แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

การเมืองไทยปลาย 2556 : พายุใหญ่และวิกฤตประชาธิปไตย

ที่มา ประชาไท



ส่วนที่ 1
ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมของนาย ประยุทธ์ ศิริพานิชและกรรมาธิการเสียงข้างมากฯที่เริ่มนำเข้าพิจารณาและลงมติในสภาผู้ แทนราษฎร วาระที่ 2 (โดยไม่ผ่านการรับรองหลักการ วาระที่ 1 ตามนัยของกฎหมาย) เป็นร่างกฎหมายที่มีเนื้อหาแตกต่างอย่างขัดหลักการกับร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมของนายวรชัย เหมะ ที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติรับรองหลักการในวาระที่ 1

การ ริเริ่มและเคลื่อนไหวต่อเนื่องของนายประยุทธ์กับคณะกรรมาธิการเสียงข้างมาก ดังกล่าวนำไปสู่วิกฤตทางการเมืองทั้งในและนอกสภาอย่างรวดเร็ว  แต่ในการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลอื่น ๆ ภายในองคาพยพของพรรคเพื่อไทยและแกนนำมวลชนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งก็ยังเกิดข้อ เท็จจริงที่อาจเป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยส่วนรวมในระยะยาว นั่นคือ การ เปิดเผยตนเองของกลุ่มอำนาจนิยมในองคาพยพดังกล่าวที่ฝ่าฝืนหลักนิติรัฐ นิติธรรม และฝ่าฝืนอุดมการประชาธิปไตยโดยการดึงดันผลักดันร่างพระราชบัญญัตินิรโทษ กรรมฉบับกรรมาธิการฯดังกล่าวในกระบวนการทางรัฐสภาอย่าง “หักดิบ” และ ยืนหยัดแข็งกร้าวตอบโต้กับข้อวิจารณ์ทางกฎหมายและการเมืองของกลุ่มพลัง ประชาธิปไตยและกลุ่มอำนาจอื่นที่เป็นปฏิปักษ์กับอุดมการประชาธิปไตยในช่วง เวลาเดียวกัน  การเปิดเผยความเป็นอำนาจนิยมของกลุ่มบุคคลในองคาพยพดังกล่าวยังปรากฎชัดเจน ขึ้น จากการปิดกั้นเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกับตนเอง เช่น การสั่งถอดรายการชูธงออกจากผังรายการของสถานีโทรทัศน์เอเซียอัพเดตและการ ระดมจัดตั้งการส่งข้อความสั้นทางโทรศัพท์ (SMS) ให้สนับสนุนร่างกฎหมายฉบับสุดซอยของกรรมาธิการฯมากขึ้น

ภาย ในกระแสการเคลื่อนไหวของกลุ่มอำนาจนิยมสุดขั้วนั้น  กลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งทั้งในองคาพยพของพรรคเพื่อไทย และในองคาพยพของกลุ่มมวลชนจัดตั้งล่วงหน้าภายในกลุ่มเสื้อแดงพยายามโน้มน้าว คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ให้เชื่อว่าร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับกรรมาธิการฯ (เรียกกันว่าฉบับสุดซอย) จะช่วยให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับเมืองไทยละจะช่วยเอา “พื่น้องเสื้อแดง” ออกจากคุก  ใน ขณะเดียวกันกลุ่มคนในองคาพยพเหล่านี้ก็พยายามสอดแทรกวาทกรรมโน้มน้าวความคิด ให้สาธารณชนโดยส่วนรวมของประเทศเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นผู้บงการสั่งการเรื่องนี้อยู่เบื้องหลัง  การเคลื่อนไหว เหล่านี้เป็นการสร้างวาทกรรมที่แสดงเจตนาหวังดีต่อพ.ต.ท.ทักษิณ  แต่มีผลในทางมุ่งร้ายทำลายพ.ต.ท.ทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์อย่างถึงที่สุด (ซึ่งสาธารณชนจะได้เห็นโดยข้อเท็จจริงที่จะต้องปรากฏต่อไปในเวลาไม่นานนัก)

พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สามารกลับบ้านได้ โดยอาศัยข้อความตามบทบัญญัติในร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับกรรมาธิการฯ (ซึ่งนักกฎหมายในกรรมาธิการเกือบทุกคนรู้ดี) นอกจากนั้น “พี่น้องเสื้อแดง” ก็ไม่สามารถออกจากคุกได้ทั้ง หมดตามที่กลุ่มคลุมเครือ เช่น กลุ่มปฏิญญาหน้าศาลพยายามกล่าวเรียกร้องให้คนเสื้อแดงจำนวนมากขึ้น เข้าร่วมสนับสนุนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอยของกรรมาธิการเสียงข้างมาก ดังกล่าว  (แต่ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนายวรชัยต่างหากที่มีข้อความอันสามารถช่วยให้ “พี่น้องเสื้อแดง” ออกจากคุกได้ทั้งหมดหรืออย่างน้อยออกจากคุกได้เป็นจำนวนมากกว่าร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอย)

ถ้า หากพิจารณาโครงสร้างองค์รวมของการพัฒนาทางการเมืองในประเทศที่ต้องมุ่งสู่ ความเป็นสากลตามกระบวนการโลกาภิวัตน์มากขึ้น เรายังอาจเห็นว่าวิกฤตครั้งนี้อย่างน้อยที่สุดมีข้อดีในประเด็นที่มีการตรวจสอบภาวะอำนาจนิยมในพรรคเพื่อไทย และในกลุ่มมวลชนเสื้อแดงปลีกย่อยอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งผลเชิงโครงสร้างในการเฉลี่ยสัดส่วนอำนาจการเมืองทั้งในและนอกรัฐสภา ไม่ให้กลุ่มอำนาจนิยมสุดขั้วสามารถครอบครองสัดส่วนอำนาจทั้งในระบบพรรคการ เมือง และในพื้นที่พลังมวลชนในระดับทั่วประเทศ   แต่สาธารณชนและผู้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งนี้ควรพิจารณาอย่างระมัดระวัง ด้วยว่าการริเริ่ม “หักดิบ” ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่นำไปสู่วิกฤตครั้งนี้อาจนำไปสู่ “การฆ่ากันรอบใหม่ระหว่างคนไทย” และภาวะนองเลือดที่อาจคล้ายคลึงกับเหตุการณ์วันที่ 6 ตุลาคม 2519 ในอนาคตอันใกล้ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหากสถานการณ์ถูกกระทำให้มีผลสัมฤทธ์ในทางหลังนี้ ประเทศจะถดถอยออกจากประชาคมโลกแม้ว่าจะมีเงื่อนไขที่ประเทศจะต้องเข้าสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558ที่จะถึงไม่นานนัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น