
http://www.manager.co.th/Columnist/ViewNews.aspx?NewsID=9500000089031
        คอลัมน์นี้มีคนอ่านมากพอควร คือมีจำนวนกว่า 6 พันคน/คลิก แต่ผมตัดเอาแค่ “รัดทำมะนวย ฉบับหัวคูณ” ไปเป็นชื่อหนังสือ ซึ่งได้รับการตอบรับจากแฟนๆดีมากๆ
        ก่อนหน้าผมจะเขียนคอลัมน์ “รัดทำมะนวย...ฉบับหัวคูณ!” (จะเอาไข่หงส์ แต่ได้ไข่เหี้ย!!) ลงในเว็บไซด์ผู้จัดการ นั้น
        ตัว ‘หัวโจก’ ที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่คนรู้จักว่ามีฉายาตามรูปลักษณ์น่าคลื่นเหียน คือ “ไอ้หน้าแหลมฟันดำ” ออกมาทำยืด แสดงอาการกร่าง พูดจาน่ารังเกียจ ว่า
        กฎหมายสูงสุดที่พวกเขากำลังยกร่างกันอยู่นั้น เป็นรัฐธรรมนูญฉบับวงศาคณาญาติของ “เหี้ย” โดยบอกว่า         เป็นรัฐธรรมนูญ ฉบับ “ไล่จับตะกวด” บ้าง "ดักตะกวด" บ้าง นัยว่ามีอิทธิฤทธิ์ ป้องกันการโกงชาติได้ชะงัดนัก

        ปฏิกิริยาตอบโต้ด้วยความไม่พอใจของชาวบ้าน ต่อคำพูดอัปรีย์อย่างนั้น มีค่อนข้างมาก ได้แสดงออกให้เห็นตามสื่อต่าง ผมจึงสนองความไม่พอใจของผู้คน ด้วยการเขียนกระแทกซ้ำเข้าไปอีก ด้วยบทความชื่อ
รัฐธรรมนูญ ‘ฉบับไล่จับตะกวด’ หรือ ‘ฉบับเหี้ยๆ’ กันแน่ !?
http://www.manager.co.th/Columnist/ViewNews.aspx?NewsID=9500000052351
โดยบอกไอ้คนที่พูดอย่างนั้น ให้มันรู้ว่า
        คนไทยเรานั้น ถือนักถือหนาในเรื่องของความเป็นมงคลและสิ่งดีงาม จนมีคำกล่าวที่ว่า         “เริ่มต้นไม่ดี อัปรีย์จึงบังเกิด!”    

        นอกจากผมจะได้เห็นความเลวร้าย ที่ซุกซ่อนอยู่ในมาตราต่างๆในไอ้รัฐธรรมนูญจังไร ฉบับขัดใจประชาชนนี้แล้ว ยังโกรธเคืองที่เห็นกระบวนการข่มขู่ผู้คนในบ้านเมืองสารพัดวิธี ตั้งแต่ด้วยคำพูดก็ตาม การกระทำก็ตาม เพื่อให้พวกเราคนไทย จำใจยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับรัฐประหาร
        ผมจึงได้พยายามตีแผ่ความอัปรีย์จังไร ของการยึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน ให้ประชาชนทราบอย่างตลอดเนื่อง
        ต้องกราบเรียนกับท่านผู้อ่านว่า ตัวผมมีความเชื่ออย่างมั่นคงตลอดมาในคำกล่าวที่ว่า

        “งาช้างไม่มีวันงอก ออกจากปากหมา ฉันใด...
        ...ประชาธิปไตยก็ไม่เคยเงยงอก โผล่ออกจากการปฏิวัติหมาๆ ฉันนั้น!”
      

        ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปปี พ.ศ.2550 หนังสือ “รัดทำมะนวย ฉบับหัวคูณ" ได้ออกมา สร้างความตกใจ ให้กับบรรดาไอ้พวกหนุนการรัฐประหาร พอทางมติชนรายสัปดาห์ นำรัดทำมะนวยขึ้นหน้าปกเท่านั้น สถานการณ์ปาขี้เข้าใส่พัดลม (When the shit hits the fan) ที่ผมเคยอธิบายความหมาย ให้ท่านผู้อ่านฟังแล้ว ได้เกิดขึ้นทันที
        ฝ่ายไอ้พวกจังไรที่บูชาการยึดอำนาจ ดิ้นเร่าๆเหมือนไส้เดือนถูกขี้เถ้า มีรายงานจะแจ้งความดำเนินคดีกับผม ในฐานะเป็นผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ โดยสื่อได้พาดหัวว่า

        ประสงค์ สุ่นศิริ ร้อง รธน หัวคูณ
        ปรากฏรายละเอียด ดังต่อไปนี้
        ประสงค์ ร้องตร.เรื่องรธน.หัวคูณจันทร์นี้-ลั่นหยามแรง          
        ข่าวรายงานการเมือง น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เผยเตรียมส่งทีมทนายยื่นเรื่องร้องเรียนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีมีผู้วิจารณ์รัฐธรรมนูญหยาบคายวันจันทร์นี้
        น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาและส่งเสริมการสร้างคุณธรรมและจริยธรรมแก่นักการ เมือง ข้าราชการ และประชาชน กล่าวถึง กรณีที่มีคนวิจารณ์รัฐธรรมนูญด้วยถ้อยคำหยาบโลนผันผวนว่า        รัฐธรรมนูญไม่ใช่เอกสารทั่วไป แต่เป็นสิ่งที่มีการตราขึ้นตามกฎหมาย การพูดแบบนี้จึงถือว่าเป็นการดูหมิ่น เหยียดหยามอย่างรุนแรง ซึ่งกำลังให้ทีมกฎหมายพิจารณาเตรียมที่จะยื่นเรื่องร้องเรียน ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันจันทร์นี้        ทางด้านนาย สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวว่ากกต. ต้องดูว่าเป็นการเข้าข่ายการทำลายล้างประชาธิปไตยหรือไม่ หากมีการใช้ถ้อยคำ หรือ เนื้อหาที่มีการเสียดสีก็คงไม่เหมาะสม ซึ่ง กกต.คงต้องประชุมหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง

        ต้องขอบอกกันตรงๆว่า ผมอยู่ในวงการสอบสวนคดีอาญา เป็นทั้งพนักงานสอบสวนผู้น้อย จนเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เคยทำหน้าที่อัยการ (ผู้ว่าคดีฯ) ในศาลแขวงมาก่อน รวมทั้งเป็นครูบาอาจารย์ในวิชาสาขานี้ และแต่งตำราในการสอบสวน ที่นักศึกษารุ่นหลังยังใช้อ้างอิงกันอยู่ในระดับต่างๆ เมื่อพวกเขาเขียนรายงาน หรือทำวิทยานิพนธ์
        ผมทราบดีว่า…

        ในประเทศประชาธิปไตย เราจะวิพากษ์วิจารณ์ บริภาษ หรือด่ากฏหมาย โดยเฉพาะที่ออกมาบีบบังคับ จำกัดสิทธิ กดหัวประชาชน หรือเอื้อประโยชน์ ให้กับพรรคพวกคนออกกฏหมายเอง อย่างกำหนดให้มี ส.ว.ลากตั้ง ไอ้พวกรับของโจร ไว้ในรัฐธรรมนูญ
เป็นต้น
        เมื่อมีการบัญญัติกฏหมายระยำหมาอย่างนี้ออกมา โดยกลุ่มคนที่ได้รับอำนาจโดยมิชอบอีกด้วย เราสามารถด่าได้แหลกลาญ โดยไม่ต้องคำนึงถึงการใช้คำผันผวนทางภาษา อย่าง “รัดทำมะนวย ฉบับหัวคูณ” ให้วกๆวียนๆไปมา สามารถด่ากันตรงๆไปเลย เช่น

        “รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550  ไอ้รัฐธรรมนูญจังไร”
        “รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550  ไอ้รัฐธรรมนูญเวรตะไล” 

เอาให้หนักกว่านี้ก็ได้
        “รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550  ไอ้รัฐธรรมนูญ...โคตรเหี้ย”
        ในที่สุด ไอ้คนที่ออกมาข่มขู่ผม อย่างไอ้หน้าแหลมฟันดำ กับบรรดาพรรคพวก ต้อง “ฝ่อ” ไปเลย เมื่อ นายมีชัย กบาลใส ออกมาอธิบายความว่า การด่ากฏหมายหรือรัฐธรรมนูญนั้น จะด่าอย่างไรก็ได้
        ไม่เป็น “ความผิดตามกฎหมาย” แต่อย่างใด!

content/picdata/433/data/photo_00094.jpg
        ถึง วันนี้ ไอ้หน้าแหลมฟันดำที่ชรามากแล้ว แต่ยังพยายามอย่างยิ่ง ที่จะเข้าไปมีบทบาทในบ้านเมืองนี้อีก ทุกวันนี้ ตัวมันยังตะลอนๆไปตามที่มีการชุมนุมต่างๆ
        ล่าสุดก็นั่งดูดกระดูก ดูม็อบกู้ซากริมสนามหลวง อย่างที่เห็น!

        ารต่อต้านรัดทำมะนวยฉบับหัวคูณนี้ ท่านผู้อ่านที่ติดตามข้อเขียนของ “วาทตะวัน” คงทราบดีว่า ผมทำมาโดยตลอด ตั้งแต่ยังเขียนอยู่ค่าย manager และกระทำอย่างเปิดเผย ใช้ถ้อยคำหนักหน่วง รุนแรง ไม่ได้เกรงกลัวต่ออำนาจของคณะรัฐประหาร หรือรัฐบาลของพวกเขาแต่อย่างใด
        นอกจากนั้น ยังทั้งเสียดสี เยาะเย้ย ถากถาง และเหยียดหยามการยึดอำนาจ อย่างไม่ลดละ

        ผมอยากจะบอกว่า
        ที่ทำไป เพราะรู้สึกเหมือนคนไทยส่วนใหญ่ ที่ไม่ชอบการรัฐประหาร โดยไอ้พวกทหารฝ่ายก่อการร้าย ที่พวกมันเข้ามายึดอำนาจจากพระเจ้าแผ่นดินโดยมิชอบ  และ...

        บีบบังคับประชาชน ให้ต้องยอมจำนน และทำตามที่พวกมันสั่ง!
        ท่านผู้อ่าน ที่เคารพครับ...
        ผมมีความเห็นว่า มากันจนถึงวันนี้แล้ว คนไทยผ่านร้อนผ่านหนาว ต่อสู้จนถึงขั้นบาดเจ็บล้มตายมามากแล้ว เพื่อไขว่คว้าหาประชาธิปไตย
        คนไทยที่กล้าพูด และกล้าเขียน มีมากขึ้นทุกที!         ต้องขอร้องพวกเราชาวไทย ที่รักชาติ รักประชาธิปไตย เกลียดชังการถืออาวุธเข้ามายึดอำนาจ ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ว่า
        ต้องช่วยกันสื่อหรือแพร่ความไม่พอใจของพวกเรา ไปถึงนักการเมืองประเภทลากตั้ง ที่ถูกเยาะเย้ยว่า เป็น “ไอ้พวกรับของโจร” ซึ่งเสมือนผลิตผลกาลี ที่ยังหลงเหลือเศษซากจากการปฏิวัติรัฐประหาร รวมทั้งบรรดานักการเมืองฝ่ายแค้น ที่ผิดหวังอย่างแรง จากการพ่ายแพ้จากการเลือกตั้งทั่วไป
        เพราะ...        ไอ้คนพวกนี้ มันได้แสดงตนอย่างเปิดเผย ในอันที่จะเทิดทูนและพิทักษ์ ไอ้ “รัดทำมะนวย...ฉบับหัวคูณ” ของ “ไอ้บัง กบฏ” เอาไว้อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ทั้งๆที่ไอ้ รัดทำมะนวย ฉบับหัวคูณ
นั้น
        มันเป็นแค่ “กฎโจร” แต่ไอ้พวกอัปรีย์ กลับเทิดทูนเหนือเกล้า และพยายามยื้อเอาไว้ อย่างสุดความสามารถ โดยขัดขวางไม่ยอมให้แก้ไขในทุกกรณี

        พวกเราคนไทย หัวใจรักชาติ คงจะต้องตะโกนบอกกับพวกมันดังๆ ว่า
        “พวกมึงอยากเป็น ‘ทาส’ ต่อไปอีกนานๆ ก็เป็นเรื่องของพวกมึง...เชิญเลย!
        เชิญเป็นกันต่อไป!!
        แต่...
        ...พวกกูไม่เหมือนพวกมึง เพราะพวกกูเป็นคนไทย ที่รักความเป็น ‘ไท’ สุดขั้วหัวใจ จึงเป็นคนละพวก คนละเผ่าพันธุ์... 
        ต่างจากพวกมึง โดยสิ้นเชิง...โว้ยยยย!!!”

        พฤติกรรมของคนไทยบางส่วน ที่ไม่รู้จักรักและหวงแหนความเป็น “ไท” ที่รักความเป็นอิสระเสรี สมชื่อเผ่าพันธ์ของตน
ก็เพราะ...
        ไอ้พวกนี้มันรักที่จะเป็นเพียง แค่ “ขี้ข้าม้าครอก” จนยอมจำนน สยบให้กับฝ่ายอธรรม อย่างไม่อับอาย แถมยังพยายามรักษา “ไอ้รัฐธรรมนูญโคตรเหี้ย” หรือ “รัดทำมะนวย...ฉบับหัวคูณ” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการกดคนไทย
        ให้ลงเป็น
“ทาส”

content/picdata/433/data/photo_00093.jpg
        ผมได้อ่านหนังสือ Pour la plus grande gloire de Dieu หรือ “รุกสยามในนามของพระเจ้า” ของ Morgan Sportes เขากล่าวถึงคำของราชทูตจากฝรั่งเศส ที่มาเจริญสัมพันธไมตรีสมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ ซึ่งบันทึกเอาไว้ นานกว่า 300 ปี มาแล้ว
        เป็นคำกล่าวที่สำคัญ และ “กินใจ” คนไทยอย่างผมเหลือเกิน ท่านทูตพูดเอาไว้ อย่างนี้ครับ
        “ลักษณะสำคัญ ที่สะท้อนการสยบลงเป็น ‘ทาส’ ของคนสยาม อยู่ตรงที่พวกเขา ‘ไม่กล้า’ แม้แต่จะพูดถึงเหตุการณ์เรื่องราวใด ในบ้านเมืองของตัวเอง”
                                                                            ซิมง เดอลาลูแบร์
                                                                           (Simon de La Loubère)

                                                                                       ราชอาณาจักรสยาม
                                                                                      ค.ศ. 1691

...............
        ท้ายบท ความเห็นของแฟน ที่โพสต์ท้ายคอลัมน์สัปดาห์ก่อน
ไทยแลนด์สปริง” กับ “หน้ากากขาว”…จุดไม่ติดว่ะ!?
http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=432
มีดังต่อไปนี้ครับ
ความคิดเห็นที่ 1   
โอโฮ จัดหนักเลย
โดยคุณ หนักจริง  101.108.234.XXX 

ความคิดเห็นที่ 2   
สวัสดี ครับอาจารย์วาท คำเสียดสีกระแหนะกระแหนของอาจารย์วาทนี่มันได้ใจจริง ๆ อาจารย์นำออกมาใช้ไกล้หมดหรือยัง ผมพยายามรวบรวมคำต่าง ๆ save ไว้ในเครื่อง กะว่าถึงวันหนี่งจะนำคำต่าง ๆเหล่านี้มาจัดเป็นหมวดหมู่จำหน่ายหรือ share กับเพื่อน ๆใน face book ก็คงจะดีไม่น้อย ดีกว่าไปอ่านของพวกสลิ่มข้างเหลือง สภาพปัจจุบันผมว่าปัญหาของรัฐบาลขณะนี้ก็คือศาลหลายกลุ่ม และกลุ่มคนข้างถนนที่ไม่พยายามเล่นในกติกา รวมหัวกับ ปชป ก่อกวนรัฐบาลทุกเรื่อง แม้แต่ใช้คำหยาบ ๆ แต่ผู้ผดุงความยุติธรรมก็ไม่เคยบอกว่ามันผิด หรือถ้าออกไม่ได้จริง ๆ ก็หาทางลดหย่อนผ่อนโทษแล้วในที่สุดก็รออาญา โดยเฉพาะ ตลก และศาล ปค.ก็มักจะออกมาแบบทะแม่ง ๆ อย่างไรชอบกล ครั้งนี้ก็คืนำแหน่งให้ถวิล แต่เมื่อครั้งคุณเพรียวพันธ์ กลับไม่เห็นคืนและดองไว้ตั้งนานสมัยคุณ สุรยุทธ์ ถึงอภิสิทธ์ ถึงแม้ว่าเขาจะร้องเหมือนกัน กรณี ตลก ก็เช่นเดียวกัน กรณีคุณเรืองไกรผมฟังแถลงของคุณเรืองก็ว่ามีเหตุผลและก็ถูกกฎหมายมากกว่าของ ทางทีม สว.ลากตั้งและปชป แต่ก็ไม่รับ จึงเป็นเรืองที่แปลกดีเหมือนกันสำหรับประเทศนี้
โดยคุณ
suaksai@thaimail.com  101.51.235.XXX 
ความคิดเห็นที่ 3   
หน้ากากขาวยาวใหญ่ไม่เห็นหน้า ตั้
งต้นมาลำใหญ่ดั่งไม้สน
วิ่งเคลื่อนไหวไปมาดูวกวน
นับบุคคลพอได้ห้าสิบตัว
พยายามลบล้างกล่าวอ้างลบ
บรรณภพนี้ดีแต่พวกข้า
เบื้องหลังมีแนวคิดอมาตยา
ล้มล้างลาผู้ครองปฐพี
ต้องชักชวนผองชนให้ก่นด่า
พวกมันมาทำเอือมเสื่อมราษี
เพราะผองไทยคงรักและภักดี
องค์จักรีภูมินทร์ถิ่นแดนไทย
โดยคุณ วาดฝัน ตะวันภักดี  125.24.47.XXX

ความคิดเห็นที่ 4    ขอ ขอบคุณท่านวาทฯ ที่นำความจริงที่อยู่ในที่ลับของคนบางคนมาให้ทราบ ทำให้ภาพต่าง ๆ ของบ้านเมืองชัดเจนขึ้น ช่วยกันแฉคนละไม้คนละมืออย่างนี้ ไม่ช้าบวกคิดบ้า ๆ พวกนี้คงตกเวทีไปเอง
โดยคุณ รู้แจ้ง  124.122.189.XXX 

ความคิดเห็นที่ 5    ไม่ ว่าใครต้นคิดไอ้หน้ากาก Guy Fawk ในไทย ในไม่ได้ใช้สติความคิดศึกษาประวัติศาสตร์ของสัญลักษณ์เลยสักนิด ไม่ว่าเรื่องจริง ที่ล้มระบอบกษัติย์หรือในหนัง ที่ล้มล้างระบอบอนาธิปไตยที่ใช้กำลังกดขี่ประชาชนชน ซึ่งก็ตรงข้ามกับความเป้นจริงในประเทศไทยทั้งนั้น ก็มีแต่พรรคกาลี ของนายมาร์คหัวปลอก
แหล่ะครับ ที่เป็นอนาธิปไตยปัจจุบันในประเทศเรา
โดยคุณ MaxX  27.145.155. 

ความคิดเห็นที่ 6    รอดูกันยาวๆ
โดยคุณ ton  124.120.195.XXX

ความคิดเห็นที่ 7    อ่าน บทความของท่าน.....วาทตะวัน แต่ละครั้ง อดไม่ได้ ที่ต้องพิมพ์เอาไปให้ เพื่อนสนิทได้อ่านกัน......... เอ ..ว่าแต่ เมื่อไรจะมีคนยื่นถอนประกัน.....ไชยวัฒน์ นิ ..
โดยคุณ natacom  58.8.52.XXX   

        (***คอลัมน์ประจำสัปดาห์ ไอ้รัฐธรรมนูญ...โคตรเหี้ย!! (ฉบับ 50 นั่นแหละ!!!)  ออนไลน์ วันเสาร์ ที่ 8 มิถุนายน 2556)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น