แถลงการณ์สวนโมกข์ ๕๐ ปี


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที



พุทธวจนคืออะไร

วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ดาวตลก...วีรบุรุษ!!!

ที่มา vattavan

วาทตะวัน สุพรรณเภษัช
        นยุคที่บ้านเรามีการปฏิวัติรัฐประหาร สมัย จอมพลสฤษดิ์  “เผด็จการ-สะดือแตก” ธนะรัชต์ ที่มีอำนาจมากมาย ผู้คนเกรงกลัวกันนัก แต่พอตายไปไม่กี่วัน หนังสือพิมพ์พากันเปิดโปง ว่า
        จอม เผด็จการผู้นี้ ได้สะสมเมียเป็นร้อยเป็นพันคน ร่ำรวยมหาศาลพอๆกับ พ.ต.ท.ทักษิณเลยทีเดียว จนนำไปสู่การฟ้องร้องแย่งสมบัติกัน ระหว่างลูกๆเมียๆ กระทั่งถูกยึดทรัพย์โดยคณะนายทหารพวกเดียวกันกับแก และเคยเป็นลูกน้องมาก่อนด้วย จนกลายเป็น “ตำนานแห่งความระยำ” ของการรัฐประหารไปในที่สุด        ถึงกระนั้น ก็มีนายทหารที่ “เงี่ยน...อำนาจ” พยายาม “ซ้ำรอยระยำ” ของเผด็จการสะดือแตก 
        อย่าง “ไอ้บัง กบฎ” ที่ตอนนี้ มีแต่คนสาบแช่ง นั่งไง!

        ตอนจอมพลสฤษดิ์มีอำนาจ นั้น มีศิลปินจำนวนไม่น้อย ต้องถูกจับกุมคุมขัง เพราะฤทธิ์เดชของอีตา “เผด็จการ-สะดือแตก” เช่น คุณสุวัฒน์ วรดิลก และ คุณเพ็ญศรี พุ่มชูศรี ทั้งสองสามีภริยาที่ต่อมาได้รับเกียรติยกย่องต่อมาว่า เป็น
        “ศิลปินแห่งชาติ”         คู่สามีภริยาศิลปินแห่งชาติ ต้องโดนจับไปติดคุกทั้งสองคน ด้วยข้อกล่าวหาว่าเป็น คอมมูนิด-คอมมูหน่อย เฮงซวยนั่นเอง
        น่าสงสารมาก!

        หันไปดูประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง คือ “พม่า” บ้าง จะเห็นได้ว่า ศิลปินดังๆของเมืองหม่อง ถูกรัฐบาลทหารพม่าจับกุมคุมขังหลายคน แต่หลังเปิดประเทศ บางคนได้รับการปล่อยตัว และหนึ่งในจำนวนนั้น มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ที่ใช้ชื่อในการแสดงที่รู้จักกัน คือ ซากานาร์ (Zarganar) แต่ชื่อจริงคือ เมือง ทูรา (Maung Thura) เป็นนักแสดงตลก และนักวิจารณ์รัฐบาลชื่อดัง
        เรื่องนี้ถือเป็นสัญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่กำลังเกิดขึ้นในพม่า หลังประเทศถูกปกครองโดยเผด็จการทหาร มานานหลายทศวรรษ

content/picdata/434/data/photo_00095.jpg
        นาย ซากานาร์ นั้น เป็นศิลปิน ที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกับรัฐบาลทหารพม่าที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด ได้รับโทษจำคุกถึง 59 ปี และลดโทษเหลือ 35 ปี
        เขาถูกจับในปี 2551 หลังจากให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุไซโคลนนากิส นายซากานาร์ได้ให้สัมภาษณ์วิทยุคลื่นสั้น เสียงประชาธิปไตยแห่งพม่า หรือ DVB (Democratic Voice of Burma) ที่ส่งกระจายเสียงจากนอร์เวย์ เข้าไปในพม่า เรียกร้องให้สาธารณชน ลุกขึ้นสนับสนุนพระสงฆ์พม่า
        ตลกพม่าคนนี้ พูดเอาไว้ลึกซึ้งว่า        พระ สงฆ์ออกไปประท้วง พร้อมสวดมนต์เพื่อประชาชน ขณะที่ชาวบ้านกลับนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่บ้าน ทำให้ตัวนายซากานาร์เอง รู้สึกละอาย และพูดต่อไปอีกว่า
        พวกเขาอยู่ในวงการบันเทิง หาเลี้ยงตัวเองด้วยเงินจากชาวบ้าน ปัญหาของประชาชน ก็เป็นปัญหาของศิลปินด้วย 
        เพราะหากประชาชนจนลง ศิลปินก็จนลงเช่นกัน!

        ฟังแล้ว ดูจะไม่เหมือนกับบ้านเรา เพราะเมื่อมีการปฏิวัติรัฐประหารปี พ.ศ.2549 บรรดาศิลปินต่างๆ พากันรับจ๊อบจากพวกยึดอำนาจ ไปแสดงตามงานต่างๆ ที่ไอ้เวรพวกนี้จัดขึ้น เพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ หรือโชว์ผลงานเหยียบย่ำประชาชน ของไอ้พวกเผด็จการ หรือไม่ก็จัดการแสดงขึ้น โดยใช้เงินหลวง ด้วย
จุดมุ่งหมาย เพียงเพื่อระดมผู้คน ให้เข้ามาเป็นพวกมัน ด้วยความกลัวขึ้นสมองว่า
        ผู้คนในบ้านเมืองเขา จะ “ต่อต้าน” พวกมัน!      
        ชาวบ้านเสียไม่ได้ ก็พาไปดูกันกะพร่องกะแพร่ง แสดงจบศิลปินก็รับเงินค่าตัวกัน แล้วกลับบ้านสบายไป      
        ในตอนนั้น ผมเห็นมีแต่ปล่อย “พี่เป้า” หรือคุณ “สายัณห์ สัญญา” ไปเดี่ยวไมโครโฟนกลางสนามหลวง ท้าทายพวกเผด็จการทหารเหยงๆ
        คนเดียวจริงๆ!!

        มุกตลก ที่ขึ้นชื่อที่สุดของซากานาร์นั้น น่าจะเป็นเรื่องโจ๊กของเขา เกี่ยวกับความเก่งของพวกรัฐบาลทหารพม่า โดยดาวตลกเมืองหม่อง เล่าว่า...
        ...ชายสามคน ประกอบด้วยชาวฝรั่งเศส อเมริกัน และชาวพม่านั่งสนทนากัน      
        คนฝรั่งเศสได้คุยโม้ ถึงความเก่งกาจของชาวเมืองน้ำหอม โดยบอกว่า      
        “คนฝรั่งเศสนั่นน่ะนะ ขนาดขาขาดสองข้าง ยังสามารถปีนป่าย พิชิตยอดเขาเอวอเรสต์ได้” คนอเมริกันขี้โม้ มีหรือจะยอมจำนนง่ายๆ เกทับกลับไปว่า      
        “แค่นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนี่ คนอเมริกันไม่มีแขนทั้งสองข้าง ยังแล่นเรือใบรอบโลกมาแล้ว”      
        ฝรั่งสองชาติหันมามองดูคนพม่าว่า จะออกความเห็นอย่างไร ก็เห็นคุณหม่องขยับโสร่ง ก่อนพูดขึ้นว่า

        “สู้ทหารพม่าไม่ได้เด็ดขาด...เพราะขนาดในหัวกบาลไม่มีสมองซักกะนิดเดียว...
        พวกมันยังบริหารบ้านเมือง กันได้เลย!!!”

        แค่นี้ ผู้คนฟังคุณซากานาร์แล้ว...ได้ “เฮ” กันสนั่นไป      
        ดาวตลกของพม่าคนนี้ เสียดสีเผด็จการอย่างถึงพริกถึงขิง พวกทหารที่กุมอำนาจอยู่ก็หมั่นไส้ แต่ทำอะไรไม่ถนัด เพราะหากขืนทำอะไรลงไป      
        ก็มีแต่เสีย...กับเสีย เท่านั้น!

        อย่างไรก็ตาม ฝ่ายเผด็จการนั้น ความอดทนอดกลั้นต่ำกว่าผู้คนปกติ ในที่สุดรัฐบาลทหารพม่า ก็ออกอาการ “เม้งแตก” สั่งจับกุมซากานาร์ดาวตลกยอดนิยม ในข้อหาสร้างเรื่องตลกเป็นภัยกับรัฐบาล จนทำให้เขาถูกคุมขังจนได้
        ระหว่างถูกขังคุก “อินเส่ง” ในนครย่างกุ้ง ที่ร่ำลือในเรื่องความโหดร้ายทารุณ อยู่หลายปี และระหว่างนั้น ดาวตลกหัวแข็งยังถูก “ขังเดี่ยว” อีกนานเป็นปีๆ สภาพภายในห้องที่ถูกคุมขัง ไม่มีแม้กระทั่งน้ำชำระหลังปลดทุกข์
        ต้องใช้ใบไม้แทน!        มีคนถามเรื่องการถูกขังเดี่ยวนานเป็นปี แต่พอถูกปล่อยออกมา ดาวตลกคนดัง กลับไม่มีร่องรอยแห่งความเศร้าสร้อย แต่กลับ “ตลก”ได้อีก ราวกับว่า
        เขาไม่ได้เข้าไปอยู่ในคุก สุดยอดทารุณแห่งหนึ่งของโลก แต่ไปพักผ่อนในรีสอร์ทชั้นดี อย่างนั้นเลยทีเดียวเชียว
        คุณซากานาร์ บอกว่า

        เขาใช้เวลาที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่ได้พูดจากับใครนานเป็นปีๆได้ ด้วยการทำใจรับสภาพ และใช้เวลาที่ถูกคุมชัง ครุ่นคิดแต่
        มุกตลก!        เตรียมเอาไว้ ออกจากคุก จะได้นำไปเล่าให้แฟนๆชาวพม่าได้ฟังกัน
        บางครั้งเขาก็สร้างพล๊อต แต่งนิยาย หรือเรื่องสั้นเอาไว้ในใจ เพราะไม่มีกระดาษดินสอสำหรับการขีดเขียน โดยเตรียมการเอาไว้ว่า
        เมื่อได้รับอิสรภาพ จะได้นำเรื่องพล็อตเรื่องต่างๆ ที่แต่งเอาไว้ในคุก ไปทำเป็นภาพยนตร์ ที่เจ้าตัวมีความใฝ่ฝันอยากสร้างมานานนักหนาแล้ว

        คุณซากานาร์ออกจากคุกแล้ว ได้เดินทางไปปรากฏตัวตามประเทศต่างๆ ซึ่งได้รับความชื่นชมจากผู้คนมากมาย เพราะเขาไปใช่ตลกธรรมดา แต่เป็น
        ตลก...วีรบุรุษ!
        ดาวตลกผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ เดินทางไปเยี่ยมครอบครัว ที่ย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกาแล้ว แต่เขาบอกถึงความตั้งใจกับสื่อว่า
        จะต้องเดินทาง กลับไปพม่าอีก!         นักข่าวแปลกใจถามว่า
        จะกลับไปทำไมกัน เดี๋ยวก็ถูกขังอีกหรอก!?        คุณซากานาร์ ตอบว่า

        ไม่กลับไม่ได้ เพราะพรรคพวกเพื่อนฝูง ยังถูกขังอีกหลายคน ทิ้งเพื่อนไม่ได้...ต้องกลับไปช่วย!
        ผมว่า หัวใจของผู้ชายคนนี้...น่ากราบจริงๆ!!
        ล่าเรื่องของคุณซากานาร์แล้ว อยากให้ผู้คนในบ้านเมืองเรา ตระหนักกันเอาไว้ให้จงดีว่า
        พวกเราคนไทย อย่าได้ไปสรรเสริญ การกระทำของไอ้คนที่มัน ขับรถถังบุโรทั่ง ยกพวกถือปืน ออกมาทำกร่าง แล้วยึดอำนาจของปวงชนชาวไทยไปจากพวกเรา
        เพราะ...
        นั่นมันเป็นการกระทำเยี่ยง “โจร” ทั้งเลวร้ายและผิดกฎหมาย เป็นอันตรายต่อสิทธิเสรีภาพ ของผู้คนในบ้านในเมืองของเรา
        อย่างนี้นี่เอง ที่โลกอารยะเขาถึงพากัน...รังเกียจนักหนา!! 

        ดังนั้น พวกเราคนไทย ที่รักอิสรภาพและความเป็น “ไท” แก่ตัวเอง ตามชื่อเผ่าพันธุ์ของชาติเรา จงอย่าได้ไปเห็นดีเห็นงาม กับพวกมัน....เป็นอันขาด!!!
        ท่านผู้อ่าน ที่เคารพ
        ผมแปลกใจจริงๆครับ ที่ผู้คนในโลกใบนี้ เขายึดมั่นและเชิดชูระบอบประชาธิปไตย แต่ไอ้พรรคการเมืองระยำประจำประเทศนี้ มันกลับออกแถลงการณ์ ประจานตัวเองว่า
        การปฏิวัติรัฐประหาร เป็นแค่การ “แทรกแซง” ของทหารเท่านั้น!
        โถ...ไอ้พวกแมลงสาบ...ไอ้พรรคจังไร!!
        พวกมึงนี่ “จังไร” จริงจิ๊งงงง!!!
................
ท้ายบท ช่วง 2-3 สัปดาห์นี้ ผมกำลังอยู่ระหว่างการเดินทาง ไม่สามารถติดตามข่าวสารบ้านเมืองได้เหมือนเดิม จึงไม่เขียนวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ปัจจุบัน แต่เขียนเรื่องที่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับท่านผู้อ่านแทน
        เมื่อกลับถึงกรุงเทพแล้ว ข้อเขียนจะเข้มข้นเหมือนเดิมแน่ครับ

        นึ่ง ความเห็นของแฟน ที่โพสต์ท้ายคอลัมน์สัปดาห์ก่อน
ไอ้รัฐธรรมนูญ...โคตรเหี้ย!! (ฉบับ 50 นั่นแหละ!!!)  http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=433
มีดังต่อไปนี้ครับ

ความคิดเห็นที่ 1   
เหี้ยจริงๆ
โดยคุณ เห็นด้วย  118.172.173.XXX 

ความคิดเห็นที่ 2   
สัปดาห์นี้ ไม่มีความเห็นครับ เพราะบทความของท่าน โดนเต็มๆโดยเฉพาะ คำว่า“เริ่มต้นไม่ดี อัปรีย์จึงบังเกิด!” ถูกใจผมจริงๆ
โดยคุณ วาดฝัน ตะวันรักดี  58.11.187.XXX 

ความคิดเห็นที่ 3   
อาจารย์มีความคิดเห็นอย่างไรกับกลุ่มหน้ากากขาว และผู้อยู่เบื้องหลัง เช่น ไอ้หน้าแหลมฟันดำ ที่ขึ้นเวทีว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ไม่ได้
โดยคุณ หน้ากากขาว  125.27.13.XXX 

ความคิดเห็นที่ 4   
ก่อน วันที่จะลงประชามติ ไอ้รัฐธรรมนูญเฮงซวย ฉบับ ปี 50 บรรดาเหล่าทหารบก แต่งชุดออกศึกเดินถืออาวุธสงครามไปทั่วในหลายจังหวัด แม้แต่ใน กทม.เดินกร่างเต็มไปหมด อ้าง พรก. หรือ พรบ.อะไรของมันตามแต่มันจะอ้าง บอกว่าถ้าไม่รับรัฐธรรมนูญเฮงซวยที่มันร่างกันขึ้นมา จะหยิบฉบับโน้นฉบับนี้มาใช้นะเฟ้ย รับๆไปก่อนแล้วแก้ทีหลังได้ แก้ง่ายจะตายไป ไอ้ จ. จัญไร มันแหกตาชาวบ้านไว้ ผมดูแล้ว รัฐธรรมนูญบ้าบออะไรวะ ม.309 บอกว่าสิ่งใดที่ไอ้พวกนี้ทำ ในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต ไม่ถือเป็นความผิด ไม่รู้ว่าในสุริยะจักรวาล หรือในกาแลกซี่ทางช้างเผือก จะมีประเทศไหนที่มันเขียนรัฐธรรมนูญได้อัปรีย์จัญไรเท่านี้หรือไม่ ประชามติที่ผมลงคะแนนไปคือ VOTE NO กูไม่เอารัฐธรรมนูญอัปรีย์แบบนี้
โดยคุณ รินทร์ 58.8.251.XXX 

ความคิดเห็นที่ 5   
มันหัวคูณด้วยกันทั้งหมด ทั้ง "รัดทำมะนวย" และ "ตุลากวย" ชาวบ้านเลยต้องลุกขึ้นสู้
โดยคุณ อายฝรั่งจริงๆ  180.183.251.XXX 

ความคิดเห็นที่ 6    เพิ่งรู้จักเว็บนี้ รู้สึกว่าได้รู้เรื่องที่ไม่เคยทราบมาก่อน กำลังจะอ่านย้อนหลัง เพื่อหาความรู้ต่อไป
โดยคุณ ผู้มาใหม่  49.49.45.XXX 

        (***คอลัมน์ ประจำสัปดาห์ ดาวตลก...วีรบุรุษ ออนไลน์ วันเสาร์ ที่ 15 มิถุนายน 2556)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น