นาง
สาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับนายธีรัตถ์ รัตนเสวี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชนว่า ตั้งแต่
ที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศเมื่อสองปีก่อน
ต้องการที่จะแก้ปัญหาเรื่องของความยากจนของพี่น้องประชาชน
โดยเฉพาะเกษตรกรอย่างไร
ดังนั้นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลคือการเข้าไปพยุงราคาสินค้าหรือราคาข้าวให้
ดีขึ้น จึงเป็นที่มาของโครงการรับจำนำข้าวที่เป็นนโยบายเร่งด่วนในปีแรก
นายก
รัฐมนตรีกล่าวว่า หลายฝ่ายอาจมองว่าโครงการรับนำจำข้าวขาดทุน แต่จริง ๆ
แล้วต้องเรียกว่าเป็นการจัดสรรงบประมาณในการดูแลช่วยเหลือเพื่อคุณภาพชีวิต
ของชาวนา
เช่นเดียวกันกับผู้ใช้แรงงานที่เรามีการปรับเรื่องของรายได้ขั้นต่ำ 300 บาท
ซึ่งเงินทุกบาททุกสตางค์จะใช้ไปในการหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
และได้ภาษีกลับคืนกลับมาสู่ระบบ พร้อมๆ กับทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตมากขึ้น
อย่าง
ไรก็ตามการปรับลดเงื่อนไขการรับจำนำข้าวนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า
เป็นการนำเสนอจากคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ ประกอบกับรัฐบาลที่ต้องรักษาสมดุล
และทำให้ราคาสะท้อนราคาตลาดโลก
เพราะที่ผ่านมาจากการคำนวณของโครงการรับนำจำข้าว
รัฐบาลยึดในราคาตลาดโลกระดับหนึ่ง แต่เมื่อผ่านไปปีกว่าราคาตลาดโลก
ไม่ได้ปรับขึ้นอย่างที่คิด
ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งทำให้การขายข้าวทำได้ยาก
และประเทศเพื่อนบ้านก็มีปริมาณข้าวที่มากขึ้นด้วยในระบบ
จึงต้องปรับลดลงราคาลงมาบ้าง ขณะเดียวกัน
ถ้าราคาตลาดโลกสูงขึ้นเราก็ปรับราคาสูงขึ้นเพื่อให้ยืดหยุ่นตามกลไกการตลาด
นอกจากนี้เราต้องรักษาวินัยการเงิน
การคลังเพื่อทำให้เศรษฐกิจของเราเติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อให้นักลงทุนมั่นใจ
กับการดำเนินงานของรัฐบาล
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่าการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรในระยะยาว
คือการปฏิรูปเน้นเกษตรโซนนิ่ง
ด้วยการปรับว่าพื้นที่ไหนจะเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมในการเพาะปลูกอะไร
เพื่อให้ได้ผลผลิตที่สูงสุด
นาย
ลักษณ์ วจนานวัช กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
หรือ ธกส. ยืนยันว่าในช่วงเวลา 2 ปีของโครงการรับจำนำข้าวทาง ธกส.
ได้โอนเงินโดยตรงเข้าบัญชีชาวนาแล้วกว่า 4 ล้านรายคิดเป็นมูลค่ากว่า
628,947 ล้านบาท โดยเกษตรกรถึง 97.8%
เห็นว่าโครงการมีส่วนช่วยลดภาระหนี้สินทั้งในและนอกระบบ 93.7%
บอกว่าพอใจต่อโครงการ และ 85.4% บอกว่าทำให้มีเงินฝากมากขึ้น
กรรมการ
ผู้จัดการ
ธกส.กล่าวอีกด้วยว่าโครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมาไม่กระทบฐานะทางการเงินของ
ทางธนาคารเพราะดำเนินการตามกรอบที่ได้วางเอาไว้
ที่สำคัญกลับทำให้หนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL
ของธนาคารลดลงจากระดับ 6.57% ในปี 2554 เหลือเพียง 3.95% ในปี 2556
ขณะที่ยอดเงินฝากของธนาคารเพิ่มขึ้นถึง 71.32% จากระดับ 146,358
ล้านบาทในปี 2554 มาเป็น 250,740 ล้านบาทในปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น