ที่มา มติชน
"สุภรณ์" เผยมีการขนอาวุธ-สไนเปอร์
เข้ามายังบริเวณการชุมนุม ติดสติ๊กเกอร์ "ธนะภัทร" แฉ "สุเทพ"
แอบไปทำเรื่องลับๆ ที่กองร้อยทหารพราน 42 หาดใหญ่ วอนประชาชนระมัดระวัง
ประสานดีเอสไอสอบเส้นทางการเงินกลุ่มทุนสนับสนุน
เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ฝ่ายการเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมขณะนี้ว่า เท่าที่ประเมินดู
มาตรการอารยะขัดขืนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุมที่ได้ประกาศนั้น
ไม่ได้รับความสนใจจากประชาชนและต้องขอบคุณสหภาพต่างๆ
ครูนักเรียนที่ยังมีการเรียนการสอน มีเพียงบางโรงเรียนในพื้นที่
ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่หยุดเรียนเพียงไม่กี่แห่ง
ซึ่งผู้ปกครองไปแจ้งความแล้ว และขอบคุณประชาชนที่ไม่หยุดงาน
หรือไม่เชื่อนายสุเทพ ที่ให้งดจ่ายภาษีให้รัฐ
เพราะทุกคนรู้ดีว่าการไม่เสียภาษีเท่ากับผิดกฎหมาย ซึ่งการประกาศเช่นนี้
เป็นผลลบกับนายสุเทพทันที เพราะจำนวนผู้ชุมนุมลดลงอย่างเห็นได้ชัด
นายสุภรณ์กล่าวว่า วันนี้นายสุเทพพยายามระดมคนออกมา
ซึ่งขณะนี้ได้ประสานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
เพื่อให้ไปคุยกับกลุ่มนายทุนที่เราเชื่อว่าเป็นนายทุนให้กับการชุมนุมครั้ง
นี้ ซึ่งปรากฏว่านายทุนเหล่านั้นยืนยันว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย
ถ้าเราตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ ก็จะเป็นผลดี ซึ่งขณะนี้ได้คุยกับทางเลขาฯ
ป.ป.ง.เพื่อจะเอากฎหมายฟอกเงิน เอากฎหมายยึดทรัพย์มาใช้ทันที
เพราะถือว่าผิดกฎหมายในการล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบ
ประชาธิปไตย ส่วนบางกลุ่มที่ยังคงสนับสนุนอยู่นั้น
ทางดีเอสไอจะมีการเปิดเผยรายชื่อนายทุนเหล่านั้นในสิ้นเดือนนี้
อาจมีหมายเรียกหรือหมายเชิญกลุ่มนายทุนมาสอบถามข้อเท็จจริงว่าสนับสนุนจริง
หรือไม่ ทั้งที่พรรคร่วมรัฐบาลได้ลงสัตยาบันถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแล้ว
วันนี้นายสุเทพยังมายกระดับอีก
"ผมมีข่าวเชิงลึก วันนี้ไม่ใช่มือที่ 3 ที่จะมาสร้างสถานการณ์
แต่คนที่จะสร้างสถานการณ์คือนายสุเทพเอง
เพราะได้ข่าวว่านายสุเทพไปทำอะไรที่กองร้อยทหารพรานที่ 42 หาดใหญ่ จ.สงขลา
ผมทราบว่านายสุเทพไปเอาคนมีอาวุธจากกองร้อยทหารพรานที่ 42 ซึ่งอีก 2 วัน
เจ้าหน้าที่อักษรย่อ ต จะมาพบผม ซึ่งผมจะพามาพบ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร
เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ว่า
มีการขนอาวุธมาจากชายแดนมาเลเซียเข้ามาโดยรถตู้ติดสติ๊กเกอร์คำว่า ธนะภัทร
และที่สำคัญมีการส่งกำลังที่เป็นชายฉกรรจ์อายุไม่เกิน 30 ปี
ผ่านการซ้อมรบปืนสไนเปอร์ และปืนอาวุธสงครามมาเรียบร้อยแล้ว
โดยมีการพูดชัดเจนว่าเอาอาวุธเหล่านี้ไปให้นายหัวเทพ
ซึ่งถือเป็นพยานบุคคลที่สำคัญ" นายสุภรณ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมเจ้าหน้าที่อักษรย่อ ต คนนี้ถึงมาให้ข้อมูล
นายสุภรณ์กล่าวว่า
เขาเป็นเจ้าหน้าที่ที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการใช้อาวุธเข้ามาซ่องสุมในที่
ชุมนุม และไปตรงกับที่นายสุเทพ
ได้เคยพูดว่าจะมีอาวุธสไนเปอร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
โดยสไนเปอร์นี้เป็นแบบยิงระยะไกลชื่อเคแพค เอ็ม 200
และขณะนี้ทราบว่าอาวุธเหล่านี้ถูกขนมาไว้ในพื้นที่การชุมนุมแล้ว ดังนั้น
ขอให้ประชาชนสังเกตรถที่จะเป็นทะเบียนจากสงขลา สุราษฎร์ธานี
และมีสติ๊กเกอร์ ธนะภัทร
เมื่อถามว่า เมื่อรู้ข้อมูลแล้ว ทำไมไม่มีการสกัดกั้นไว้ก่อน
นายสุภรณ์กล่าวว่า เรารู้เมื่อมีการขนขึ้นมาแล้ว
และขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีการใช้อาวุธเข้าไปสลายการชุมนุมแน่นอน
แต่ที่เป็นห่วงคือการสร้างสถานการณ์ของฝ่ายการเมืองที่มีการขนอาวุธมา
น่ากลัวที่สุด ถ้าอยู่บ้านได้ก็จะปลอดภัยที่สุด
เพราะตราบใดที่ในพื้นที่ชุมนุมมีอาวุธสงครามอยู่
แสดงว่าเป็นพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวถามถึงการประกาศให้โรงเรียนต่างๆ
มาร่วมชุมนุมด้วยเพื่อเป็นการยกระดับ นายสุภรณ์กล่าวว่า
ตรงนี้ถือเป็นสิ่งที่ผู้ว่าฯกทม.ต้องรับผิดชอบ
เพราะปล่อยให้ผู้บริหารโรงเรียนออกมาดำเนินการเช่นนี้ได้
ถือว่าผิดกฎระเบียบ ส่วนโรงเรียนที่สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ทาง
รมว.ศึกษาฯได้เน้นย้ำไปแล้วว่าให้มีการเรียนการสอนตามปกติ
อย่าให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้
หากเป็นการชุมนุมตามสิทธิของรัฐธรรมนูญ ไม่มีใครว่าอะไร
แต่นี่มีการประกาศโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
แต่ตนมองว่าการประกาศเช่นนี้ของนายสุเทพที่ต้องการล้มรัฐบาล
เพื่อให้คดีสั่งฆ่าประชาชนวันที่ 12 ธันวาคม
ที่อัยการสูงสุดจะส่งฟ้องศาลไม่มีความคืบหน้า และหากล้มรัฐบาลได้
นายสุเทพอาจเป็นนายกฯเอง แต่ก็ต้องถามประชาชนด้วยว่าเขาอยากให้เป็นหรือไม่
และจะมีการสั่งฆ่าประชาชนอีกหรือไม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น