แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ก่อแก้วแจงโหวตนิรโทษฯฐานะ ส.ส.

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

 http://www.prachachat.net/online/2013/11/13832719481383272151l.jpg
updated: 01 พ.ย. 2556 เวลา 09:16:09 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 1 พฤศจิกายน นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.เพื่อไทย ในฐานะแกนนำนปช. ได้โพสต์เฟซบุ๊คชี้แจงกรณียกมือสนับสนุนผ่านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมในวาระ 2 และ 3 ว่า ณ.เวลา 3.50 น.ประธานสภาขอมติเพื่อโหวต มาตรา 3 ของ พรบ.นิรโทษกรรม ที่พวกเรามีมุมมองที่ต่างกันมาก ในที่สุดผมกดโหวต ′เห็นด้วย′ ผมได้นั่งไตร่ตรองประเด็นนี้มาทั้งวัน ชั่งน้ำหนักทุกด้าน ก่อนที่จะได้ข้อสรุปในใจตอนประมาณตี 3 ว่าผมจะทำตามมติพรรคเพื่อไทย ถึงแม้ในใจผมเองก็เจ็บปวดมากจากการกระทำของนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ที่โดนยัดข้อหาฉกรรจ์และติดคุกนานกว่า 9 เดือน แต่ที่ผมเลือกโหวตเห็นด้วย ก็ด้วยเหตุผลดังนี้

ผมเคารพหลักการประชาธิปไตยเสียงข้างมาก ตอนที่สวมบทบาทแกนนำ นปช. ผมไม่เคยแตกแถว ทุกครั้งที่ นปช.ประชุมและมีมติอะไรออกมา ถึงแม้ผมจะไม่ค่อยเห็นด้วยในบางครั้ง แต่ผมจะปฏิบัติตามทุกครั้งไป และผมเชื่อว่าผมไม่เคยทำอะไรที่ทำให้ องค์กร นปช.เสียหายเลยตั้งแต่เข้าร่วมต่อสู้มาในปี 2550 (ถ้าผมเคยทำอะไรที่ทำให้ นปช.เสื่อมเสีย ช่วยยกตัวอย่างเพื่อเตือนความจำผมหน่อยครับ)

ตั้งแต่เป็น ส.ส. ผมยังเป็นกรรมาธิการ และ เป็นวิปรัฐบาลด้วย (ทำหน้าที่ช่วยกลั่นกรองกฎหมายก่อนเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร และช่วยประสาน ส.ส.ในทีม ในการให้เข้าร่วมประชุมสภา รวมถึงแจ้งแนวทางการโหวตกฎหมายในแต่ละฉบับ) ทุกครั้งที่มีการประชุม ไม่ว่าในวงใด พวกเราใช้เสียงข้างมากเป็นตัวชี้ ครั้งใดที่ที่ประชุม เสียงส่วนใหญ่เกิดมีความเห็นต่างจากผม ผมก็ต้องยอมรับ
ในกรณีนี้ ผมทำหน้าที่โหวตในฐานะ ส.ส. (ถึงแม้มาจากสาย นปช. แต่ไม่ใช่ทำหน้าที่โหวตในฐานะแกนนำ นปช.) ถึงแม้ผมไม่เห็นด้วยในมาตรานี้ แต่ในเมื่อพรรคมีมติเสียงข้างมากมาแล้วว่าเห็นด้วยตามร่างของกรรมาธิการ จึงคิดว่าควรมีวินัยและเดินตามมติพรรค มิฉะนั้นผมอาจจะกลายเป็นเหมือน ส.ส.บางพรรคที่ชอบตีรวนในสภา ไม่เคารพต่อเสียงข้างมาก จนก่อเหตุวุ่นวายหลายครั้ง ทำให้ภาพลักษณ์สภาเสื่อมเสีย ซึ่งผมมองว่าไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง ดังนั้นผมต้องไม่เหมือนพวกเขา ผมต้องเคารพกติกาเป็นหลัก

ผมเชื่อว่าตัดสินใจถูกต้อง เพราะก่อนการโหวตมาตรา 3 ไม่กี่นาที ส.ส.ฝ่ายค้าน ทำการประท้วงประธานสภาอย่างหนัก ด้วยการตะโกนโห่เสียงดังรบกวนผู้กำลังอภิปราย เสมือนว่าจะไม่ยอมให้ พรบ.ฉบับนี้ผ่านเป็นอันขาด ผมตั้งข้อสงสัยว่า หรือคนกลุ่มนั้นเขากลัว พ.ต.ท.ทักษิณ จนขึ้นสมอง กลัวว่าถ้า พ.ต.ท.ทักษิณได้กลับประเทศไทย พรรคของพวกไม่สามารถต่อสู้ทางการเมือง ในสนามเลือกตั้งได้เลย จึงต้องคัดค้านเต็มที่ ผมจึงคิดว่า บางทีการคืนความเป็นธรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วได้กลับมาเมืองไทย อาจจะทำให้คนกลุ่มนั้น เครียดเจียนบ้า เครียดทันทีโดยไม่ต้องรอผลคดีความอาญา ที่ต้องใช้เวลานับสิบปี ซึ่งอาจจะดีกว่าก็เป็นได้ (สำหรับใครที่อยากจะแลกเปลี่ยนมุมมองกับผมในประเด็นคดีความของนายอภิสิทธิ์ โทรคุยกับผมได้ครับ ไม่อยากเขียนบน FB ครับ)

สำหรับพี่น้องเสื้อแดงที่โกรธเคื
องผมในเรื่องที่ผมกดโหวตเห็นด้วยครั้งนี้ อย่าได้เกรงใจ ต่อว่า ดุด่า ได้เลย เต็มที่ครับ ผมขอน้อมรับ และขอโทษด้วยที่ผมอาจจะคิดต่างกับพวกเราหลายคนในกรณีนี้ จึงขอสารภาพมาอย่างตรงไปตรงมาครั

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น