แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

หอการค้าฯ วอนยุติชุมนุม แนะตั้งเวทีเจรจาสันติ

ที่มา Voice TV



หอการค้าไทย วอนทุกฝ่ายยุติการชุมนุม โดยตั้งเวทีเจรจาสันติ ด้านมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยอมรับห่วงการเมืองยืดเยื้อรุนแรง ฉุด จีดีพี ปีนี้เติบโตลดลงเหลือร้อยละ 3-3.2

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ชุมนุมจากการคัดค้านร่างพระราชบัญญัติ หรือ พ.ร.บ. นิรโทษกรรมของผุ้ชุมนุมทุกกลุ่ม โดยหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เห็นว่า หากสถานการณ์การชุมนุมยืดเยื้อ จะกระทบเศรษฐกิจของประเทศ

ทำให้ตัวเลขการเติบโตทั้งปีนี้ชะลอตัวลงอีก เนื่องจากขณะนี้ไทยกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ซึ่งช่วยผลักดันรายได้เข้าประเทศในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี และทดแทนการส่งออกที่ชะลอตัว หลังตัวเลขการส่งออก 9 เดือนปีนี้ ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.05 และคาดว่า ทั้งปีจะขยายตัวเพียงร้อยละ 1 ดังนั้น จึงขอให้ทุกฝ่ายฝ่ายคำนึงถึงผลกระทบเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม

ทั้งนี้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าฯ ประกาศจุดยืน 3 ข้อ คือ ยึดมั่นต่อการต่อต้านการคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ โดยเห็นว่าการคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่นสิ้นสุดลงแล้ว จากการที่พรรคร่วมรัฐบาลได้ลงนามในสัตยาบรรณไม่นำเรื่องนี้กลับมาพิจารณาอีก

จึงขอให้ทุกฝ่ายลดการเผชิญหน้าและท้าทายซึ่งกันและกัน ไม่ใช้ความรุนแรง ที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และความเชื่อมั่น ตลอดจนภาพลักษณ์ของประเทศในระยะยาว รวมทั้งขอให้ทุกฝ่ายยึดผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นหลัก เพื่อให้ความสันติสุขกลับสู่ประเทศไทยอีกครั้ง

ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่า หากการชุมนุมทางการเมืองยืดเยื้อถึงไตรมาสแรกปีหน้า จะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ต้องสูญเสียรายได้จากภาคการท่องเที่ยวประมาณ 3-5 หมื่นล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจปีนี้ เติบโตเพียงร้อยละ 3.3-3.5 และปีหน้า สูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 1 แสน 1 หมื่นถึง 1 แสน 5 หมื่นล้านบาท กระทบเศรษฐกิจให้เติบโตแค่ร้อยละ 4 -4.8 จากเดิมคาดว่าจะเติบโตได้ร้อยละ 5-5.1

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การชุมนุมเกิดความรุนแรง หรือเกิดการปะทะกัน เศรษฐกิจในปีนี้จะได้รับผลกระทบมากสุด หรือเติบโตเพียงร้อยละ 3-3.2

และหากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้น เช่น ยุบสภา ซึ่งยังต้องดูว่าจะเกิดขึ้นในช่วงใด เพราะหากมีการเลือกตั้งภายใน 90 วัน จะมีเม็ดเงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่หากรัฐบาลใหม่ที่มาหลังการเลือกตั้ง เปลี่ยนพรรคการเมือง อาจกระทบต่อโครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาท ที่เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีหน้า ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า
12 พฤศจิกายน 2556 เวลา 11:36 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น