นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะประชุมกตช. เปิดตำแหน่ง 4 นายพล สั่งที่ประชุม 5 ข้อ เร่งแก้ปัญหาทุจริตโรงพัก 396 แห่ง
วันนี้ ( 8 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.
อนุชา รมยะนันท์ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)
ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.)
ครั้งที่ 1/2556 ก.ต.ช. ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ในฐานะประธาน ก.ต.ช. เป็นประธาน
ว่าการประชุมในวันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรกของ ก.ต.ช. ผู้ทรงคุณวุฒิ
ซึ่งมีพระบรมราชองค์การโปรงเกล้าตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา 4
ท่านประกอบไปด้วย ศาสตราจารย์พิเศษชัยเกษม นิติสิริ
ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ด้านการงบประมาณได้แก่ นางเบญจา หลุยเจริญ
ด้านการพัฒนาองค์กร แต่งตั้ง ศาสตราจารย์พิเศษทศพร ศิริสัมพันธ์
และด้านการวางแผน และบริหารจัดการ พล.ต.ท.เหมราช ธารีไทย
ส่วนเรื่องสำคัญในการประชุมวันนี้ได้มีการ
พิจารณาการจ่ายเงินทดแทนเงินประกันชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิต
หรือได้รับบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นมติ
ก.ต.ช.เดิมที่เห็นชอบให้ สตช. กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินดังกล่าว
ซึ่งทางคณะรัฐมนตรีได้มีการระบุว่า
ควรที่จะมีการวางระบบของการจ่ายเงินกรณีดังกล่าวให้กับข้าราชการทุกส่วน
อย่างเท่าเทียม ซึ่งทาง สตช.
จะได้ประชุมวางระบบกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะเสนอ
คณะรัฐมนตรีต่อไป
พ.ต.อ. อนุชา กล่าวต่อว่า
ที่ประชุมได้มีการพิจารณาการจัดแผนงานโครงการและงบประมาณการเข้าสู่ประชาคม
อาเซียน ของ สตช. และตามที่รัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ประเทศไว้ 4 ยุทธศาสตร์
ทาง สตช.มีความเกี่ยวข้อง 3 ยุทธศาสตร์
ซึ่งได้วางโครงการเพื่อเตรียมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนประมาณ 10
โครงการด้วยกัน อาทิ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
การพัฒนาโครงสร้างด้านตรวจคนเข้าเมืองต่างๆ เทคโนโยลีสารสนเทศ
การอำนวยความยุติธรรมและการรักษาชีวิตและทรัพย์สิน
รวมถึงการเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปประจำการ
ในประเทศต่างๆในประชาคมอาเซียนเพื่อประสานงานเกี่ยวเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ
เป็นต้น
นอกจากนี้ พ.ต.อ.อนุชา
ยังกล่าวอีกว่าที่ประชุมได้พิจารณาการกำหนดตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ
ผู้บังคับการขึ้นไป 2 เรื่อง ประกอบด้วย
การกำหนดตำแหน่งในสำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ
มีการกำหนดตำแหน่งนายตำรวจราชสำนักประจำ ระดับผู้บัญชาการ เพิ่มขึ้น 1
ตำแหน่ง และ ระดับนายตำรวจราชสำนักประจำ 2 ตำแหน่ง
ซึ่งเป็นระดับผู้บังคับการ และมีการกำหนด ผู้บังคับการ
กองบังคำการอำนวยการถวายความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีก 1 กองบังคับการ
นอกจากนี้ยังมีการกำหนดตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการเดินเรือ
ของกองบังคับการตำรวจน้ำ
เพื่อให้คำปรึกษาการวางแผนด้านยุทธศาสตร์ของตำรวจน้ำ
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีการทบทวน
มติของที่ประชุม ก.ต.ช.ของปี 55
ที่ได้มีการกำหนดให้ศูนย์ฝึกอบรมของตำรวจภูธรภาค 1-8 และ
ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สตช.)
ให้กลับมาสังกัดกองบัญชาการศึกษาแต่ทาง
ส.ต.ช.ได้ให้เหตุผลทั้งในเรื่องของหลักการบริหารราชการหลักการกระจายอำนาจ
และรูปแบบการกระทำความผิดเฉพาะตัวของแต่ละพื้นที่ที่จะสามารถนำข้อมูลทั้ง
หมดมาวิเคราะห์และแยกฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตอบสนองการทำงานในแต่ละ
พื้นที่ จึงได้เสนอว่าให้ศูนย์ฝึกยังอยู่กับต้นสังกัดดังเดิม ซึ่งที่ประชุม
ได้เห็นควรให้ทบทวนมติดังกล่าวและให้ศูนย์ฝึกทั้งหมดขึ้นอยู่กับ
กองบัญชาการตำรวจต้นสังกัดดังเดิม
Source : News Center /เว็บไซต์เดลินิวส์
by
Wasinee
8 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 15:02 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น