แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ: ร่างกายปฏิบัติการของคนเสื้อแดง

ที่มา ประชาไท


งานวิทยานิพนธ์ฉบับหนึ่งเกี่ยวกับคนเสื้อแดงของสาขาชนบทศึกษาและการ พัฒนา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดย น.ส.ฐิวารี วีรยะสบประสงค์ ในเรื่อง "การใช้ร่างกายปฏิบัติการทางสังคมของคนเสื้อแดง: กรณีศึกษาคนชนบทอีสาน" มีประเด็นอันน่าสนใจ ที่น่าจะนำมาแลกเปลี่ยนพอสมควร
 
“ร่างกาย”ในการศึกษาเรื่องนี้ไม่ได้หมายถึงร่างกายทางกายภาพซึ่งประกอบ ด้วยอวัยวะต่างๆ แต่หมายถึง ร่างกายทางสังคม ที่มีคุณค่าและสัญลักษณ์ตามที่สังคมกำหนดและรับรู้ร่วมกัน นำมาสู่ปฏิบัติการทางสังคม ซึ่งก็คือการแสดงออกในพื้นที่สาธารณะในประเด็นทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ สำคัญ
 
ปัญหาในขณะนี้ก็คือ ขณะที่คนเสื้อแดงพยายามจะสื่อสารกับสังคมด้วยการประดับร่างกายด้วยเสื้อผ้า สีแดงและรวมตัวกันทำกิจกรรมทางการเมือง เพื่อเป้าหมายในการต่อสู้ให้สังคมไทยเป็นประชาธิปไตย แต่สภาวะของเขาซึ่งจำนวนมากคือชาวชนบทอีสาน จะถูกประเมินว่าเป็นพวก "โง่ จน เจ็บ"  และปฏิบัติการทางสังคมของเขาได้รับการตีความว่า ถูกหลอกใช้โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือบรรดาแกนนำที่ได้รับผลประโยชน์จากการนำคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหว นำมาสู่การจัดตำแหน่งทางสังคมให้กับคนเสื้อแดงระดับมวลขนชาวบ้านว่า เป็น”ควายแดง” และเป็นพวกเผาบ้านเผาเมือง ก่อกวนบ้านเมือง หมายถึงว่า คนเสื้อแดงในระดับมวลชนนั้น นอกจากด้อยสติปัญญาแล้ว ยังมีพฤติกรรมที่ป่าเถื่อนและรุนแรง จึงจะนำไปสู่การอนุมานได้ว่า การถูกฆ่าตาย หรือการติดคุกของคนเหล่านี้จึงไม่มีคุณค่าพอที่สังคมจะต้องให้ความสนใจ สังคมชนชั้นกลางจึงสามารถที่จะสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และลงคะแนนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ต่อไปด้วยคะแนนเสียงจำนวนมากได้โดยไม่ต้อง ละอายแก่ใจ
 
ในงานของฐิวารี จึงตั้งใจที่จะตอบคำถามว่า คนชนบทอีสานในนามของคนเสื้อแดงใช้ร่างกายปฏิบัติการทางสังคมอย่างไร เพื่ออธิบายการจัดวางตำแหน่งทางสังคมของคน โดยอาศัยข้อมูลสัมภาษณ์อย่างมีส่วนร่วมจากคนเสื้อแดงอีสานที่เข้าร่วมการ เคลื่อนไหวกับกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล ผลสรุปประการแรกจากการศึกษาพบว่า คนเสื้อแดงจำนวนมากที่เป็นคนชนบทถูกอธิบายมาก่อนแล้วว่า ไม่ควรมีส่วนร่วมทางการเมืองจากวาทกรรมเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง ด้วยการกล่าวหาว่า คนชนบทอีสานนั้นอยู่ภายใต้อิทธิพลของเงินและระบบอุปถัมภ์ อำนาจทางการเมืองของคนเหล่านี้ จึงกลายเป็นเครื่องมือของนักการเมืองทุจริตที่รวมกันอยู่ในพรรคเพื่อไทย นำไปสู่การอธิบายว่า เสียงข้างมากของประชาชนจากภาคอีสานเป็นเสียงข้างมากที่ไร้คุณภาพ
 
ประการต่อมาก็คือ การที่รัฐบาลพรรคไทยรักไทยจนถึงพรรคเพื่อไทยได้ใช้นโยบายประชานิยมและประสบ ความสำเร็จ แต่นโยบายเช่นนี้ก็ได้รับการพิจารณาว่า เป็นการนำเงินงบประมาณของชาติมาแจกให้คนชนบทเพื่อใช้จ่ายฟุ่มเฟือย อุดหนุนสินค้าของกลุ่มนายทุนที่ใกล้ชิดรัฐบาล และสร้างความจงรักภักดีระหว่างคนชนบทกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สร้างความแตกแยกกับคนในชาติที่ไม่เห็นด้วย และอาจนำมาซึ่งหายนะทางเศรษฐกิจ จึงต้องต่อต้านคัดค้าน และหาทางยับยั้งการบริหารของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรให้เร็วที่สุด
 
แต่งานของฐิวารีพบว่า ชาวบ้านหลายคนที่เข้าร่วมการชุมนุมกับฝ่ายคนเสื้อแดงไม่ใด้เป็นเพราะการสูญ เสียผลประโยชน์ที่ได้จากโครงการประชานิยม หากเป็นเพราะไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารและการที่ศาลสั่งยุบพรรคการเมือง แล้วยังเห็นว่าคนเสื้อแดงที่เป็นชาวชนบทไม่ได้รับความเป็นธรรมหลังจากการรัฐ ประหาร พ.ศ.๒๕๔๙ ด้วยกระบวนการทางการเมือง และทางศาลที่มุ่งแต่จะสนับสนุนกลุ่มการเมืองตรงข้าม
 
ประการต่อมาก็คือ คนเสื้อแดงดังตัวอย่างไม่ยอมรับว่า การต่อสู้ของพวกเขาเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัว หรือทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร การใช้สีแดงเป็นสัญลักษณ์ก็ไม่อาจนิยามได้ว่า เป็นสีของผู้ที่โง่ ถูกหลอก ถูกซื้อ แต่การเข้าร่วมการชุมนุมเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ทำให้พวกเขาได้ความรู้ทางการเมืองและสังคมเพิ่มเติม และได้พบแลกเปลี่ยนกับเพื่อนที่มีความคิดเห็นในทางเดียวกัน ส่วนวาทกรรมเรื่องเผาบ้านเผาเมืองกลุ่มคนเสื้อแดงยืนยันเป็นวาทกรรมลวง ปราศจากหลักฐานอันชัดเจน เพราะพวกเขาไม่มีเป้าหมายที่จะเผาห้าง และไม่ได้เป็นผู้กระทำการเผาสถานที่ราชการเหล่านั้น
 
บทสรุปในเชิงความหมายในปฏิบัติการของคนเสื้อแดง อาจจะอธิบายได้ เช่น คนเสื้อแดงอีสานคือคนที่ลำบากยากจน ไม่มีการศึกษา ถูกดูหมิ่นดูแคลน แต่ไม่ได้ทำความผิด และต้องการที่จะต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม คนเสื้อแดงก็เหมือนคนเสื้อสีอื่นที่ต้องการให้บ้านเมืองสงบ ไม่ต้องการสร้างความแตกแยก เพียงแต่ต้องให้มีการแสดงความเห็นต่างทางการเมืองได้โดยไม่ถูกจับติดคุก และประชาธิปไตยที่ต้องการเรียกร้อง ต้องมีมาตรฐานเดียวไม่ใช่สองมาตรฐาน การยอมรับความเป็นคนเสื้อแดงต้องปฏิเสธการนิยามที่ว่าด้วยคนชนบทคือ ผู้ที่ "โง่ จน เจ็บ" แต่ต้องหมายถึงมนุษย์ที่มีความเสมอภาคเท่าเทียมกับชนชั้นกลาง ชาวเมือง หรือคนกลุ่มอื่น
 
ดังนั้น ฐิวารีจึงเสนอว่า การพิจารณาคนเสื้อแดงในสังคมต้องยอมรับคนเสื้อแดงในฐานะแห่งความเป็นมนุษย์ ที่มีความคิดอ่าน ไม่ใช่ "ควายแดง" ต้องเข้าใจว่า ความชื่นชอบที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นเพราะนโยบายของรัฐบาลไทยรักไทยและเพื่อไทย นำมาสู่การกระจายโภคทรัพย์ และให้โอกาสแก่ประชาชนมากกว่ารัฐบาลอื่นที่ผ่านมา วาทกรรมเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียงไม่เป็นจริงมาเป็นเวลานานแล้ว เพราะคนอีสานก็เป็นเช่นเดียวกับคนภาคใต้และคนกรุงเทพฯ คือ เลือกตามความนิยมในพรรคการเมือง ไม่ได้เลือกเพราะเงินหรือระบบอุปถัมภ์แต่อย่างใด
 
ประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และน่าจะเป็นการสมควรที่จะมี่งานวิจัยในลักษณะของการเมืองร่วมสมัย ที่จะให้คำตอบแก่สังคมไทยปัจจุบันได้มากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น